อาชญากรรม

ขุดรากถอนโคน แก๊งหลอกเทรดหุ้น ปลอมเพจร้านทองชื่อดัง พบเงินหมุนเวียนกว่าพันล้าน

โดย nattachat_c

1 พ.ย. 2566

516 views

เปิดปฏิบัติการขุดรากแก๊งมิจฉาชีพ ตำรวจสอบสวนกลาง ทลายแก๊งปลอมเพจร้านทองออโรร่า ชวนเทรดหุ้น ก่อนอ้างกำไรงาม ร้อยละ 20-30 ของเงินลงทุน จับนายทุนจีน - หัวหน้าแก๊งคนจีน - นอมินีคนไทย - บัญชีม้า รวม 26 ราย พบเส้นทางเงินนับพันล้าน เปิดบริษัทบังหน้า รับเงินมาก่อนแปลงเป็นสินค้า - อสังหาฯ - คริปโต เร่งขยายผลธุรกิจนอมินี ไล่เช็คทุกบัญชีการเงิน แผนประทุษกรรมเลือกเป้าหมายนักลงทุน ผู้เกษียณอายุ กลุ่มคนหาคู่


วานนี้ (31 ต.ค. 66) ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) แถลงการจับกุมเครือข่าย เปิดเพจร้านทองออโรร่าปลอม ก่อนชวนเหยื่อเทรดหุ้น ใน 21 จุดเป้าหมาย ใน 8 จังหวัด ภายใต้ปฏิบัติการ 'CIB Anti- Online Scam ขุดรากแก๊งปลอมเพจหลอกชวนเทรดหุ้น'


ปฏิบัติการนี้ สามารถจับกุม เสี่ยว หยางเฟย อายุ 30 ปี หัวหน้าแก๊งชาวจีนได้ พร้อมกับเครือข่ายระดับ 'บอส' อีก 3 คน ได้แก่

  • 1. อ้ายเสี่ยหลิว (Ms. Aixia Liu) อายุ 48 ปี สัญชาติ จีน
  • 2. หลงหัวเปียว (Mr. Long Huabiao) อายุ 38 ปี สัญชาติจีน
  • 3. น.ส.สกุณา จันทร์สุข อายุ 44 ปี
  • พร้อมผู้ร่วมขบวนการอีก 22 คน
  • รวมทั้งสิ้น 26 คน


ขบวนการนี้แบ่งกลุ่มหลอกลวงประชาชน ได้แก่

  • กลุ่มทำการโฆษณา
  • กลุ่มชักชวนเหยื่อลงทุน
  • กลุ่มหลอกลวงเหยื่อ
  • กลุ่มทำหน้าที่ยักย้ายถ่ายเทเงินในบัญชีผ่านบัญชีม้า อีกจำนวน 23 คน


ทั้งหมดเป็นการกระทำความผิดฐาน

  • ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
  • ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น
  • ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
  • ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน


สามารถตรวจยึดของกลาง ได้แก่

  • 1. เงินสดใน Bitkub 28 ล้านบาท
  • 2. สมุดบัญชี 23 เล่ม
  • 3. โทรศัพท์ 21 เครื่อง
  • 4. ซิมการ์ด 19 ซิม
  • 5. คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก และแท็บเล็ต 3 เครื่อง
  • 6. เงินสด 100,000 บาท
  • 7. กล้องวงจรปิด
  • 8. เอกสารอื่น ๆ อีก 20 รายการ
  • รวมมูลค่าทั้งหมด 30,928,305 บาท

------------

ทั้งนี้ ปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ กรณีถูกหลอกให้ร่วมลงทุนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ปอศ.


จึงได้สืบสวนขยายผล จนทราบว่า คนร้ายมีพฤติการณ์สร้างกลอุบายเพื่อหลอกลวงเหยื่อผ่านเพจเฟซบุ๊กปลอมจำนวนมาก


มีการอ้างเป็นเพจ 'ร้านทองออโรร่า' และใช้ชื่อเพจว่า 'ซื้อ-ขายหุ้นสำหรับมือใหม่' เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ทั้งยังใช้โลโก้ หรือเอกสารปลอมของร้านทองดังกล่าว ประกอบกับมีการโฆษณาผ่านเฟซบุ๊กเป็นจำนวนมาก ทำให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่าย


ก่อนจะมีการชักชวนให้ลงทุนในการเทรดหุ้น ซึ่งมีการแบ่งเป็นแพ็คเกจต่าง ๆ โดยมีการการันตีระยะเวลาในการลงทุนแต่ละครั้งว่า ลงทุนเพียง 5 - 20 นาที ก็จะได้ผลกำไรสูงถึง 20 - 30 %


และเมื่อเหยื่อหลงเชื่อตัดสินใจร่วมลงทุน ก็จะมีการแชทข้อความมาพูดคุย ทักมาอ้างตัวว่า เป็นผู้แนะนำการลงทุน สังกัด ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) พร้อมกับส่งเอกสารสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์มาให้เหยื่อดู เพื่อสร้างความมั่นใจ


