กีฬา

มองอย่างเพชร EP.19 ‘แมนฯยูไนเต็ด’ เรื่องควรไม่ทำ เรื่องทำไม่ควร

โดย petchpawee_k

19 ต.ค. 2567

49 views

สัปดาห์นี้มี 2 ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับฟุตบอลอังกฤษที่ทำให้ สถานการณ์ของ แมนยูมันย่ำแย่ลงไปอีก

เรื่องแรกคือการที่อังกฤษประกาศตั้ง “โธมัส ทูเคิล” เป็นกุนซือคนใหม่ และ เรื่องที่ สองคือ แมนยูไนเต็ด ปลด “เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” พ้นตำแหน่งทูตสโมสร  


แล้วทั้งสองเรื่องโยงกันยังไง ? เราจะใช้ Gat-Pat เชื่อมโยงให้ฟัง ต้องบอกว่า จริงๆแล้ว ผลงานของ แกรเร็ธ เซาธ์เกต ก็ไม่ได้แย่นะคะ พาทีมเข้าชิงแชมป์ยูโร 2 สมัยติด  แต่แค่ทรงบอลไม่ดี มันโคตะระน่าเบื่อ  

พอได้ ทูเคิล ซึ่งเป็นโค้ชเกรดระดับโลกเข้ามา มันก็เลยทำให้มีความหวังว่า “ทีมชาติอังกฤษ” จะอัพเกรด และเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

โธมัส ทูเคิล เป็นโค้ชที่ทุกฝ่ายยอมรับค่ะ เพราะไม่ว่าจะคุมทีมไหนก็ มักมีถ้วยแชมป์ติดมือเสมอ

ไม่ว่าจะ  พาเชลซีคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก พาเปแอสเช และบาเยิร์น คว้าแชมป์ลีก พาดอร์ทมุนด์ คว้าแชมป์บอลถ้วย สรุปคือคุม 4 ทีม น้าทูกวาดมาทั้งหมด 11 ถ้วย  ( ไม่ธรรมดาเลย ) ชัดละนะว่า เขาเป็นกุนซือระดับโลก  ที่เซาธ์เกตเทียบไม่ติด

ที่ผ่านมา ทูเคิล ตกเป็นเป้าหมายของทีมใหญ่หลายทีม ที่มีปัญหาเรื่องโค้ช  และ แมนยู ก็เป็นหนึ่งในนั้น เพราะผลงานมันประจักษ์แก่สายตา ว่าฟอร์มของแมนยู มันต่ำเตี้ยเรี่ยดิน และทุกข้อกล่าวหาพุ่งเป้าไปที่ฝีมือของ โค้ช อย่าง เอริ เทน ฮาก ที่ทุกคนรู้ว่าต้องปลดแน่ๆแหละ แค่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ด้วยเหตุผลต่างๆนานา

ก่อนที่สุดท้าย บอร์ดแมนยู จะสานต่อความสุขให้กับแฟนบอลอีก 19 ทีมที่เหลือ ด้วยการ  “เซฟเทนฮาก!” ด้วยตัวเอง  ส่วนคนที่มีชื่อพัวพันกันตลอดอย่าง ทูเคิล ได้ไปอยู่กับทีมชาติอังกฤษ


ขณะที่ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน กลับมีข่าวว่า แมนยู ปลดป๋าเฟอร์กี้  ออกจากทูตสโมสร ด้วยเหตุผลว่าอยากเซฟค่าใช้จ่าย อันนี้ แรงมากเลยนะ เพราะ ทุกคนรู้ โลกรู้ ว่า “เซอร์ อเล็กซ์” นี่เปรียบเสมือน จิตวิญญาณของแมนยูเลย

ซึ่งตำแหน่งทูตสโมสรเนี่ย ป๋าฟอร์กี้ ก็รับค่าเหนื่อยอยู่ประมาณ 2.16 ล้านปอนด์เท่านั้นเอง ก็ไม่ได้มากมายอะไรขนาดนั้น  กับบทบาทง่ายๆคือการ สร้างความน่าเชื่อถือและเป็นแบรนดิ้งให้กับสโมสร คือเห็นหน้าป๋าปุ๊บ โลโก้แมนยูลอยมาเลย ภาพมันชัดมาก


