อาชญากรรม

ญาติเหยื่อ 'ผับมรณะ' เกรงอิทธิพลในพื้นที่ ร้องกองปราบขอโอนคดี พ้อเงินเยียวยาไม่พอค่ารักษา

โดย nattachat_c

16 ส.ค. 2565

19 views

วานนี้ (15 ส.ค. 65) ทนายรณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาครอบครัวผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์เพลิงไหม้สถานบันเทิง Mountain B รวม 13 ราย เข้าร้องทุกข์ที่กองบังคับการปราบปราม  


เพื่อขอให้โอนย้ายคดีมาดำเนินการที่ส่วนกลาง ด้วยเหตุผล 2 ข้อคือ

1. เกรงว่าจะมีอิทธิพลในพื้นที่

2. พื้นที่ทางตำรวจและฝ่ายปกครองมีผลประโยชน์ทับซ้อนกัน


โดยญาติได้ไหว้พระพุทธรูปซุ้มหน้ากองบังคับการปราบปราม ก่อนเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน


ทนายรณรงค์ กล่าวว่า การให้ตำรวจกองปราบปราม รับสอบสวนดำเนินคดีนี้ จะทำให้พยานมีความมั่นใจในการเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจมากขึ้น โดยให้ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ตรวจสอบใน 3 ประเด็น คือ

1. สถานบันเทิงดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หรือไม่

2. สถานบันเทิงแห่งนี้มีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เกี่ยวข้องหรือไม่

3. เจ้าของผับที่ถูกดำเนินคดี ไม่ใช่เจ้าของสถานประกอบการตัวจริงหรือไม่

และจะพาญาติผู้เสียหายที่เสียชีวิตและบาดเจ็บไปร้อง ผบ.ตร.เร็ว ๆ นี้


พร้อมกันนี้ ยังนำภาพการลงตรวจของเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน มาให้สื่อดู ที่มีเจ้าหน้าที่มหาดไทย ฝ่ายปกครอง มาตรวจสอบ แต่กลับอ้างว่าไม่ทราบว่ามีผับจึงเป็นไปไม่ได้


รวมถึงได้นำสลิป การโอนเงินค่าเหล้าเมื่อตอนตี 2 ครึ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีการเปิดเกินเวลา พร้อมถามว่า ผลการตรวจสอบสั่งย้ายนายอำเภอ หรือเจ้าหน้าที่มีออกมาหรือยัง


และมีข้อมูลว่ามีเจ้าหน้าที่ไปไหว้บางคนในผับอยู่

-------------

นายอภิชัย อินศิริ อายุ 56 ปี พ่อของนางสาวอาทิตยา อินศิริ หรือ ไอซ์ อายุ 23 ปี แฟนสาวของ นายฉัตรชัย ชื่นค้า หรืออิ่ม อายุ 30 ปี นักร้องนำที่เสียชีวิตในคืนเกิดเหตุ เป็นหนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุดังกล่าว เสียชีวิตแล้วเป็นรายที่ 19 เผยว่า ตนยังทำใจไม่ได้ ลูกสาวเป็นเสาหลักดูแลครอบครัวและมีลูกเล็ก จนถึงวันนี้ตนยังไม่บอกหลานว่าแม่จากไปแล้ว


โดยสภาพของลูกสาว ไฟไหม้ 100 เปอร์เซ็นต์ หมอบอกปาฏิหาริย์ไม่มีแล้วเพราะอาการหนักมาก ตนเองเสียใจ จุกอยู่ในอก เห็นลูกทรมาน ตอนหมอบอกก็ทำใจไว้แล้ว ลูกสาวก็พยามสู้อดทนสู้มาได้ตั้ง 10 วัน ก่อนมาจากไป


