สังคม
อดีตเจ้าอาวาสวัดประชุมราษฎร์เผ่นหนี หลังถูกปลดฐานยักยอกเงินเกือบ 30 ล้าน
1 ส.ค. 2568
985 views
อดีตเจ้าอาวาสวัดเผ่นหนี หลังถูกปลดฐานยักยอกเงินวัด 28 ล้าน ขณะที่บรรยากาศวัดเงียบเหงา แม่ค้าบอกผิดปกติทั้งที่เป็นวันหวยออก วอนคนกลับมาทำบุญชี้เป็นเรื่องส่วนตัว
วันที่ 1 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ วัดประชุมราษฏ์ ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ไม่มีนักแสวงบุญหรือนักเสี่ยงโชคเข้ามากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดแต่อย่างใด หลังตกเป็นข่าวดังกรณีเจ้าอาวาสวัดยักยอกเงินเกือบ 30 ล้านบาทไปก่อนหน้านี้
จากการสอบถามคุณลุงหม่องเจ้าของร้านกาแฟที่ขายอยู่ในวัดบอกว่าไม่มีคนเข้ามากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภายในวัดเลยเงียบเหงามาก แม้วันนี้จะเป็นวันหวยออกก็ตามคนยังไม่มีเลย ซึ่งผิดปกติจะมีคนเข้ามากราบไหว้เป็นจำนวนมาก ร้านค้าแต่ละร้านต่างขายดี แต่นี่กลับเงียบเหงา จึงยากวอนชาวบ้านว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องส่วนบุคคลไม่เกี่ยวกับวัดขอให้คนเข้ามาทำบุญในวัดเหมือนเดิม
นายกวี ไทยสมัคร ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11 กล่าวว่า มีชาวบ้านได้แจ้งตนมาว่าท่านเจ้าอาวาสไม่อยู่แล้ว จึงเข้ามาดูพร้อมชาวบ้าน โดยได้ตั้งข้อสงสัยว่าท่านไปไหนแต่เห็นพระลูกวัดแจ้งว่าท่านเจ้าอาวาสได้นำพัดยศที่ท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์นำติดตัวไปด้วย จึงตั้งข้อสงสัยว่าท่านไปไหนทำไมไม่แจ้งพระลูกวัดและชาวบ้าน
พระครูปลัด วรเชษฐ์ สุรเตโช พระลูกวัดประชุมราษฎร์กล่าวว่า ท่านเจ้าอาวาสท่านได้ออกจากวัดไปตั้งแต่เช้ามืดโดยไม่บอกกับพระลูกวัดแต่อย่างใด มีเพียงคนขับรถของท่านมาแจ้งว่าท่านจะเดินทางกลับบ้านเพียงเท่านั้น ส่วนทรัพย์สินข้าวของต่างๆ อาตมาก็ไม่ทราบว่าขนไปด้วยหรือไม่เพราะไม่มีใครเห็น
ด้าน พระครูโสภณภัทรเวทย์ ดร. เจ้าคณะอำเภอลำลูกกา กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวอาตมาได้เร่งรัดในการสอบสวนพบว่าพระครูไพโรจน์ธรรมคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดประชุมราษฎร์ มีความผิดจริงทางคณะสงฆ์จึงได้มีหนังสือสั่งปลดจากการเป็นเจ้าอาวาสวัดประชุมราษฎร์ลงนามโดยพระราชสุทธิธรรมมาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี
ซึ่งพระครูไพโรจน์ธรรมคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดประชุมราษฎร์นั้นปฎิบัติหน้าที่ผิดจริยาพระสังฆาธิการและบกพร่องต่อหน้าที่ หย่อนความสามารถในการบริหารจัดการจนทำความเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงต่อคณะสงฆ์ จึงอาศัยมาตราข้อที่ 55 (4)ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ว่าด้วยการแต่งตั้งและถอดถอน
จาการสอบสวนเงินที่หายไปทราบว่าเป็นจำนวนเงิน 28 ล้านที่เป็นเงินบริหารค่าเช่าของเคหะชุมชนวัดประชุมราษฎร์ใน 28 ปีที่ผ่านมา โดยอดีตเจ้าอาวาสวัดประชุมราษฎร์ ได้ชี้แจงกับอาตมาว่า ค่าเช่าในเคหะวัดประชุมราษฎร์หายไปไม่ถึง 28 ล้าน เพราะเก็บค่าเช่าได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะคนที่อาศัยอยู่ในชุมชนฐานะไม่ดี อีกทั้งเงินปัจจัยที่ได้มาทั้งหมดในสมัยเป็นเจ้าอาวาสก็ใช้ไป เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบริหารจัดการภายในวัดและบูรณะปฎิสังขรณ์ภายในวัด ซึ่งอาตมาดูแล้วมันไม่มีอะไรที่ชัดเจน ทั้งเอกสารและบิลต่างๆ ไม่สามารถนำมายืนยันได้
ส่วนในด้านคดีทางคณะสงฆ์จะดำเนินการตรวจสอบต่อไปว่าสิ่งต่างๆ ที่ท่านบริหารภายในวัด ทรัพย์สินและเงินทองวัดเหลือจำนวนเท่าไหร่ ก็ต้องเข้าไปตรวจสอบเรื่องบัญชีวัด พื้นที่ธรณีสงฆ์ ว่ามีการยักยอกไปหรือไม่ก็จะออกมาชี้แจงอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร โดยหากมีการยักยอกทรัพย์สินของทางวัดไปก็จะมีความผิดทางอาญา ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับญาติโยมที่ไปแจ้งความดำเนินคดีเอาไว้
ทั้งนี้ทราบว่าทางอดีตเจ้าอาวาสวัดประชุมราษฎร์ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่วัดแล้วและก็ไม่ทราบว่าท่านย้ายไปอยู่ที่วัดไหน ซึ่งอาตมาคิดว่าหากท่านจะกลับมาอยู่ที่วัดประชุมราษฎร์ในฐานะพระลูกวัดอีกคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าพระต้องมีหิริโอตตัปปะ ต้องมีความระอายที่ต้องกลับมาอยู่ที่วัด อาตมาติดว่าท่านคงไปอยู่ที่วัดอื่นที่ท่านรู้จักมากกว่า
แท็กที่เกี่ยวข้อง อดีตเจ้าอาวาส ,ยักยอกเงินวัด ,วัดประชุมราษฎร์ ,ลำลูกกา