คนที่จะทำหน้าที่นี้มันหาไม่ได้ง่ายๆ ต้องเป็นระดับตำนาน ผลงานเป็นที่ประจักษ์ ทุกคนยกย่องเชิดชู อย่างเช่น เปเล่ ที่เป็นทูตของบราซิล  หรือ เยอร์เกน คล็อปป์ ที่เป็นทูตลิเวอร์พูล


ซึ่งตำนานเหล่านี้ จะเป็นตัวกลาง ที่ช่วยดึงให้บุคลากรอยู่กับสโมสรหรือองค์กรต่อไป  และมักจะไม่ค่อยมีใครกล้าแตะต้อง หรือมีเรื่องแตกหักกับตำนานของตัวเอง


แต่แมนยูฯกลับเลือกที่จะทำแบบนั้น  และไทม์มิงนี่แย่สุดๆอ่ะ เพราะมันคือช่วงเวลาเดียวกับ โค้ชที่กำลังอยากได้ “ประกาศว่าได้งานใหม่” พอดิบดี

ลองคิดดูนะว่า ถ้าแมนยูได้ทูเคิลจะเป็นยังไง  ความหวังที่จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลง จะกลับมาอยู่ที่แมนยูแทน และถ้าเกิดเป็นแบบนั้นอ่ะ การที่บอร์ดเลือกปลด เฟอร์กี้ ก็น่าจะช่วยลดแรงเสียดทานของแฟนบอล และแฟนๆเองก็คงเข้ามากกว่า เพราะเสียสิ่งหนึ่งก็ได้สิ่งหนึ่งมาแทน


แต่นี่อะไร แทนที่จะปลด เทน ฮาก กลับไปปลดตำนานสโมสรซะงั้น ด้วยเหตุผลว่าต้องการลดรายจ่าย มันก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า อ๋อที่เปลี่ยนโค้ชไม่ได้เนี่ย เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าฉีกสัญญา และจ่ายค่าจ้างโค้ชใหม่สินะ

และถ้าจะมาพูดถึงเรื่องเงินๆทอง เรื่องการขาดรายได้ของสโมสร ก็ต้องย้อนกลับไปว่า มันเพราะอะไรล่ะ ?  เพราะผลงานในสนามไม่ดีหรือเปล่า ก็เลยไม่มีเงินรางวัล  สปอนเซอร์ก็ไม่อยากจ่ายแพงเพราะผลงานแย่ เงินขายของที่ระลึกก็ลดลงตามผลงาน  

เอาง่ายๆคือ หารายได้ใหม่ไม่เป็น เลยทำได้แค่ลดรายจ่าย ซึ่งพอมาอยู่จุดนี้ ในแง่ของธุรกิจมันเข้าขั้นวิกฤตละนะ บอร์ดต้องคิดละว่า จะแก้ไขสถานการณ์ยังไง

นาทีนี้เลยบอกได้แค่ว่า “เรื่องที่ควรทำนี่ไม่ทำ แต่เรื่องไม่ควรทำนี่ไวจัง” และถึงแม้สุดสัปดาห์นี้ แมนยูจะชนะเบรนท์ฟอร์ด แต่ทุกคนก็รู้ว่าสุดท้าย ไม่ช้าก็เร็ว พวกเขาก็จะตกกลับมาที่เดิมอยู่ดี

เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่ฟอร์มตกเพราะดวง แต่เป็นเพราะศักยภาพทีม และคนนำทีมต่างหาก เหมือนคำเปรียบเทียบที่บอกว่า ไม่มีใครรู้หรอกว่าช้างขึ้นต้นไม้ได้ยังไง แต่ทุกคนรู้ว่ายังไง มันก็ต้องตกลงมาอยู่ดี

และจากนี้ คงพูดได้เลยว่า สถานการณ์ของแมนยูไนเต็ จะย่ำแย่มากขึ้นกว่าเดิม อยู่ที่ว่ามันจะสิ้นสุดที่ตรงไหน....ก็แค่นั้น

คุณอาจสนใจ

Related News