สังคม
ทนายของเมียและลูก “หมอบุญ” รับลูกความเครียดจัดรํ่าไห้กลางศาล
28 พ.ย. 2567
43 views
ทนายเมียและลูก “หมอบุญ” รับลูกความเครียดจัดรํ่าไห้กลางศาล ขอความเมตตาศาลปล่อยตัวสู้คดี ขณะที่พนักงานสอบสวนค้านประกันเหตุคดีมีมูลค่าสูง ยันชัด! ติดต่อหมอบุญไม่ได้เพราะไม่ใช่ทนายความ
วันนี้(28 พ.ย. 67) ทนายความของ นางจารุวรรณ อายุ 79 ปี และ น.ส.นลิน อายุ 51 ปี ภรรยาและบุตรสาวของนายแพทย์บุญ ผู้ต้องหา ในคดี “ร่วมกันข้อหาฉ้อโกง , สมคบกันฟอกเงิน และ พ.ร.บ.เช็ค” เปิดเผยหลังยื่นคําร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวจําเลยทั้งสองคนว่า ตนเองได้แถลงต่อศาลว่าจําเลยทั้งคู่ไม่มีพฤติการณ์หลบหนีหรือจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานและพร้อมปฏิบัติตามคําสั่งศาลอย่างเคร่งคัด
รวมถึงเหตุผลเดิมที่เรื่องของลายมือชื่อปลอมและปัญหาด้านสุขภาพ แต่ทางพนักงานสอบสวนให้เหตุผลในการคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีมูลค่าความเสียหายสูง สําหรับกรณีนี้ตนไม่อยากก้าวล่วงศาล ซึ่งทุกอย่างนําเสนอต่อศาลไปหมดแล้วขึ้นอยู่กับศาลจะเมตตา
ส่วนกรณีที่ลูกความทั้งสองมีอาการเครียดถึงกับร้องไห้ในห้องพิจารณา ทนายความ ระบุว่า เป็นเรื่องปกติเพราะทั้งคู่เคยใช้ชีวิตอยู่แต่ภายนอกอีกทั้งมีปัญหาเรื่องสุขภาพ โดยลูกสาวเป็นโรคซึมเศร้าตนไม่ขอพูดอะไรมากเพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าโรคนี้หากพูดตอกยํ้าจะยิ่งทําให้แย่ลงได้ ในส่วนของแม่มีปัญหาหลายอย่างเกี่ยวกับผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตามหากศาลพิจารณาแล้วยกคําร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ทางทีมทนายและลูกความจะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง
สําหรับเรื่องคดีทางทนายความ ยืนยันว่า จําเลยทั้งสองยืนยันคําเดิมต่อหน้าศาลว่าไม่รู้เห็นหรือมีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องของการปลอมลายเซ็น โดยมีการนําเอกสารเก่ามาตรวจสอบพบเป็นการปลอมเซ็นอย่างแน่นอน ส่วนที่หลายคนมองว่าการกล่าวอ้างเรื่องการหย่าในครอบครัวเป็นการหย่าการเมืองหรือปลอมๆนั้น เป็นสิทธิของทุกคนที่จะคิดได้ ทั้งนี้ลูกความทั้งสองไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ ขอเพียงของใช้ส่วนตัวเท่านั้น
ส่วนกรณีที่ “หมอบุญ” หลบหนีไปประเทศจีนนั้น ทนายความ ยืนยันว่า ส่วนตัวไม่ได้มีการติดต่อไปหาหมอบุญแต่อย่างใดเพราะตนไม่มีช่องทางและไม่ใช่ทนายความของ “หมอบุญ”
เมื่อถามถึงเหตุผลที่ไม่ไปแจ้งความที่พื้นที่เกิดเหตุ ทนายความ ระบุว่า เพราะลูกความของตนไม่ทราบเรื่องมาก่อน เพิ่งรู้ตอนมีการฟ้องร้องจากผู้เสียหายจํานวนมากจึงรวบรวมพยานหลักฐานและข้อมูลทั้งหมดเข้าแจ้งความกับ บก.ปอศ. ส่วนกรณีที่ตํารวจพิจารณาจะนําคดี “หมอบุญ” และพวกโอนไปให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษนั้น ส่วนตัวมองว่าเป็นการกระบวนการทํางานของเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่างถามถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนขอศาบออกหมายจับได้เพราะคาดว่ามีเส้นเงินเกี่ยวข้องถึงจําเลยทั้งสองนั้น ทางทนายความ ระบุว่า ตนไม่ทราบระเอียดทั้งหมดที่ทางพนักงานสอยสวนเสนอต่อศาลในการออกหมายจับ ดังนั้นจะต้องไปพิสูจน์กันต่อเพื่อยืนยันว่าลูกความถูกปลอมลายเซ็นจริง
แท็กที่เกี่ยวข้อง อาชญากรรม ,หมอบุญ ,ฉ้อโกง