หนุ่มฉุนเพื่อนซี้ ชวนเสพยา แล้วพูดดูถูก คว้าลูกซองสั้นยิงดับ ก่อนใช้ลังปิดศพ

เรื่องราวนี้เปิดเผยจากแหล่งข่าวของผู้สื่อข่าวในพื้นที่ ซึ่งมีการรายงานแจ้งว่าช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มีเหตุใช้อาวุธปืนจ่อยิงกันภายในร้านรับซื้อของเก่า ในตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งผู้เสียชีวิตถูกจ่อยิงเข้าที่ท้ายทอยจากด้านหลัง เหตุเกิดช่วงราวตีหนึ่งที่ผ่านมา (25 พ.ค.)

ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยง วันที่ 25 พ.ค.67 ทีมข่าวเราลงพื้นที่ไปดูที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบว่าจุดเกิดเหตุเกิดขึ้นภายในร้านรับซื้อของเก่า ซึ่งปลูกในลักษณะ เพิงโกดังชั้นเดียว โดยทางด้านผู้โดยแลได้ล้างทำความสะอาดร่องรอยในที่เกิดเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เบลอหน้าคนในร้าน) โดยเราไปพูดคุยกับ คุณลุง นาย ชัชวาลย์ พรมมา 57 ปี เล่าให้กับนักข่าวเราฟังว่า ผู้ตายกับผู้ก่อเหตุเขาเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน แต่ทำงานคนละที่ คนก่อเหตุทำงานที่โกดังรับซื้อของเก่าแห่งนี้ ส่วนคนตายเป็นคนงานอีกโกดังข้างๆ ตกเย็นทั้งสองคนมักจะมานั่งดื่มสุรากันเป็นประจำทุกวัน ก่อนจะเกิดเรื่อง คนตายยังมายืมเงินที่ตนเอง 100 บาท บอกว่าจะให้ค่าวินรถจักรยานยนต์ เพราะน้องชายจะมา พอตกเย็นหลังจากที่ตนเองกลับมาจากซื้อกับข้าว เจอคนตาย ยังยกมือไหว้และเอาเงินมาคืนที่ยืมไป ซึ่งก็ไม่ได้มีท่าทีหรือเอะใจอะไรที่จะเกิดเหตุร้ายแต่อย่างใด กระทั่งช่วงกลางดึกได้ยินเสียงปืน 1 นัด ซึ่งก็ไม่ได้ออกมาดู แต่มั่นใจว่าเป็นเสียงปืน และคิดว่าคงยิงปืนเล่นกัน กระทั่งมาทราบข่าวตอนเช้าว่า มีการยิงกันตาย ส่วนสาเหตุตนเองไม่ทราบ เพราะเห็นว่าทั้งสองสนิทสนมกันดีและดื่มเหล้ากันเป็นประจำด้วยกัน

ขณะที่นักข่าวเราได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ไปยังแหล่งข่าวของทางสถานีตำรวจภูธรบางพลี โดยเราได้ภาพวีดีโอในขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดฝ่ายสืบสวนของ สภ.บางพลี นำทีมโดย พ.ต.ท.ภาวัต รัตนาภรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางพลี พ.ต.ต.สันติราษฎร์ เงินมั่น สว.สส.สภ.บางพลี ได้นำกำลังฝ่ายสืบสวนพร้อมอาวุธครบมือและเสื้อเกาะ ไปปิดล้อมบ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังจากสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุหลบหนีมากบดานที่บ้านเพื่อน ซึ่งผู้ก่อเหตุยังมีอาวุธปืนติดตัวมาด้วย เจ้าหน้าที่จึงเปิดปฏิบัติการตามยุทธวิธีของเจ้าหน้าที่ บุกเข้าจับกุมตัว ผู้ต้องหารายนี้ได้คาบ้านพัก ทราบชื่อคือ นายชลนที บุญมาสอน อายุ 40 ปี ชาวอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย พร้อมกับของเป็นอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ลูกซองพกสั้น พร้อมกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด จึงควบคุมตัวพร้อมกับของกลางทั้งหมด มาสอบปากคำเบื้องต้นและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง และจากการตรวจสอบประวัติยังพบว่า ผู้ต้องหารายนี้ ก็คือ นายชลนที เมื่อสองปีที่ผ่านมาเคยร่วมกันก่อเหตุฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งคดีอยู่ในระหว่างประกันตัวออกมา กระทั่งมาก่อเหตุซ้ำล่าสุด

ส่วนสาเหตุจากคำให้การของผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งให้การกับทางด้านพนักงานสอบสวนระบุว่า สาเหตุมาจากการที่ผู้ตาย ก็คือ นาย เชิด สัญชาติกัมพูชา อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน ช่วงเย็นที่ผ่านมา หลังจากที่ตนเอง กับนายเชิด นั่งดื่มสุราด้วยกัน จนหมดขวด ก็พากันแยกย้ายเข้านอน ซึ่งตนเองมีห้องพักในโกดังที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ตายพักอีกแห่งไม่ไกลกัน พอแยกย้ายกันกลับห้อง ปรากฏว่านาย เชิด ได้ย้อนกลับมาหาเคาะประตูเรียกตนเองที่ห้อง แล้วถามตนเองว่า เสพยาบ้าไหม มียาบ้าเสพไหม หากไม่มีก็จะให้ตนเองออกไปซื้อมาเสพด้วยกัน พูดจาข่มตนให้ทำตาม คล้ายกับตนเองเป็นลูกน้องคนตาย ตนเองจึงบอกว่าไม่ได้เสพไม่มียาให้เสพและไล่ให้กับไป แต่ นายเชิดไม่ยอมกลับ แถมเดินไปนั่งที่วงเหล้าที่เดิมแล้วพูดจาดูถูกตนเองไม่หยุด ตนเองจึงโมโห เดินกลับเข้าไปเอาปืนในห้องลงมาจ่อยิงจากด้านหลังไปหนึ่งนัด หลังจากนั้นก็เอาลังกระดาษต่างๆมาปิดทับศพ ก่อนจะเก็บข้าวของจำเป็นแล้วปิดล็อกประตูโกดังหลบหนีไปที่บ้านเพื่อนจนมาถูกตามจับได้ ยอมรับว่า ทั้งตนเองและนายเชิด เคยเสพยาบ้าด้วยกันเป็นประจำ

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ยิงปืนและใช้ปืนเถื่อนผิดกฎหมาย รวมถึงข้อหาอื่นตาม พรบ.อาวุธปืน พนักงานสอบสวนคุมตัวส่งฝากขังศาลจังหวัดสมุทรปราการ ผลักแรกเพื่อรอสอบสวนเพิ่มเติมดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป