“มาดามแป้ง” ร่ำไห้ จ่อฟ้อง “สมยศ” คดีศาลตัดสินจ่ายสยามสปอร์ต 360 ล้าน

“มาดามแป้ง” ปล่อยโฮกลางวงแถลงข่าว จ่อฟ้อง “สมยศ” ส.บอลฯ ชุดเก่า ใช้หนี้คดีศาลตัดสินจ่ายสยามสปอร์ต 360 ล้าน ยืนยันทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ

หลังจากจากกรณีที่ศาลฎีกาตัดสินให้ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เป็นฝ่ายเอาชนะคดีการยกเลิกสัญญาถ่ายทอดสด ในยุคที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ทำให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในยุคของ มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ต้องรับผิดชอบเสียค่าชดใช้เป็นจำนวนเงิน 360 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยนับถัดจากวันฟ้อง เฉพาะดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวน่าจะเกิน 200 ล้านบาท เมื่อรวมกับเงินต้นแล้วสมาคมต้องชดใช้ให้สยามสปอร์ตเป็นเงินเกินกว่า 500 ล้านบาท

นางนวลพรรณ ล่ำซำ บอกว่า จะนำเรื่องนี้ เข้าสู่การประชุมสภากรรมการเฉพาะกิจเร่งด่วน เพื่อขอความเห็นชอบในการฟ้องไล่เบี้ย ตามมาตรา 76 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แก่จำเลยที่ 2 คือ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตนายกสมาคม และสภากรรมการชุดที่แล้ว

สำหรับการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของสมาคมฯ พบว่ามีเงินอยู่ราว 27 ล้านบาท และมีหนี้สินอีกราว 132 ล้านบาท โดยสมาคมชุดเก่ายังทำสัญญากู้ยืมเงินจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) 5 ล้านเหรียญ (ราว 155 ล้านบาท) ซึ่งต้องใช้หนี้คืน โดยตัดออกจากเงินสนับสนุนประจำปี ปีละ 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ออกไปปีละ 5 แสนเหรียญ ถึง 10 ปี (2566-2575)



นอกจากนี้ยังมีเรื่องของนายกสมาคมคนเก่า ได้รับเงินเดือนจากสมาคมและไทยลีกรวม 1 ล้านบาท ซึ่งตามปกติแล้ว นายกสมาคมเป็นตำแหน่งจิตอาสา ไม่ใช้ลูกจ้าง กกท. จึงไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินเดือนของสมาคม โดยนายกคนเก่า อ้างว่าคืนกลับมาเป็นเงินบริจาคแล้ว แต่ยังหาหลักฐานไม่เจอ

ขณะเดียวกัน สมาคมชุดเก่าได้ขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีก 1, ไทยลีก 2 และไทยลีก 3 ไปต่างประเทศ ซึ่งทางสมาคมฯ ชุดปัจจุบันต้องใช้เงินซื้อกลับมาเพื่อให้สามารถควบคุมสิทธิประโยชน์ได้อีกครั้ง และยิ่งไปกว่านั้น มาดามแป้ง ยังแฉว่า สมาคมยุคเดิมยังขาย Data Analytics ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงลึกของการแข่งขันให้ทางเว็บของมาเลเซีย ซึ่งผู้ที่ซื้อไปจะเอาไปทำอะไรก็ได้ โดยมีสัญญาผูกมัดถึงปี 2571

นอกจากนี้ คณะตรวจสอบทรัพย์สินยังได้พบประเด็นสำคัญในคดีที่สมาคมฯฟ้อง สยามสปอร์ต ในข้อหาหรือฐานความผิดสัญญาสิทธิประโยชน์, ลิขสิทธิ์ แต่คดีนี้ถูกศาลอุทธรณ์ยกฟ้องและศาลฎีกาไม่รับตีความ แต่ในข้อตกลงที่จ่ายให้กับทนายความนั้น ตั้งไว้ที่ศาลชั้นต้น 7.5 แสนบาท และเพิ่มในชั้นอุทธรณ์กับฎีกาชั้นละ 3 แสนบาท แต่กลับจ่ายไปทั้งหมด 30 ล้านบาท จึงจำเป็นต้องตรวจสอบ ว่า อาจจะมีผลประโยชน์แอบแฝงอะไรกับเงินก้อนนี้

โดย มาดามแป้ง บอกว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกับ พล.ต.อ. สมยศ ก่อนจะมาแถลงในครั้งนี้ เพราะจะทำให้ตน ไม่สามารถมีจิตใจที่หนักแน่นและมั่นคงในการแถลงครั้งนี้ได้ แต่ได้ปรึกษากับ นาย เนวิน ชิดชอบ ก่อนมาแถลงข่าว

มาดามแป้ง ชนะการเลือกตั้ง ด้วยคะแนนโหวตสูงถึง 68 จาก 73 เสียง คิดเป็น 93% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ได้รับรองตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอล เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2567 โดยวันนี้ได้แถลงถึงผลงานในการดำรงตำแหน่ง ครบ 1 ปี ทั้ง ฟุตบอลไทยลีก กลับมามีผู้ถือลิขสิทธิ์อีกครั้ง และทำให้สโมสรได้รับเงินสนับสนุนตรงเวลา, ยกระดับเทคโนโลยี VAR เป็นชาติแรกในอาเซียน ทั้ง T1 และ T2 ,ได้รับคำชื่นชมจากการเป็นเจ้าภาพ ฟีฟ่า ครองเกรส ,สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้รางวัลสมาคมยอดเยี่ยม AFC ระดับ Diamond และพาทีมชาติไทย พุ่งขึ้นมาอยู่อันดับ 97 ของโลก เป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี

โดยได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กด้วยว่า "ปกติทุกท่านคงจะทราบ แป้ง เป็นมือประสานสิบทิศ ไม่อยากเป็นศัตรูของใครเลย แต่การทำงานของ แป้งในวันนี้ แป้ง ทำด้วยผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก กีฬาฟุตบอลไทย เป็นกีฬาที่คนไทยดูมากที่สุด 70% และคนเล่นสูงสุดรองจากมวย ดังนั้นแป้งคิดว่าฟุตบอลเป็นกีฬาของคนทั้งชาติสิ่งที่แป้งและคณะกรรมการ จะทำต่อไป ไม่ได้มีความขัดแย้งส่วนตัวกับท่านใดแต่ทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสมาคมฯและของชาติไทย"