“โจ้ สืบศักดิ์” แฉ 5 นักตะกร้อถูกหักเงินอัดฉีดคนละ 1.9 ล้าน จาก 2 ล้าน แต่ไม่ชี้แจงหักไปทำอะไร

“โจ้ สืบศักดิ์” แฉ 5 นักกีฬาตะกร้อเหรียญทองเอเชียนเกมส์ ถูกหักเงินอัดฉีดคนละ 1.9 ล้าน จาก 2 ล้าน ตั้งแต่ปี 2566 แต่ไม่ชี้แจงว่าหักเงินไปทำอะไร วอนสมาคมฯ ช่วยเหลือ เผยที่ผ่านมาเคยตั้ง คกก.ตรวจสอบ แต่เรื่องสะดุดเพราะการเมืองภายใน

พันตำรวจโทสืบศักดิ์ ผันสืบ หรือ โจ้ อดีตนักตะกร้อทีมชาติไทย ที่เคยคว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์ ได้ 7 เหรียญ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่โพสต์เรื่องการหักเงินอัดฉีดนักกีฬาตะกร้อทีมชาติไทย จากเหรียญทอง 2,000,000 บาท แต่โดนหักจนเหลือแค่ 100,000 บาท

พันตำรวจโทสืบศักดิ์ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่หลังการแข่งขันเอเชียนเกมส์ เมื่อปี 2566 นักกีฬาทีมชาติไทยได้ 2 เหรียญทองจากการแข่งขัน เหรียญแรกเป็นประเภททีมชุด ได้คนละ 2 ล้านบาท ส่วนประเภททีมเดี่ยว มีนักกีฬา 5 คนที่จะต้องได้อีกคนละ 2 ล้านบาท ถูกผู้บริหารทีมในขณะนั้นเรียกไปพบส่วนตัว แล้วให้กดเงินสดมาคนละ 1.9 ล้านบาทไปให้โดยที่ไม่ได้บอกว่าหักไปไหน จะได้คืนหรือไม่ ซึ่งนักกีฬาเองไม่ได้เต็มใจแต่ก็ไม่กล้าโต้แย้งอะไรมาก เป็นภาวะจำยอมเพราะกลัวจะไม่ได้ลงแข่งทีมชาติครั้งต่อไป

ตนเองเคยออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้นักกีฬากลุ่มนี้แล้ว ซึ่งสมาคมกีฬาตะกร้อฯ ไม่ได้เพิกเฉย มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว แต่พอถึงการลงมติ ซึ่งมีเรื่องการเมืองภายในเยอะมาก ทำให้เรื่องค้างคาและเงียบหายไป และด้วยรูปแบบการบริหารงานของสมาคมฯ ทำให้ค่อนข้างทำอะไรลำบาก

ล่าสุด เมื่อวานนี้ (19 ส.ค. 2568) นักกีฬาทั้งหมดจึงได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.คลองหลวง ในนามส่วนตัว เพราะอยากที่จะได้เงินคืน เนื่องจากเรื่องเงียบมานานแล้วและนักกีฬารอมาตลอด ไม่ได้รับการดูแล นักกีฬาก็ยังมีความสงสัยคลางแคลงใจว่าเงินจำนวนดังกล่าว ถูกเอาไปไหน ไปใช้ทำอะไร ซึ่งการที่ตนเองออกมาโพสต์ก็ต้องการที่จะให้ทางสมาคมฯ เข้ามาช่วยเหลือดูแลนักกีฬา เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาคุย ให้เรื่องมันจบ

นอกจากนี้ การที่เรื่องนี้ยังค้างคา ก็ทำให้ไม่มีการดำเนินการอะไร ไม่มีการถูกลงโทษ แม้จะมีการเซ็ตผู้บริหารทีมใหม่ แต่ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ยังใช้ชีวิตปกติ จึงอยากให้มีการชี้แจงว่าเงินดังกล่าวนั้นหักไปทำอะไร เพราะมันเป็นจำนวนที่เยอะมากเกินไป และนักกีฬาส่วนใหญ่ ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย และมีภาระต้องดูแลครอบครัว จึงอยากเป็นกระบอกเสียง ให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง คนที่เอาเงินไป ให้นำเงินมาคืนนักกีฬา ให้สมาคมฯ เข้ามาช่วยพูดคุย ซึ่งเชื่อว่าสมาคมฯ จะต้องมีการ take action ได้แล้วในการที่ออกมาพูดเป็นครั้งที่ 2 อยากให้ให้ความเป็นธรรมกับนักกีฬาด้วย