เปิดใจ ‘อั้ม อธิชาติ’ เลิก ‘นัท มีเรีย’ ไม่มีมือที่สาม ‘เจนี่’ เพื่อนตั้งแต่เด็ก

พระเอก ‘อั้ม อธิชาติ’ ยันไร้มือที่สามหลังเลิก ‘นัท มีเรีย’ หลัง ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ ขนของออกจากบ้าน ส่วน ‘เจนี่’ เป็นเพื่อนตั้งแต่เด็ก

หลังจบรายการคุยแซ่บ show คุณอั้ม อธิชาติ ได้แถลงข่าวเปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนครั้งแรก โดยคุณอั้มยืนยันว่า ได้ยุติความสัมพันธ์กับคุณนัทแล้ว และปฏิเสธว่าไม่ได้มีมือที่ 3 ซึ่งประเด็นดังกล่าวส่งผลกระทบต่อครอบครัว และคนรอบข้างของคุณอั้ม

ก่อนที่จะไล่เรียงไทม์ไลน์ว่า ครั้งแรกที่ข่าวลงกันคือ 1 ตุลาคม วันนั้นตนเองใช้ชีวิตกับครอบครัวตามปกติพร้อมกับคุณนัทที่บ้าน และแม่ก็ยังออกไปซื้อกับข้าว จากนั้นก็ออกไปทำงานประชุม

กระทั่งช่วงบ่าย ก็มีผู้ช่วยวิ่งขึ้นมาบอกว่ามีข่าวเต็มโซเชียวว่า พระเอกดังยุค 90 เตียงหัก และแยกย้ายกันอยู่ ซึ่งตอนนั้นก็ยังพูดกับผู้ช่วยว่าไม่ใช่ตนเองแล้ว เพราะเราเจอแบบนี้ค่อนข้างบ่อย และมองว่าอาจจะไม่ต้องตอบก็ได้ ก่อนที่พี่นักข่าวหลายสำนักติดต่อมา ซึ่งไม่อยากพูดอะไร เพราะตอนนั้นชีวิตปกติมาก ยังไม่มีเรื่องอะไรทะเลาะกัน

และตอนเช้าวันที่ 2 ตุลาคม ก็ยังไปทำงานอยู่แล้วก็โทรหาคุณนัทตอนเที่ยง เลยถามว่าได้เห็นข่าวไหม ซึ่งนัทก็บอกว่าเห็นแล้ว แต่ก็บอกว่าขอไปเตรียมตัวก่อนจะไปทำงานต่างจังหวัด ตนเลยบอกว่า ถ้าว่างแล้วโทรมา ซึ่งระหว่างนั้น ตนก็ไปถ่ายงานแล้วก็รอสายคุณนัท

กระทั่งวันที่ 5 ตุลาคม มีการพูดคุยในโทรศัพท์ระดับหนึ่ง จนวันที่ 9 ตุลาคมนั่งคุยกันที่บ้านอย่างจริงจัง และเป็นการยุติความสัมพันธ์

ในวันนั้น คุยกันด้วยเหตุผลคนสองคนในครอบครัว คุณนัทบอกว่าคิดดีแล้ว และหลังๆ เป้าหมายในชีวิตเราแตกต่างกัน ไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน และเราแยกย้ายกันตอนนี้ คืนชีวิตให้กันตอนนี้ เรายังสามารถเป็นเพื่อนและสามารถพบเจอกันได้ ยังมีความรู้สึกดีๆ ที่เรามีกันอยู่ ดีกว่าที่จะหักล้างกันมากกว่านี้

คุณอั้ม ยังได้ถามคุณนัทว่า ที่มีข่าวลง ณ เวลานั้นแล้ว ตนเองมีมือที่สาม คุณนัทคิดในใจ หรือมีอะไรไหม คุณนัทก็บอกว่าไม่มี มันเป็นเรื่องของคนสองคนเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับมือที่สาม ซึ่งตนมองว่าเดี๋ยวคงจะต้องมีนักข่าวมาถาม นัทก็เลยบอกว่าให้ตอบตามความเป็นจริงว่า ยุติความสัมพันธ์ด้วยเรื่องของคนสองคนเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับคนที่สาม ซึ่งอันนี้ตนเองตอบตามสิ่งที่คุยกันภายใน

และวันที่ 13 ตุลาคม ตนก็ย้ายข้าวของออกจากบ้าน และยังไม่ได้เจอคุณนัท โดยก่อนออกจากบ้าน ก็เขียนโน๊ตข้อความว่าขอบคุณ และขอโทษในสิ่งที่เป็นมา ขอโทษในความผิดพลาดอะไรต่างๆที่เราทำในฐานะคู่ครองที่อาจจะไม่ดีอย่างที่มันควรจะเป็น ก็ขอโทษในทุกเรื่อง

