มองอย่างเพชร EP.26 ‘เชลซี’ ฟอร์มแบบนี้ ยังไม่คู่ควรเป็นทีม ‘ลุ้นแชมป์’ จริงหรอ ?

นาทีนี้พรีเมียร์ลีกคงมองข้าม ‘เชลซี’ ไม่ได้แล้ว ด้วยผลงานในลีกชนะ 5 นัดติดต่อกัน รวมทุกถ้วย 7 นัดชนะรวด แม้แต่คำว่า “เสมอ” ก็สะกดไม่เป็น  ทำแต้มจี้ลิเวอร์พูลเหลือ 2 แต้ม แม้จะแข่งมากกว่า 1 นัด

ถามว่าทำไมเชลซีถึงฟอร์มปังขึ้นมา ?

อย่างแรก ต้องบอกว่า ระบบทีมและตัวผู้เล่น มันเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว 4-2-3-1 ของมาเรสก้า หา 11 ตัวจริงเจอแล้ว หลัง-กลาง-หน้า มีตัวยืนทุกตำแหน่ง  มีแค่ปีก ที่หมุนเวียนไปเรื่อย เพราะมีอาวุธให้เลือกเยอะจัด จับใครลงก็ได้ ใครพร้อมสุด ก็ได้ลงในเกมนั้นๆ

แดนกลางที่เคยมีปัญหามาตลอด ตอนนี้อุดปิดช่องโหว่ได้หมด ถ้าแดนกลางคือหัวใจ ต้องบอกว่าตอนนี้หัวใจของเชลซีแข็งแกร่งมาก เพราะ 2 คู่หูค่าตัวแพงอย่าง เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ และมอยเซส ไกเซโด้ ตอนนี้ท็อปฟอร์มสุดๆ  

เอ็นโซ่พอกลับมาก็ยึดตัวจริงได้ ก็ยาวเลย เชลซีชนะ 7 นัดหลังสุด เอ็นโซ่ทำแอสซิสต์ทุกนัด แถมยิงได้อีก 3 ประตู ช่วงนี้ยิงเก่งมาก เหมือนเป็นร่างทรงแลมพาร์ด

ส่วน ไกเซโด้ นี่คือผู้อยู่เบื้องหลังเกมรุกสุดมันของเชลซีอย่างแท้จริง เป็นตัวสกรีน คอยเก็บกวาด แบ็คขวาก็เล่นได้  หลายคนเปรียบเทียบกับก็องเต้ เหมือนกินก็องเต้เข้าไปทั้งตัว แต่ขออวยหน่อย มันไม่ใช่แค่ก็องเต้แล้วนาทีนี้

เหมือนดูดมันสมองของมาเกเลเล่ แถมด้วยพละกำลังของเอสเซียง เป็นกลางรับที่ง้างเท้ายิงได้สะใจมาก แล้วยังมี โรมิโอ ลาเวีย อีกคน ที่ก็ดีมาก ติดที่เจ็บบ่อยไปหน่อย

ส่วนแดนหน้า ที่ผ่านมาเป็นอันรู้กัน เชลซีมี พาลเมอร์ เป็นตัวแบก แต่ซีซั่นนี้ไม่ใช่แบบนั้นแล้ว “น้องหนาว” มีตัวช่วยแบกเพียบทั้ง แจ็คสัน , มาดูเอเก้ เนโต้ , ซานโช่ , ฟิลิกซ์ ,เอ็นคุนคู พาลเมอร์ยิงไม่ได้ ก็มีตัวยิงแทน

ทำให้เชลซีกลายเป็นทีมที่มีเกมรุกดีที่สุดในลีก ซัดไปแล้ว 37 ลูก ส่วนเกมรับนี่คือจุดอ่อนก็จริง ต่อให้เสียประตูทุกนัด แต่ตราบใดที่ยังยิงมากกว่าคู่แข่งทุกนัด มันก็ได้ 3 แต้มอยู่ดี 

อีกสิ่งที่ทำให้เชลซีระเบิดฟอร์มในระยะหลังคือ mindset อันนี้สำคัญมาก ความที่มีนักเตะเยอะ การแข่งขันในทีมเชลซีสูงมาก  ทุกคนเลยมีแพชชั่นแรง กระหายชัยชนะ เอเนอร์จี้ล้น

