อาชญากรรม

ยังปากแข็ง! 'สามารถ-แม่' ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา 'ดีเอสไอ' คุมสอบเข้มโยงคดีฟอกเงิน 'ดิไอคอน กรุ๊ป'

โดย paweena_c

26 พ.ย. 2567

37 views

'สามารถ' ยังปากแข็ง ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา หลังถูกรวบตัวได้ที่เชียงรายเมื่อวานนี้ และนำตัวมาควบคุมที่ดีเอสไอในคดีฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน ที่เชื่อมโยงมาจากเส้นเงินของบอสพอล

หลังจากที่เมื่อวานนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ขอหมายจับจากศาลอาญา เพื่อจับกุมผู้ต้องหา 3 คน คือนายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช นางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ (แม่นายสามารถ) และ นายวรัตน์พล วรัทย์วนกุล หรือบอสพอล ในข้อหาฟอกเงินและสบคบกันฟอกเงิน

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เปิดปฏิบัติการ เข้าไปตรวจค้น 2 จุด ประกอบด้วยหมู่บ้านหรูย่าน พรานนก และ คอนโด ย่านราชเวที โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวแม่ของนายสามารถได้ พร้อมกับยึดหลักฐานสำคัญหลายอย่าง รวมถึงรถยนต์ป้าแดง มาทำการตรวจสอบที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ

ส่วนตัวนายสามารถ ตำรวจจับกุมได้ที่หน้าวัดห้วยปากั้ง จังหวัดเชียงราย โดยขณะเข้าจับกุม นายสามารถไม่ได้มีท่าทีจะหลบหนี โดยนายสามารถอ้างว่ามาทำบุญกับเพื่อน ส.ส. และทราบแล้วว่าตนเองถูกออกหมายจับ เนื่องจากคนที่บ้านโทรศัพท์มาบอก

จากนั้นตำรวจคุมตัวนายสามารถไปสอบปากคำที่ สภ.แม่ยาว จากนั้นคุมตัวนายสามารถขึ้นเครื่องบินจากเชียงราย มากรุงเทพ ตอน 3 ทุ่มครึ่ง

จนกระทั่ง 23.10 น. เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้คุมตัว นายสามารถ ออกจากสนามบินดอนเมือง มายัง อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ

โดยนายสามารถ สวมหมวก แว่นตา และใส่หน้ากากอนามัยตลอดเพื่อปิดบังใบหน้า เมื่อมาถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำ โดยมีนายสันติ วัชัยพล และ นายสุวัฒน์ เมฆหมอก ทนายความของนายสามารถร่วมรับฟังการสอบปากคำ

นอกจากนี้ยังมี นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอล ได้เดินทางมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษด้วย ซึ่ง โดยนายวิฑูรย์ บอกว่าได้รับอนุญาติจากนายสามารถให้ร่วมกับฟังการสอบปากคำ ซึ่งเบื้องต้นได้รับรายงานว่า นายสามารถได้ปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา

มีรายงานเพิ่มเติมว่า ในระหว่างที่นายสามารถ ถูกนำตัวไปทำบันทึกจับกุม ที่ สภ.แม่ยาว นายสามารถได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า รู้ตัวว่าถูกออกหมายจับ และมาที่เชียงรายก็ไม่ได้มีเจตนาหลบนี แต่มาทำบุญกับเพื่อนเท่านั้น และยังได้จองตั๋วเครื่องบิน ที่จะเดินทางกลับกรุงเทพในตอน 3 ทุ่ม เพื่อเตรียมจะเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ แต่มาถูกจับเสียก่อน

นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า หลังมาถึงที่ดีเอสไอ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำนายสามารถ แต่การสอบปากคำใช้เวลาได้ไม่นาน เพราะนายสามารถให้การปฏิเสธ และช่วงเวลาที่นายสามารถมาถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษก็ดึกมากแล้ว โดยหลังสอบปากคำเจ้าหน้าที่ได้มีการนำตัวนายสามารถไปควบคุมตัว ที่ห้องควบคุมผู้ต้องหา เหมือนกับผู้ต้องคนอื่น ๆ โดยไม่ได้รับอภิสิทธิ์อะไรเป็นพิเศษ

พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงหลังจับกุมนายสามารถและนางวิลาวัยล์ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน โดยการสอบปากคำตลอดทั้งคืน ทั้ง 2 คนมีอาการเครียดเป็นปกติ และให้การไปในทำนองเดียวกัน ซึ่งทั้งนายสามารถและแม่ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และยืนยันว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินทำบุญและเงินที่กู้ยืม พร้อมขอยื่นคำให้การแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

จากการสอบสวนในชั้นนี้ ยังไม่พบว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้อง นอกจาก บอสพอลที่ถูกออกหมายจับเช่นเดียวกัน และบอสปีเตอร์ ที่มีการโอนเงินไปยังบัญชีของแม่นายสามารถ ประมาณ 5 แสนบาท ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนจะเข้าไปสอบปากคำและแจ้งข้อหาภายในเรือนจำ

ส่วนเงินที่หมุนเวียนในบัญชีของแม่สามารถ จำนวน กว่า 100 ล้านบาท พบว่ามีการโอนมาในช่วงปี 2564 - 2566 แต่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าได้มาจากไหน

ส่วนเมื่อถามว่า หลักฐานที่นำไปสู่การออกหมายจับ คือหลักฐานเส้นเงินที่แม่ของนายสามารถรับโอนเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดที่มีเจตนาปิดบังอำพรางจากบอสพอล และพนักงานสอบสวนเชื่อว่านายสามารถเป็นผู้ใช้บัญชีของแม่ เมื่อถามว่า เหตุใดนายสามารถถึงให้บอสพอลโอนผ่านบัญชีแม่ ทั้งที่ก็รู้จักและสนิทกันแต่ทำไมถึงไม่โอนโดยตรง ประเด็นนี้ นายสามารถยังไม่ได้ให้การ

เมื่อถามว่าเหตุใดที่นายสามารถเดินทางไปเชียงราย พันตำรวจตรียุทธนา บอกว่า นายสามารถบอกว่าเดินทางไปทำบุญ ส่วนแผนการเดินทางว่ามีการเตรียมการไว้ก่อนหรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ไม่พบพฤติกรรมหลบหนี

โดยหลังจากนี้ทาง DSI จะเข้าไปสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหากับบอสพอลภายในเรือนจำเร็ว ๆ นี้ ส่วนบอสปีเตอร์จะถูกตั้งข้อกล่าวหาหรือไม่ อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน และในช่วงบ่ายนี้พนักงานสอบสวนจะคุมตัวนายสามารถและแม่ ไปขออำนาจศาลอาญา รัชดาภิเษก เพื่อฝากขัง และจะคัดค้านการประกันตัว ขณะที่ทนายความของนายสามารถและแม่ก็จะเดินทางไปศาลเช่นกันเพื่อยื่นขอประกัน


https://youtu.be/m6Uun4o0Ppc

คุณอาจสนใจ