ตนไปดูลูกผ่านห้องไอซียู จำลูกไม่ได้ไฟไหม้ดำไปหมด ไม่เหมือนลูก ตนเองทำให้เพียงบนบานสานกล่าว แต่ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง อยากบอกลูกสาวว่า ชาติหน้ามีจริง คงเกิดมาเป็นพ่อลูกกันอีก อโหสิกรรมทุกอย่างให้ลูก เสียดายที่ชีวิตของลูกสาวกำลังดีขึ้น แต่มาเจอเหตุการณ์แบบนี้


ส่วนการเยียวยา ต้องติดต่อไปเองผ่านผู้จัดการร้าน และทนายความ โดยให้ครั้งแรก 1 หมื่นบาท และไปขออีกได้อีก 1 หมื่นบาท จนถึงวันนี้ที่ลูกสาวเสียชีวิต ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากทางร้านอีกเลย ตนอยากให้รับผิดชอบมากกว่านี้ไม่ใช่เงียบไป ตนเข้าใจว่ามีผู้เสียหายหลายราย แต่ก็น่าจะพิจารณาเป็นเคสไป เพราะเงินที่เอามาเยียวยาไม่พอในการรักษาตัว

------------

นางสาวเสาวรส วงศ์สุข อายุ 27 ปี พี่สาวของนางสาวศิริวรรณ วงศ์สุข อายุ 17 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ต้องการความชัดเจนเรื่องเยียวยา และขณะนี้ผู้บาดเจ็บเริ่มทยอยเสียชีวิตเรื่อยๆ ส่วนคนที่ยังนอนรักษาตัวอยู่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทุกวัน น้องสาวของตนก่อนจะเสียชีวิตนั้น รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลเงินค่ารักษาไม่เพียงพอต้องไปหยิบยืม


“เจ้าของผับมายื่นเงินให้ 50,000 บาท แจ้งว่าเป็นค่าเยียวยาเบื้องต้นที่น้องเสียชีวิต หากติดขัดอะไรให้คุยกับทนายเขาได้เลย เราเป็นคนธรรมดากฎหมายก็ไม่ทราบจะไปคุยกับทนายเขาอย่างไร รู้สึกว่าทางเจ้าของผับพยายามปัดความรับผิดชอบ แล้วเจ้าของผับตัวจริงคือใครกันแน่ คาใจที่บอกว่าน้องสาวอายุต่ำกว่า 20 ปี แอบเข้าไปด้านหลังผับและปลอมเอกสารเข้าผับ ตนมีหลักฐานยืนยันเป็นแชทข้อความที่น้องสาวคุยกับเพื่อน ว่าการด์หน้าผับไม่ตรวจบัตร เข้าไปได้เลย”

------------

ด้านนางเปรมใจ แซ่อึ้ง อายุ 60 ปี แม่ของนายฉัตรชัย ชื่นค้า อายุ 30 ปี เป็นนักร้องที่เสียชีวิต ที่มาร้องกองปราบเพราะเกรงว่าจะเหมือนกรณีซานติก้าผับ อีกทั้งตนไม่เชื่อว่าเสี่ยบี จะเป็นเจ้าของ Mountain B คนเดียว อยากให้มีการตรวจสอบ ผ่านมาจนถึงวันนี้ตนเองยังคาใจเรื่องระบบความปลอดภัยของสถานบันเทิงดังกล่าว มีการล็อคประตูทางหนีไฟเหมือนเอาคนเข้าไปขังอยู่ด้านใน


“อยากให้เจ้าของดูแลเยียวยาเต็มที่มากกว่านี้ เราขาดเสาหลักไปแล้ว ตั้งแต่จ่ายเงินเยียวยาเบื้องต้น 50,000 บาททางเจ้าของก็ไม่ได้ติดต่อมาหาอีกเลย หรือว่าต้องให้เราเป็นคนติดต่อไปหาเอง แต่แม้จะจ่ายเงินชดเชยเยอะเท่าไหร่ ก็ไม่คุ้มกับชีวิตของลูกชาย”

-----------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/eixZt8RffV0

คุณอาจสนใจ