อาชญากรรม

ตร.เก็บกู้ระเบิดปิงปอง กว่า 30 จุด ในโกดังกากสารเคมี อ.ภาชี พบถูกจุดชนวนบางส่วน แต่ระเบิดไม่ทำงาน

โดย nut_p

4 มี.ค. 2567

71 views

พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ กรณีคนร้ายใช้ระเบิดเพลิงลักลอบวางเพลิงทำลายหลักฐานโกดังของกลางเก็บหลักฐานเป็นกากสารเคมีพิษ พบระเบิดปิงปองแบบตั้งเวลาระเบิดด้วยการจุดธูป กระจายทั่วพื้นที่ กว่า 30 จุด บางส่วนมีการจุดธูปไปแล้ว แต่ระเบิดไม่ทำงาน ตำรวจเร่งเก็บหลักฐานจับกุมคนร้าย ที่ลอบวางเพลิง โดยพบว่าคนร้ายวางแผนกันมาเป็นอย่างดี เพราะพบการใช้อลูมิเนียมพาวเดอร์ร่วมจุดระเบิดด้วย



ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และ ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมีริมถนนสายอุทัยภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งในชั้นแรกพบว่าคนร้ายลอบวางเพลิงไม่ต่ำกว่า 30 จุด ในพื้นที่ โดยโกดังที่ 1 และ โกดังที่ 2 พบระเบิดเพลิงแบบมีตัวจุดชนวน ลักลอบวางเพลิงติดตั้งอยู่ในหลายจุด เพื่อหวังผลเผาทำลาย



ขณะที่การตรวจสอบในโกดังหลังที่ 3 ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ก็พบกับระเบิดเพลิงชนิดเดียวกันอีก 9 จุด ถูกวางซุกอยู่ตามมุมต่าง ๆ กระจายอยู่ทั้งโกดัง โดยพบว่าระเบิดเพลิงที่พบ ใช้ธูปเป็นตัวถ่วงเวลาติดกับสายชนวนระเบิด เพื่อให้ประกายไฟลุกลามไปยังน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ปรากฏว่า ระเบิดเพลิงไม่ทำงาน ของกลางในโกดังที่ 3 จึงไม่ถูกทำลายไป ส่วนโกดังที่ 4 และ 5 ตอนนี้ยังไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้ เนื่องจากภายในมีกากพิษจากสารเคมีอุตสาหกรรมจำนวนมาก ที่ส่งกลิ่นคละคลุ้ง จึงต้องสั่งยกเลิกไปก่อน ขณะนี้อยู่ในความดูแลของทางอำเภอและเทศบาล



พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ระบุว่า เป็นความโชคดีที่ระเบิดเพลิงไม่ทำงาน เพราะไม่เช่นนั้นอาจทำให้อำเภอภาชีต้องถูกประกาศเป็นเขตภัยพิบัติได้ เนื่องจากพบว่าคนร้ายไม่ได้วางระเบิดเพลิงเฉพาะในส่วนของโกดังเพียงอย่างเดียว แต่คนร้ายยังวางระเบิดเพลิงไว้หลายจุดรอบโกดังด้วย พร้อมมีการผสมผงอลูมิเนียมพาวเดอร์ เพื่อหวังผลการทำลายเป็นวงกว้าง



นอกจากนี้ ยังพบช่องทางที่คนร้ายแอบลักลอบเข้ามาทางป่ารกด้านหลังโกดัง และยังพบถังพลาสติกขนาด 20 ลิตร จำนวน 2 ใบ มีปูนแห้งติดอยู่ คาดว่าเป็นของคนร้ายที่นำมาหล่อเทก้นขวดพลาสติก เพื่อนำไปก่อเหตุจึงให้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนวัตถุประสงค์ของคนร้ายที่เข้ามาเผาทำลายหลักฐานเพื่อประโยชน์ทางคดี ในส่วนไหนนั้น ตอนนี้ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ จึงต้องติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้เป็นอันดับแรก ส่วนของกลางทั้งหมดได้ตรวจสอบเก็บหลักฐานและบันทึกรูปภาพไว้ทั้งหมดแล้ว



ด้านพลตำรวจตรีโชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนทั้งของจังหวัดและสถานีตำรวจภูธรภาชี ตั้งทีมไล่กล้องวงจรปิดเพื่อติดตามคนร้ายที่ลักลอบเข้ามาวางระเบิดเพลิงทำลายของกลางในครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าไม่ยากในการติดตาม เพราะคนร้ายกลุ่มนี้มีหลายคน อีกทั้งตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสแล้วว่าเป็นกลุ่มใด

คุณอาจสนใจ

Related News