นักร้องสาว โพสต์ใช้ยาย้อมผมแบรนด์ดังทำผมร่วงหนัก เจอเจ้าของแบรนด์ ขู่ฟ้อง พ.ร.บ.คอมฯ

นักร้องสาวขอความช่วยเหลือจากทนาย หลังใช้ยาย้อมผมออร์แกนิคยี่ห้อดัง ทำผมเสียร่วงเป็นกอง จึงโพสต์เล่าเรื่องในเฟซบุ๊ก จนเจ้าของสินค้าทักมาคุย ก่อนขู่ฟ้อง พ.ร.บ.คอมฯ ทำให้สินค้าเสียหาย



ภาพที่ น.ส.พิศณุพร อายุ 27 ปี ผู้เสียหายถ่ายโพสต์บนเฟซบุ๊ก พร้อมบอกว่า เป็นผลมาจากการใช้ยาย้อมผมยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งเป็นยี่ห้อดังขายดีในแอพพลิเคชั่นติ๊กต่อก แต่พอเธอใช้กลับทำให้ผมขาดร่วงตั้งแต่ตอนล้างผม ยิ่งตอนหวียิ่งลูกเป็นกอง พอโพสต์เตือนในเฟซบุ๊ก กลับถูกเจ้าของผลิตภัณฑ์ทักแชทมาขู่ฟ้อง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เธอจึงนำหลักฐานทั้งหมด เข้าขอความช่วยเหลือกับ น.ส.ธนิดา แจ้งจำรัส หรือ ทนายนินู



น.ส.พิศณุพร เล่าว่า ตนเห็นผลิตภัณฑ์ยาย้อมสีผมตัวนี้ ในโซเชียลทั้งเฟซบุ๊ก และติ๊กต่อก เห็นรีวิวในทิศทางที่ดี มีโฆษณาว่า เป็นสีย้อมผมออร์แกนิค 100 เปอร์เซ็น ไม่ทำให้ผมเสีย จึงลองสั่งซื้อผ่านตัวแทนมาทดลองใช้ 3 กล่อง ในราคากล่องละ 145 บาท เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ แล้วของก็มาส่งในวันที่สั่ง ตนจึงเปิดใช้ทันที เพราะมีงานร้องเพลง และถ่ายแบบรีวิวสินค้า จึงอยากจะเปลี่ยนลุคสีผมใหม่



เมื่ดเปิดกล่องมาผสมยาย้อมผมใส่ขวดพลาสติก แล้วลองจับที่ขวดดู มีความรู้สึกขวดอุ่น ๆ แต่ก็ไม่คิดอะไร จึงย้อมผมตามปกติ โดยทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ระหว่างที่รอ รู้สึกร้อนและแสบหนังหัวมาก พอครบ 30 นาที ก็รีบล้างออก ตอนล้างก็รู้สึกว่า ผมแข็งกระด้าง และจับเป็นก้อน ทำให้สางผมไม่ได้ จึงใช้แชมพูและใช้ครีมนวดล้างอีกที ปรากฎว่าผมขาดหลุดร่วงติดมือเต็มไปหมด ตอนนั้นตกใจมาก จึงให้แฟนถ่ายคลิปไว้ หลังสระผมเสร็จก็ใช้หวีสางผมต่อ ปรากฏว่า ผมก็หลุดติดเต็มหวีอีก



ก่อนหน้านี้ตนเคยใช้ผลิตภัณฑ์ยาย้อมผมมาหลายยี่ห้อ แต่ก็ไม่เคยเกิดอาการแบบนี้มาก่อน จึงนำคลิปที่ถ่ายไว้มาโพสต์เฟซบุ๊กบอกเล่าเรื่องราว ทำให้มีชาวเน็ตแชร์โพสต์ไปเป็นจำนวนมาก จากนั้นก็ทักไปบอกตัวแทนจำหน่าย



ต่อมาเจ้าของผลิตภัณฑ์ ได้ทักแชทมาหา สอบถามว่าแพ้ครีมย้อมผมเหรอ เป็นปกติของพวกครีมย้อมผม ถ้าคนแพ้ก็จะผมร่วง ผื่นขึ้นหน้า ก็ให้หยุดใช้แล้วพบแพทย์ แล้วก็ยังบอกอย่าเพิ่งโพสต์ได้ไหม เดี๋ยวเรารับผิดชอบ เป็นปกติอยู่แล้วที่ลูกค้าจะต้องแพ้ จะให้รับผิดชอบส่วนไหนก็บอก แต่อย่าโพสต์เลย โพสต์แบบนี้มันผิด พ.ร.บ.คอมฯ เพราะลูกค้าที่ใช้แล้วดีก็มีเยอะ ลูกค้า 100 คน จะแพ้อยู่ 1-5 คน ผู้เสียหายก็ถามไปว่า ทำไมถึงมีคนแพ้ ทั้งที่มันเป็นออร์แกนิค