ในช่วงแรกนั้น เหยื่อจะได้กำไรจริง และสามารถถอนเงินออกมาได้ปกติ ยิ่งเพิ่มแรงจูงใจให้มีการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเริ่มให้เหยื่อโอนเงินในจำนวนน้อยเริ่มต้น 1,000 บาท ใช้เวลาการลงทุน ลงทุนเพียง 5 - 20 นาที ก็จะได้เงินกำไร 20-30% ทันที ซึ่งแท้จริงแล้วผลกำไรต่าง ๆ เป็นเพียงแค่ตัวเลขที่สร้างขึ้นมา เพื่อดึงดูดใจจากเหยื่อ แต่ไม่สามารถถอนออกมาเป็นตัวเงินได้


แต่เมื่อเหยื่อขอถอนเงินทั้งหมด ทางมิจฉาชีพก็จะอ้างเหตุผลต่าง ๆ เช่น ต้องโอนยอดเดิมเข้ามาใหม่ แล้วต้องบันทึกช่วยจำว่าปลดล็อกการเทรดเป็นต้น


โดยบางรายมีการลงทุนสูงถึง 3.2 ล้านบาท เพราะเชื่อว่าจะได้กำไรในระยะเวลาอันสั้น เมื่อเหยื่อลงทุนเงินจำนวนที่สูงขึ้น กลับไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ โดยกลุ่มคนร้ายได้ทำการสร้างเงื่อนไขไว้ เช่น ต้องชำระค่าแนะนำให้การเทรด หรือ ค่าภาษี หากต้องการถอนเงินที่ได้ลงทุน


จากกรณีดังกล่าว ทำให้มีประชาชนหลงเชื่อ และร่วมลงทุนเทรดหุ้น (ปลอม) จำนวนมาก เกิดเป็นความเสียหายเบื้องต้นเกือบ 4 ล้านบาท (เฉพาะที่มาแจ้งที่ บก.ปอศ)


ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่า ยังมีผู้เสียหายอื่นอีกจำนวนมาก เนื่องจาก พบมีเงินโอนเข้าบัญชีม้าจำนวนมาก และมีเงินหมุนเวียนกว่า 1,000 ล้านบาท

------------

จากการสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ขบวนการนี้มีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจนโดยแบ่งเป็น...

  • กลุ่มที่สร้างเพจเฟซบุ๊ก
  • กลุ่มทำการโฆษณา
  • กลุ่มที่ชักชวนเหยื่อลงทุน
  • กลุ่มหลอกลวงเหยื่อ
  • กลุ่มทำหน้าที่ยักย้ายถ่ายเทเงินในบัญชีผ่านบัญชีม้า


นอกจากนี้ ยังพบว่า เงินที่ได้จากการหลอกลวงบางส่วน มีการนำไปแปลงเป็นทรัพย์สิน แปลงเป็นสินค้าเพื่อส่งออกไปขายในประเทศเพื่อนบ้าน และแปลงเป็นสกุลเงินดิจิทัล (CRYPTO CURRENCY) อีกด้วย เบื้องต้น พบเงินหมุนเวียนในบัญชีขบวนการนี้ อีกกว่า 1,200 ล้านบาท


ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐาน และขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 50 ราย และนำไปสู่การปฏิบัติการ CIB Anti - Online Scam : ขุดรากถอนโคนแก๊งปลอมเพจ หลอกชวนเทรดหุ้น เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา


ซึ่งปฏิบัติการนี้ เป็นการเข้าตรวจค้นจับกุมเป้าหมาย จำนวน 21 จุด ในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่

  • กรุงเทพมหานคร
  • ปทุมธานี
  • สมุทรปราการ
  • สมุทรสาคร
  • ชลบุรี
  • สุรินทร์
  • ชัยภูมิ
  • ตาก


จากการตรวจค้นเป้าหมาย 21 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 26 ราย ในจำนวนนี้ เป็นกลุ่มผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่ ดังนี้

  • รับจ้างเปิดบริษัทให้กับนายทุนชาวจีน
  • ผู้ต้องหากลุ่มที่ทำหน้าที่เป็นแอดมินเพจเฟซบุ๊ก
  • ผู้ต้องหาที่ทำหน้าแชทหลอกลวงผู้เสียหาย
  • ผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีรับโอนเงิน (บัญชีม้า)


ยึดของกลางได้จำนวนมาก มูลค่ารวมกว่า 30 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหา และพยานหลักฐานต่าง ๆ นำส่ง พนักงานสอบสวนดำเนินคดี และยังมีทรัพย์สินอื่น ที่อยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเพื่อยึดอายัดเพิ่มเติม

