กีฬา

มองอย่างเพชร EP.22 ‘รูเบน อโมริม’ กับภารกิจขุดผีขึ้นจากหลุม

โดย petchpawee_k

8 พ.ย. 2567

2.5K views

ต้องบอกเลยว่ามา! “รูเบน อโมริม” เขามาจริงทุกคน ถึงแม้มันจะเป็นคำพูดติดตลกก่อนเกม ที่สปอร์ตติง ลิสบอน เจอกับ แมนซิตี้ ที่ว่า ถ้าแพ้แมนซิตี้ ( ศึก ชปล.) ความคาดหวังก็คงจะลดลง แต่ถ้าชนะซิตี้ได้ คนคงคิดว่า “เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” คนใหม่มาถึงแล้ว

แล้วเขาก็เอาชนะได้จริง ชนะแบบถล่มทลายด้วย 4-1 ปิดจบกับสปอร์ตติง สวยงาม พาทีมรั้งรองจ่าฝูงแชมเปียนส์ลีก ต้องบอกว่าเกมนัดนี้ มันเป็นเรื่องดีที่คว้าชัยชนะได้ แต่ถ้ามองอีกแง่ ก็ไม่ส่งผลดีต่ออโมริมเท่าไหร่

เพราะแสงมันส่องลงมา ความคาดหวัง ความกดดัน อะไรต่างๆจะประโคม มาที่เขา เพราะทุกคนเห็นแล้วว่าอโมริมยอดเยี่ยมแค่ไหน ยิงซิตี้ 4 ลูกได้ไม่ธรรมดานะ แล้วเอาจริงผ่านมาถึงตอนนี้ อโมริม ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วประมาณนึง ว่าตัวเขาก็เป็นโค้ชที่เก่งเหมือนกัน

ด้วยการ พาสปอร์ตติงคว้าแชมป์ลีกได้ในรอบ 19 ปี คุมทีม 4 ปีกว่า พาทีมคว้า 2 แชมป์ลีก กับ 3 แชมป์บอลถ้วย อัตราชนะ 70% ยิงสะบัด แถมเสียประตูน้อย แล้วตอนนี้ ยังนำจ่าฝูงลีกโปรตุเกสอีก ผ่านไป 10 นัดชนะรวด

แต่อย่างว่า สเกลของ สปอร์ตติง กับแมนยูไนเต็ด มันต่างกัน ความคาดหวังและความกดดัน มันต่างกันราวฟ้ากับเหว แล้วยิ่งอโมริม ที่พาทีมทำผลงานปังแบบนี้ มันก็ยิ่งมีความหวังว่า เขานี่แหละ จะช่วยกอบกู้สถานการณ์ของแมนยูได้

อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมนะว่า สปอร์ตติง ลิสบอน ทีมนี้คือทีมที่เขาสร้างมากับมือ ค่อยๆปรับค่อยๆแก้ ค่อยๆปรุงสุกจนพร้อมเสิร์ฟ วัตถุดิบอะไรต่างๆก็เลือกมาเองกับมือ กับระบบหลัง 3 ของเขา มันก็เข้ากันดีกับนักเตะชุดนี้ ลงตัวทั้งเกมรุกและรับ  

อย่างเกมที่ ชนะซิตี้ ก็มาในระบบ 3-4-3 มีการบิ้วท์อัพจากด้านหลัง  เกมรับแน่น เกมสวนกลับก็คม ถ้าใครได้ดูเกมจะเห็นว่า สปอร์ตติงของอโมริม มีการเข้าทำที่เร็วมาก เร็วกว่าวิธีการเล่นของแมนยูไนเต็ดตอนนี้  

ดังนั้นถ้าเข้ามา แล้วจะมาทำแมนยูไนเต็ด ด้วยระบบหลัง 3 แบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะเวิร์คหรือเปล่าด้วยทรัพยากรนักเตะที่มี เพราะแมนยูก็เล่นหลัง 4 มาตลอด

ขนาดอโมริมเองก็ยังบอกเลยว่า ชัยชนะที่สปอร์ตติงมีต่อซิตี้อ่ะ เป็นสิ่งที่แมนยูทำไม่ได้ คือหมายถึงว่า ทีมมันคนละทีม เล่นกันคนละสไตล์ จะให้แมนยูมาเล่นแบบสปอร์ติงเลย มันยังไม่ได้ ต้องปรับต้องจูนกันก่อน หรือถ้าจะเล่นหลัง 4 ก็ต้องดูว่าจะเล่นยังไงให้มันต่างจากที่เทนฮากทำไว้ นี่คือการบ้านของอโมริม ที่ต้องจัดการ

ดังนั้นสิ่งสำคัญเลย คือ ต้องให้เวลาเขาได้สร้างทีมของตัวเองขึ้นมา แต่ถามว่า แมนยูมีเวลาให้นานแค่ไหน ?  ยกตัวอย่างเช่น เยอร์เกน คล็อปป์ ที่เข้ามาตอนแรก ก็ยังไม่อะไร ฟอร์มไม่กระเตื้อง แฟนบอลก็ไม่แฮปปี้เหมือนกัน

แต่พอให้เวลาเขาได้สร้าง ปรับ จูน ก็ทำให้ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมที่มีทรง มีคาแร็คเตอร์ชัด กลายทีมแข็งแกร่งอย่างทุกวันนี้ แม้จะอยู่ในมือของสล็อต แล้วก็ตาม


นี่แหละคือความกดดันมหาศาลที่อโมริมต้องเผชิญ ต้องทำผลงานให้ดีในระยะเวลาที่จำกัด เพราะถ้าดูจากสัญญา แมนยูก็ไม่ได้ให้สัญญาระยะยาว นั่นหมายความว่า บอร์ดเอง ต้องการกอบกู้สถานการณ์ของทีมให้ได้ โดยเร็วที่สุด อาจจะยังไม่ต้องถึงลุ้นแชมป์เต็มตัวก็ได้  แต่ขอให้ติด ท็อป 4 เป็นอย่างน้อย เพื่อเรียกศรัทธาของแฟนบอลกลับคืนมา

 ซึ่งนี่แหละจะเป็น บทพิสูจน์ชั้นดีของอโมริม เลย ถ้าคุณคุมทีมใหญ่แล้วยังไปรอด ทำทีมมีทรง มีแชมป์ติดมือ นั่นก็แปลว่าคุณมัน “ของแทร่” ไม่ใช่แค่คอนเทนต์

ก็ต้องมาดูกันว่า ภารกิจ “ขุดผีขึ้นจากหลุม” ของรูเบน อโมริม ครั้งนี้ เขาจะทำมันสำเร็จได้ภายใน 2 ปีครึ่งหรือเปล่า

คุณอาจสนใจ

Related News