เจ้าของผลิตภัณฑ์บอกว่า ออร์แกนิค 100 เปอร์เซ็นไม่ได้อยู่แล้ว แต่ของเราสารสกัดธรรมชาติเยอะมาก มากกว่าแบรนด์อื่น ยังไม่มีนวัตกรรมตัวไหน สีผม 100 เปอร์เซ็น ธรรมชาติได้ จากนั้นก็ให้ผู้เสียหายไปพบ แล้วจะรับผิดชอบค่ารักษาและค่าเสียเวลาให้



จากนั้นก็พยายามบอกให้ผู้เสียหายลบโพสต์ พร้อมข่มขู่ว่า เจ้าของผลิตภัณฑ์สามารถฟ้อง พ.ร.บ.คอมฯ ได้ เพราะข้างกล่องก็เขียนไว้แล้วว่า อาจแพ้ได้ และถ้าแพ้ควรไปพบแพทย์รักษา ไม่ใช่มาโพสต์โซเชียล แล้วยังแชร์ดันโพสต์ตัวเอง ผู้เสียหายจึงส่งคลิปเห็ผมร่วงไปให้ดู ก็บอกว่า ให้ลูกค้าไปหาหมอ แล้วเรียกค่าเสียหายมา



ผู้เสียหายจึงโชว์ใบรับรองแพทย์ และบิลค่ารักษา พร้อมเรียกค่าเสียหายไป 100,000 บาท ซึ่งเป็นค่าเสียรายได้ 20,000 บาท ไม่รวมค่าบำรุงระยะยาว คือการต่อเคราตินสด และเคลือบผมชั้นนอก รวม 18,700 บาท รวมค่าเสียเวลา ค่ารักษา และค่าเดินทาง รวมถึงค่าทำขวัญ



พอยื่นข้อเสนอไป เจ้าของผลิตภัณฑ์ก็บอกว่า จำนวนนี้เกินจริงไป เดี๋ยวจะให้ทนายตรวจสอบ และจะฟ้องเรื่องที่โพสต์เฟซบุ๊กด้วย



ทำให้รู้สึกเครียดมาก เพราะเป็นผู้เสียหายแล้วยังจะถูกฟ้องร้องเอง ทั้งที่หลังเกิดเรื่องตนก็ช็อกมากแล้ว ตนเป็นผู้หญิงปกติก็รักสวยรักงาม โดยเฉพาะเรื่องผม ซึ่งกว่าจะไว้ยาวได้ขนาดนี้ต้องใช้เวลา 3-4 ปี ตอนนี้มีความรู้สึกว่ามีคนเอากรรไกรมาตัดผม เกิดเหตุมา 5 วันแล้ว ตนยังไม่กล้าสระผม ตอนนี้ทำงานไปจิตตกไป กังวลเรื่องจะถูกฟ้องร้อง จนต้องขอความช่วยเหลือจากทนายนินู



ด้านทนายนินู บอกว่า ผู้เสียหายกลัวถูกฟ้องข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งการที่จะฟ้องในข้อหานี้คือ การนำข้อมูลอันเป็นเท็จไปเผยแพร่ผ่านสื่อหรือโซเชียล ทำให้บุคคลที่พูดถึงหรือกล่าวอ้างเสียหาย แต่ถ้าผู้เสียหายโพสต์โดยสุจริต ซึ่งหมายความว่า ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจริง และสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง อาจจะไม่เข้าข่ายความผิดก็ได้ ตนพร้อมตั้งรับในส่วนนี้ไว้แล้ว และจะดำเนินการเรียกร้องสิทธิ์ให้ผู้เสียหายให้ถึงที่สุดทั้งทางคดีแพ่งและคดีอาญา



นอกจากนี้หลังผู้เสียหายโพสต์ลงโซเชียล ก็มีผู้เสียหายรายอื่นแจ้งมาว่า ได้รับผลกระทบจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าว มีลักษณะการแพ้มีแผลพุพองบริเวณลำคออย่างรุนแรง ตนพร้อมจะช่วยดำเนินการทางกฎหมายเช่นกัน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/ZU1j8AqQ5sI