ส่วนประเด็นที่คุณนัทให้สัมภาษณ์ มีสงสัยตรงไหนหรือไม่ คุณอั้ม บอกว่าไม่ได้สงสัยเพราะเราก็เข้าใจว่า 15 ปี คนเป็นครอบครัวจริงๆ บางเรื่องมันละเอียดอ่อน ย้ำว่าตนเองก็มีข้อผิดพลาด ก็ยอมรับในสิ่งนั้น

วันนี้การยุติความสัมพันธ์ ไม่ใช่เรื่องที่เราต่างปรารถนา แต่มันเกิดขึ้นแล้ว อยากให้เคารพในสิ่งนี้ เพราะความรู้สึกที่มีต่อกัน ดูแลกันมา มีทุกข์ ก็มีสุข แต่คอมเมนต์ต่างๆของคนภายนอกเข้าใจว่า ต่างคนมีความชอบ และไม่ชอบ ทุกคนต่างมีเหตุผล คอมเม้นต์ได้ มีความคิดเห็นได้ แต่อย่าทำลายซึ่งความสัมพันธ์คนรอบข้าง หรือความเห็นต่างกันเลย

ส่วนประเด็นเรื่องของการทำลูก โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสทำได้ไง เรื่องนี้ จริงๆมันค่อนข้างนานมาก และจำไม่ได้เลย แต่วันนี้เรารับรู้ เรารับทราบ และยอมรับว่ามันเกิดขึ้นแล้ว ว่าต้องมีการจดทะเบียนในการทำ ซึ่งได้มีการบอกกับผู้ช่วย และทีมงานที่เกี่ยวข้องว่าถ้ามีอะไรที่ตนจะรับผิดชอบได้ หรือแก้ไข

เมื่อถามว่าประเด็นเรื่องการไม่มีลูกนำมาสู่วันนี้หรือไม่นั้น คุณอั้ม บอกว่า การมีลูกเป็นเป้าหมายของครอบครัว ซึ่งต้องบอกว่าเรามีเป้าหมายร่วมกันว่าเราอยากจะมีน้อง อยากมีลูก เพื่อเป็นการสร้างครอบครัว แต่การที่มีไม่ได้เราก็เข้าใจกันทั้งคู่ เข้าใจถึงการมีและไม่มี ตนมองว่าเรามีความสุขในเป้าหมายที่ร่วมกันมา

ส่วนประเด็นเรื่องที่ถูกโยงถึงคุณเจนนี่ จริงๆถูกโยงหมด สำหรับเจนนี่ ก็ต้องบอกว่าตนสนิทมานานมากแล้ว ตั้งแต่เด็กๆ เจนนี่เป็นเหมือนกับเพื่อนผู้ชาย มีความเป็นเพื่อนผู้ชายนิดนึง

ส่วนวันนี้ที่ไปพบตำรวจไซเบอร์ เพื่อไปปรึกษา ไม่ได้ไปฟ้องร้อง หรือแจ้งความอะไร เป็นการปรึกษาขอบเขตที่เราสามารถทำได้ตามปุถุชนทั่วไป อะไรผิดอะไรถูก หลังจากนี้ถ้ามีคอมเมนต์ใดๆ ก็เอาข้อมูลหลักฐานเหล่านั้นมาคุยต่อหน้าตนเอง บนการตรวจสอบที่ถูกต้อง ถ้าเป็นผลกระทบต่อคนรอบข้าง และไม่ใช่ความจริง ก็ต้องมีผลกระทบเช่นกัน

ตนอยู่ในวงการบันเทิงเข้าใจว่าเราเป็นทั้งคนสาธารณะ แต่ในส่วนหนึ่งของมันก็มีขอบเขตของมัน จะพูดถึงตนอย่างไรเข้าใจจะ คอมเม้นต์อย่างไรก็คอยอ่าน แล้วก็ฟังอย่างเดียว แต่คราวนี้อะไรที่เกินขอบเขตมันกระทบถึงครอบครัว ตนก็ต้องลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างเพื่อความถูกต้อง

หลังจากนี้คุณนัทก็มีครอบครัวที่ต้องดูแล ตนเองก็มีครอบครัวต้องดูแล เราก็ต่างดูแลครอบครัวของตัวเอง มีโอกาสถ้าวันนึงก็อาจจะนัดทานข้าวเจอกันบ้าง

เมื่อถามว่าเฮิร์ทไหม มันเฮิร์ทอยู่แล้วแหละ มันมีความรู้สึก แล้วก็เชื่อว่านัทเองก็เป็น15 ปีเรายังรัก ระลึกถึงกัน มีความปรารถนาดีต่อกันในทุกเรื่อง


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/e3Ov_tDWFJk