กีฬา
มองอย่างเพชร EP.4 เบื้องหลังคราบน้ำตาของ ‘โรนัลโด้’ หลังพลาดจุดโทษใน ‘ยูโร’ ครั้งสุดท้าย
โดย petchpawee_k
4 ก.ค. 2567
65 views
น้ำตาแห่งความผิดหวัง น้ำตาแห่งความเสียใจ หรือดีใจในวงการกีฬา เรามักจะเห็นได้ทั่วไปหลังจบการแข่งขัน แต่มีไม่บ่อยนักที่การแข่งขันยังไม่จบ แต่นักกีฬาก็หลั่งน้ำตาออกมาซะแล้ว และคราวนี้มันก็เกิดขึ้นในการแข่งขันฟุตบอลยูโรรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่โปรตุเกส ดวลลูกโทษชนะสโลวีเนีย แต่เหตุการณ์มันไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงนี่หรอกนะคะ แต่มันเกิดขึ้นระหว่างทางที่จะถึงฎีกาต่างหาก
ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 120 นาที มันได้เกิดภาพที่ทำให้แฟนบอลต้องประหลาดใจค่ะ ไม่มีใครคาดคิดหรอกว่าเราจะเห็น ภาพที่ “คริสเตียโน โรนัลโด” หัวใจแตกสลาย ถึงกับร้องห่มไห้ออกมา ในระหว่างแข่งขัน ทั้งที่ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะด้วยซ้ำ เขาหลั่งน้ำตาออกมาแบบไม่อาย ปล่อยโฮแบบไม่แคร์สื่อ ไม่สนภาพลักษณ์ ร้องไห้แบบไม่กลัวว่าจะโดนล้อเลย ขอแค่ให้ได้ปลดปล่อยความผิดหวังออกมา จนบรรดาเพื่อนร่วมทีมต้องเข้ามากอดปลอบ ให้กำลังใจ 
หลังจากที่เขาพลาดจุดโทษในนาทีที่ 105 แต่ถูกแยน โอบลัค พุ่งปัดเอาไว้ได้ สีหน้าแววตาของเขามันบ่งบอกทุกอย่างเขากำลังโทษตัวเองว่าอาจเป็นคนพาทีมตกรอบก็ได้ เพราะทุกคนรู้ดีกว่าลูกนั้นสำคัญแค่ไหน ถ้ายิงเข้าไปเกมอาจจะจบ อาจเป็นประตูที่พาโปรตุเกสทะยานเข้าสู่รอบต่อไป แบบไม่ต้องมานั่งลุ้นถึงฎีกายิงลูกโทษแบบนี้ แต่โรนัลโด้ผู้กุมชะตาโปรตุเกสไว้ในมือกลับเขวี้ยงโอกาสนั้นทิ้ง
หลายคนอาจมองเป็นเรื่องตลกขำขัน บ้างก็แซะโรนัลโด้หาซีนดราม่า โอเวอร์แอคติ้ง แค่ยิงไม่เข้า จะร้องไห้ทำไม บอลก็ยังไม่จบยังมีเวลา จริงๆจะคิดแบบนั้นก็ได้ไม่ผิด แต่ถ้ามองอีกมุม ความคาดหวังของคนเราไม่เท่ากัน ต้องไม่ลืมว่าทุกนาทีบนพื้นหญ้าในยูโรหนนี้ สำหรับโรนัลโด้พร้อมเป็นเกมยูโรนัดสุดท้ายของเขาเสมอ มันเลยมีความหมายต่อเขามากกว่าใคร เขาแค่อยากยื้อเวลาออกไปให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้เท่านั้นเ
แล้วเบื้องหลังคราบน้ำตาของโรนัลโด้ มันมีอะไรมากกว่าแค่การยิงไม่เข้าเขาไม่ได้เสียใจที่ยิงประตูในยูโรหนนี้ไม่ได้ เขาไม่ได้เสียใจ ที่ไม่ได้สร้างผลงานส่วนตัว แม้จะเป็นครั้งแรกในอาชีพ ที่เขายิงประตูในรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ใหญ่ไม่ได้เลย แต่เป็นเพราะเขารู้สึกผิดหวังมากเหลือเกินต่างหาก ที่เป็นที่พึ่งให้กับทีมไม่ได้
เรื่องนี้โรนัลโด้บอกว่า ตอนนั้นที่เขาร้องไห้ เขารู้สึกด่ำดิ่ง เขาอยู่ในจุดต่ำสุดเมื่อทีมต้องการเขามากที่สุด แต่เขากลับช่วยทีมไม่ได้ มันเลยเหมือนเป็นความผิดหวังขั้นสุดของคนที่อยากแบกความรับผิดชอบทุกอย่างเอาไว้ ซึ่งเจ้าตัวก็เปิดปากยืนยันเป็นครั้งแรกว่า ยูโรหนนี้เป็นครั้งสุดท้ายของเขาแล้ว ไม่มีโอกาสสำหรับเขาในเวทียุโรปครั้งหน้าอีกต่อไป
แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่ทำให้เขาหลั่งน้ำตาออกมา เพราะนอกจากเพื่อทีมแล้ว พี่โด้บอกว่า ปัจจัยสำคัญอีกอย่างก็คือแฟนบอลนี่แหละ เขาอยากทำให้แฟนๆมีความสุข ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ ได้ผ่านเข้ารอบต่อไปหรือไม่ก็ตาม
