คุม 6 สมุนอดีต 'พระคม' ฮุบเงินวัดฝากขัง สารภาพซ่อนทรัพย์สินตามคำสั่ง ตร.ยึดแล้วร่วม 400 ล้านบาท

ตำรวจเตรียมคุมตัว 6 คนสนิทอดีตพระคม ไปขออำนาจศาลอาญารัชดาฝากขังผัดแรกบ่ายนี้ หลังทั้งหมดรับสารภาพว่านำทรัพย์สินมีค่าไปซ่อนในพื้นที่วัดตามคำสั่งของอดีตพระคม จนตำรวจไปตามยึดมาได้เพิ่มกว่า 100 ล้านบาท ทำให้ทรัพย์สินของกลางที่เจอขณะนี้น่าจะเกือบ 400 ล้านบาทแล้ว

เงินสดกว่า 76 ล้านบาท ทองคำแท่ง ทองคำรูปพรรณ มูลค่ารวมกว่า 22 ล้านบาท พระเครื่องอีกหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท เป็นของกลางที่ตำรวจกองปราบปรามยึดได้จากกลุ่มพระลูกวัดของอดีตพระคม และคนขับรถ ที่ให้การช่วยเหลืออดีตพระคมโดยการนำทรัพย์สินไปซุกซ่อนตามที่ต่างๆ ในวัด เช่น กุฏิสงฆ์ ฝังดิน ในแท็งน้ำ เป็นต้น และมีบางส่วนที่ตำรวจไปตามเจอว่า นำใส่รถตู้แล้วไปซ่อนที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งที่ห่างจากวัดไปราว 10 กิโลเมตร

ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 6 คน เป็นอดีตพระลูกวัดป่าธรรมคีรี 5 คน คือ นายบุญส่ง, นายบุญเหลือ, นายธนกฤษ, นายบัณฑิต, นายณัฐพัชร์, และคนขับรถตู้ของอดีตพระคม คือ นาย บุญศักดิ์ ทั้งหมดถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และ รับของโจร

พลตำรวจตรี มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า สาเหตุที่ขยายผลจับทั้ง 6 คนได้ เพราะนาย วุฒิมา หรือ อดีตพระหมอ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรี ให้การว่าได้นำเงินของวัด 9 ล้านบาท ไปซื้อทองคำตามคำสั่งของอดีตพระคม มาเก็บไว้ที่ตู้เซฟภายในกุฏิของตนเอง แต่พอตำรวจไปตรวจสอบกลับไม่พบ จึงเรียกบุคคลที่ใกล้ชิดมาสอบสวนจนเจอทรัพย์สินดังกล่าวกว่า 100 ล้านบาท แต่ที่น่าตกใจคือ ทรัพย์สินเหล่านี้ถูกนำไปซ่อนหลังจากอดีตพระคมถูกจับ

โดยระหว่างที่ถูกคุมตัวอยู่ในห้องขังของตำรวจ อดีตพระคมได้ขอยืมโทรศัพท์มือถือของตำรวจสิบเวรหน้าห้องควบคุม อ้างว่าจะโทรไปหาญาติให้นำยารักษาโรคประจำตัวมาให้ แต่กลับแอบสั่งให้คนสนิททั้ง 6 คน ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน

พันตำรวจเอก สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ รองผู้กำกับ 3 กองบังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน รับสารภาพว่านำทรัพย์สินต่างๆ ไปซุกซ่อนตามสถานที่ต่างๆ ในวัด และขนย้ายออกจากวัด ตามคำสั่งของอดีตพระคม แต่ไม่ได้รับเพิ่มว่ามีทรัพย์สินซ่อนไว้จุดอื่นอีกไหม รับแค่ตามของกลางที่ยึดมาได้

และในช่วงบ่ายวันนี้ พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับใครเพิ่ม ทำให้ขณะนี้ในคดีนี้มีผู้ต้องหาแล้ว 9 คน เป็นอดีตพระ 7 คน และฆราวาส 2 คน

เมื่อสอบถามพระลูกวัดรูปอื่น พบว่า ที่วัดมีพระทั้งหมด 22 รูป แต่สึกไปแล้ว 9 รูป ซึ่งวัดแห่งนี้สร้างโดยอดีตพระคม ส่วนใหญ่พระลูกวัดจะอยู่ภายในอาณัติของอดีตพระคม ไม่มีใครกล้ายุ่งเรื่องทรัพย์สินที่ได้รับบริจาค ยกเว้นพระลูกวัดที่อยู่ใกล้ชิด 5 รูปนี้ ส่วนพระลูกวัดรูปอื่นยังไม่พบมีความผิดทรัพย์สินที่พบทั้งเงินสดและทองคำ ทางวัดจะไม่นำไปฝากธนาคาร เพราะตั้งใจจะปิดบังอำพรางเส้นทางการเงิน ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากผู้ที่ศรัทธานำเงินมาถวาย เพื่อบำรุงพระพุทธศาสนาทั้งหมด

ขณะที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้ปลดข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหารออกจากราชการ และถอดออกจากยศทหาร พร้อมเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุกชั้นตรา จาก พันเอก ชัยเมธี ภูบดีวโรชุพันธุ์ นายทหารปฏิบัติการประจำสำนักงานรองผู้บัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 3 กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ โดยไม่มีบำเหน็จบำนาญ

เนื่องจากประฤติชั่วร้ายแรง มีพฤติการณ์เป็นข้าราชบริพารในพระองค์ชักชวนบุคคลอื่นที่ไม่ดีเข้ามาหลอกลวงในราชสำนัก ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย ส่งผลให้เสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำให้เสียหายต่อหน่วยราชการในพระองค์ กับเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และผิดต่อราชสวัสดิ์ ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2566

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/ba8ycQa0pKI