------------

แผนประทุษกรรมของมิจฉาชีพในการหลอกลวงเหยื่อ มีดังนี้

  • กลุ่มมิจฉาชีพจะสร้างเพจปลอม/เว็บปลอม 
  • มีพนักงานที่คอยคุยหลอกล่อเหยื่อ/คนที่หาบัญชีม้า
  • กลุ่มคนทำกราฟฟิกคอนเทนต์
  • กลุ่มคนที่ทำการตลาดโดยการยิง Ads
  • ซึ่งจะมีการเลือกเป้าหมาย นักลงทุน ผู้เกษียณอายุ กลุ่มคนหาคู่


แผนประทุษกรรมการฟอกเงินของคนร้าย เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน มีแผนการ ดังนี้

  • โอนเข้าบัญชีม้าแถวที่ 1 ไปแถวที่ 2 และแถวที่ 3 ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นบัญชีคนไทย
  • จากนั้นจะถูกโอนไปยังแถวที่ 4 ซึ่งเป็น 'บัญชีรวมเงิน' ของกลุ่มคนจีน
  • เงินทั้งหมดนี้ จะถูกแปลงทรัพย์สินต่าง ๆ เป็นลักษณะการฟอกเงิน จากเงินเทาเป็นเงินขาว

------------

วิธีการนำเงินทั้งหมด ไปแปลงเป็นทรัพย์สินต่าง ๆ มี 2 วิธี คือ


วิธีที่ 1

นำไปสั่งซื้อของอุปโภค บริโภค จากต่างประเทศ เช่น ปุ๋ย , เครื่องปรับอากาศ , อะไหล่รถ แล้วส่งไปที่ ประเทศกัมพูชา ลาว เพื่อขายกลับมาเป็นเงินสด


วิธีที่ 2

ทำการเปิดบริษัท มีผู้ถือหุ้นเป็นชาวจีน และ กรรมการเป็นคนไทย ก่อนนำไปซื้อเงินสกุลดิจิทัล ซื้ออสังหาริมทรัพย์ และสังหาริมทรัพย์  กองทุน รถยนต์ ศัลยกรรม

------------

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า


ผู้ต้องหาทั้งหมดจำนวน 26 คน ที่จับกุมตัวได้นั้น เบื้องต้น มีบางส่วนให้การภาคเสธ และบางส่วนให้การปฏิเสธ


หลังจากนี้ จะเร่งขยายผล และติดตามจับกุม ซึ่งปกติแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะมีฐานที่ตั้งอยู่ในแถบประเทศเพื่อนบ้าน แต่กลุ่มนี้มีฐานที่ตั้งอยู่ในไทย เพราะไม่ได้ใช้โทรศัพท์ ต่างจากเคสส่วนใหญ่


ตำรวจสอบสวนกลาง ขอเตือนภัยประชาชนที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์และมีความสนใจที่จะลงทุน โปรดระมัดระวังการเข้าไปคลิก หรือให้ข้อมูลส่วนตัวแก่บุคคลที่ไม่รู้จัก หรือเพจที่ไม่น่าเชื่อถือ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของขบวนการหลอกให้ลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงในระยะเวลาอันสั้น โปรดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจทุนจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ

------------

นอกจากตัวอย่างเพจที่นำเสนอแล้ว ยังพบว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีเพจเที่นำภาพห้างทองออโรร่ามาใช้ และระบุข้อความว่า "เปิดขายกองทุนรวมทอง 1,000 รับปันผล 260 ต่อวัน //3,000 รับปันผล 780 ต่อวัน" เป็นต้น


บางเพจใช้ชื่อว่า บริษัท ออโรร่า เทรดดิ้ง จำกัด ที่ระบุว่า เปิดขายกองทุนรวมหุ้นทองคำ รับเงินปันผล 5% ถึง 31% ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา เงินปันผลสามารถแลกเปลี่ยนเป็นทองได้


ทีมข่าวได้สอบถามไปที่ aurora gold and jewelry เพื่อสอบถามว่า ทั้ง 2 เพจดังกล่าว ใช่เพจของออโรร่าจริงหรือไม่ ทางแอดมินได้ตอบกลับมาว่า “เป็นเพจมิจฉาชีพค่ะ บริษัทไม่ได้เปิดลงทุนใด ๆ นะคะ”


ขณะที่ร้านทองออโรร่า ประกาศแจ้ง ระบุว่า


“โปรดระวังมิจฉาชีพ บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 เนื่องจากมีกลุ่มมิจฉาชีพ ปลอมแปลง นำชื่อของบริษัทไปใช้ในการหลอกลวง หลอกลงทุน หลอกซื้อขายหุ้น หลอกให้โอนเงิน หลอกเอาข้อมูลส่วนตัว ซึ่งทางบริษัทไม่มีนโยบายดังกล่าว รวมถึงการโอนเงินจะต้องเป็นชื่อบัญชีของบริษัทเท่านั้น”

-------------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/XjtCytb1NUQ


คุณอาจสนใจ

Related News