ย้อนกลับไปในเกมวันนั้น ถ้าใครได้ดูโปรตุเกสครองบอลบุกแทบจะฝ่ายเดียว เปอร์เซ็นครองบอลต่างกันลิบลับ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังยิงประตูไม่ได้ ต้องยอมรับว่าจังหวะจังๆยังไม่มี ไม่คมกันเอง และต้องให้เครดิตเกมรับของสโลวีเนียด้วย มีวินัยดีมาก แทบไม่มีหลุด หรือถ้าหลุดก็ยังมี แยน โอบลัค ปราการหลังด่านสุดท้ายช่วยเซฟไว้ได้ทุกดอก
แต่ในท้ายที่สุดพลพรรคฝอยทอง ก็ผ่านเข้ารอบได้อยู่ดีด้วยการชนะดวลลูกโทษ ซึ่งก็ต้องยกเครดิตให้ ดิโอโก้ คอสต้า ผู้รักษาประตูโปตุเกสด้วย ที่ใช้สกินร่างทอง ช่วยเซฟจุโทษ 3 ลูกติดได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ขณะที่ 3 คนที่ยิง เข้าฝั่งโปรตุเกส แน่นอนว่า โรนัลโด้ก็เป็น 1 ในนั้น เขาแก้ตัวได้สำเร็จ แล้วยิงดีมากด้วย คมกริบแม้โอบลัคจะพุ่งถูกทางแต่ก็จนปัญญาที่จะเซฟ
ต้องยอมหัวจิตหัวใจแกจริงๆ จากคนที่เพิ่งหัวใจแตกสลาย กลับมาดึงสติมีสมาธิ แล้วอาสายิงเป็นคนแรกให้กับทีมได้ ส่วนเหตุผลที่ออกมายิงเป็นคนแรก โรนัลโด้ บอกว่า เพราะเขาอยากจะรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำพลาดไป คือการที่เขายิงจุดโทษไม่เข้านั่นแหละ เขาไม่ได้กลัวที่จะเผชิญหน้า ในเวลาที่ทีมต้องการ จะมานั่งมัวกลัวหัวหดอยู่ไม่ได้
คุณต้องยืดอกเผชิญหน้ากับมัน ต้องกล้าไม่ใช่กลัว ซึ่งตัวเขาไม่เคยกลัว เขาไม่มีวันยอมแพ้ รับประกันได้เลยว่า เราจะไม่มีวันได้ยินคำว่า “ยอมแพ้” ออกจากปากคนอย่าง “คริสเตียโน่ โรนัลโด” แน่นอน
ขนาด โรแบร์โต้ มาติเนซ ผู้จัดการทีม ยังออกปากชมเลยว่า กัปตันทีมคนนี้ของเขากล้าหาญมาก โรนัลโด้เป็นแบบอย่างให้กับทุกคน แม้จะยิงพลาดไปแล้วแต่ก็ยังเชิดหน้าลุกขึ้นมารับหน้าที่สังหารจุดโทษอีกครั้ง
เช่นเดียวกับ ดิโอโก้ คอสต้า ที่ช่วยเซฟจุดโทษ พาทีมทะลุรอบ 8 ทีม ยังบอกเลยว่า โรนัลโด้เป็นคนที่ทำงานหนักที่สุด ไม่แปลกใจว่าทำไมเขาถึงได้รู้สึกแย่ขนาดนั้นตอนพลาดจุดโทษ เพราะเขาทุ่มเทเวลาทั้งหมดที่มีไปกับเรื่องของการแข่งขัน
ก็ไม่เปลกใจเลยว่าทำไมโรนัลโด้ ถึงเป็นไอดอล เป็นแบบอย่างของนักเตะหลายต่อหลายคน เรื่องเต็มที่พี่แกยืน 1 มันไม่ใช่แค่เรื่องของความเก่งกาจหรือเรื่องของฝีเท้า แต่มันเป็นเรื่องของ mindset มีแพชชั่ช กล้าเผชิญหน้า มีวินัย และรับผิดชอบ และอีกอย่างที่ได้เห็นจากโรนัลโด้ คือเขาเป็นนักเตะที่ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเองเขากล้าที่จะแสดงความรู้สึกออกมาอย่างตรงไปตรงมา
การแสดงความรู้สึกสียใจ หรือผิดหวังออกมา มันไม่ใช่เรื่องผิด การร้องไห้ไม่ได้แปลว่าคุณอ่อนแอ ใจไม่สู้ แต่กลับกัน มันเป็นการแสดงออกให้เห็นว่าคุณทุ่มเทมากแค่ไหน คุณอยากเป็นผู้ชนะมากแค่ไหนต่างหาก บางครั้งน้ำตาก็เป็นการสะท้อนออกมาของแพชชั่นที่มีอยู่ในตัว
สำหรับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในยูโรหนนี้ ไม่ว่าเขาจะพาโปรตุเกสทะลุเข้าชิงได้หรือไม่ เขาได้เป็นตำนานไปเรียบร้อยแล้วค่ะ ด้วยการเป็นนักเตะคนแรกและคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ได้ลงเล่นฟุตบอลยูโร 6 สมัย ซึ่งคงยากที่จะมีใครมาล้มสถิตินี้ได้