และความที่เชลซี เป็นม้านอกสายตามาตลอด เด็กพวกนี้เลยไม่มีความกดดัน แค่ลงไปเล่นฟุตบอล ทำให้ได้ตามแผนของโค้ช เก็บชัยชนะให้ได้เป็นพอ เรื่องแชมป์อะไรเอาไว้ก่อน  

ขนาดแจ็คสันยังบอกเลยว่า เขาไม่รู้อันดับบนตารางคะแนนด้วยซ้ำ แค่ลงไปเล่นอย่างเดียว  ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะมันแสดงให้เห็นว่าคุณมีสมาธิกับเกมมากแค่ไหน  

ประกอบกับช่วงนี้ ไทม์มิ่งเป็นใจ บรรดาทีมใหญ่ ทั้งลิเวอร์พูล อาร์เซน่อล แมนซิตี้ พร้อมใจกันสะดุด แต่น้องเล็กอย่างเชลซีกลับเดินหน้าคว้าชัยได้ต่อเนื่อง เลยทำให้จ่าฝูงเริ่มมีหนาวๆร้อนๆบ้างแล้ว

แม้ในมุมของแฟนเชลซี อาจบอกว่า ยังเร็วไปที่จะบอกว่า “เราเป็นทีมลุ้นแชมป์” เพราะทีมยังไม่ดีพอ กระดูกบอลยังไม่แข็งพอ มีหลายอย่างที่ต้องแก้ไข โดยเฉพาะเกมรับ อันนี้เห็นด้วย 100%

แต่ในมุมแฟนบอลทีมอื่น ที่เขามองมา พูดเป็นเสียเดียวกันว่า มาขนาดนี้ไม่ให้ลุ้นแชมป์ยังไงไหว

จริงอยู่เชลซียังเก๋าไม่พอ ไม่มีปัญญาเอาชนะทีมใหญ่  แต่ถ้ามองอีกมุม ทีมใหญ่มีแค่ 4-5 ทีม แต่ทีมกลาง ค่อนไปเล็กมี 15-16 ทีม

ต่อให้เชลซีแพ้ทีมใหญ่หมด แต่ชนะทีมเล็กได้ทุกทีม เก็บแต้มเป็นกอบเป็นกอบเป็นกำ เราก็ยังไม่เหมาะจะเป็นทีมลุ้นแชมป์อีกหรอ ?

การเอาชนะทีมใหญ่ได้ นั่นแปลว่าเราเจ๋งจริง แข็งจริง แต่การเอาชนะพวกเขาไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าเราไม่เหมาะสมขนาดนั้น เพราะบอลลีกไม่ใช่บอลฉาบฉวย มันต้องมีความคงเส้นคงวา

หรือจะให้เหมือนบางทีมแถวลอนดอน ชนะทีมใหญ่ได้ แต่จมอยู่อันดับ 10 ของตารางงี้ งั้นแบบนี้ก็เรียกทีมลุ้นแชมป์ได้สิ ใช่มั้ย ?

ดังนั้น ณ ตอนนี้ วินาทีนี้ ถามว่าเชลซีคู่ควรจะเป็นทีมลุ้นแชมป์ไหม บอกได้เลยค่ะว่า เหมาะสมและคู่ควร เล่นมาขนาดนี้ไม่คู่ควรได้ยังไง ตัวเลขบนตารางไม่โกหก

แต่ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว ทุกสายตาที่จับจ้อง มาพร้อมกับความกดดัน พวกเขาจะแบกรับมันไหวหรือเปล่า นั่นเป็นอีกเรื่องที่ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ว่าเด็กๆพวกนี้จะยืนระยะได้นานแค่ไหน

ในครึ่งฤดูกาลหลัง ขอแค่เชลซีรักษาฟอร์มการเล่นได้แบบนี้ ต่อให้จะได้แชมป์หรือไม่ได้แชมป์ แฟนบอลก็มีความสุขมากแล้ว

เพราะเป้าหมายที่แท้จริงคือติด ท็อปโฟร์  ที่ 3 หรือที่ 4 ก็ได้ แต่หากจบด้วยอันดับที่ดีกว่านั้น นั่นคือ “กำไร”