ข่าวโซเชียล

“ฮุน เซน” โพสต์เงินบาทกำลังฆ่าชาวกัมพูชา สั่งใช้เงินเรียลหากรักชาติจริง

8 ต.ค. 2568

95 views

วันที่ 8 ต.ค.2568 สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ข้อความระบุว่า ผมได้รับแจ้งว่าประชาชนของเรา โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนที่ปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย ได้เริ่มแลกเปลี่ยนเงินบาทไทยเป็นเงินเรียลภายในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากที่ผมโพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2568

นับเป็นเรื่องดีที่ประชาชนชาวกัมพูชา หันมาใช้เงินเรียลบนแผ่นดินของตนเอง เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียทางการเงิน และป้องกันไม่ให้กลายเป็นจุดอ่อนของชาติ เมื่อถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองจากสกุลเงินต่างชาติ

ผมยังทราบด้วยว่าชาวกัมพูชาบางส่วนที่ทำงานและหาเลี้ยงชีพในประเทศไทย ยังไม่สามารถถอนเงินจากธนาคารในประเทศไทยได้

สถานการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าเงินบาทไทยกำลังสร้างความเสียหายแก่ชาวกัมพูชาที่ทำงานและอาศัยอยู่ในประเทศไทย ในอนาคตเงินบาทจะส่งผลกระทบต่อชาวกัมพูชาในกัมพูชาเช่นกัน หากพวกเขายังคงใช้จ่ายและออมเงินเป็นเงินบาทต่อไป

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมปรารถนาขอร้องคือ ขอให้พี่น้องร่วมชาติทุกท่านที่ทำธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินตรา โปรดแลกเปลี่ยนเงินตามอัตราตลาด อย่าแสวงหากำไรเกินควร โดยการลดค่าเงินบาทและเพิ่มค่าเงินเรียล ซึ่งจะก่อให้เกิดความสูญเสียแก่ผู้ที่ต้องการแลกเปลี่ยนเงินตรา

ผมขอเรียกร้องให้เพื่อนร่วมชาติของเราหยุดใช้สกุลเงินบาทไทยในการอ้างอิงค่าจ้าง ราคาสินค้า หรือค่าบริการ ต่อไปนี้ขอให้เปลี่ยนมาใช้สกุลเงินเรียลหรือดอลลาร์สหรัฐ และควรเป็นสกุลเงินเรียลจะดีกว่า เพื่อเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับสกุลเงินของประเทศ

หากคุณรักประเทศชาติอย่างแท้จริง โปรดเก็บธนบัตรที่มีภาพพระบรมวงศานุวงศ์ของเรา ทั้งภาพพระบิดา พระมารดา และพระมหากษัตริย์ ไว้ในกระเป๋าสตางค์ กระเป๋าเสื้อ หรือกระเป๋าถือ แทนที่จะใช้ธนบัตรของกษัตริย์ต่างชาติที่มองเราเป็นศัตรูและปฏิบัติต่อเราด้วยความดูถูกเหยียดหยาม

ผมขอเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระดับดำเนินการและกำจัดเจ้าหน้าที่และพ่อค้าที่ยังคงลักลอบนำสินค้าไทยเข้าประเทศ ในขณะที่ด่านชายแดนยังคงปิดอย่างเป็นทางการ พฤติกรรมเช่นนี้ทำให้เพื่อนบ้านของเราดูถูกเหยียดหยามเรา สมมติว่าเราอยู่ไม่ได้หากปราศจากสินค้าของพวกเขา

หากผมยังเป็นนายกรัฐมนตรีเช่นเดิม ผมคงไม่จำเป็นต้องพูดจาแบบนี้ ผมเพียงแค่ออกคำสั่งจับกุมหรือปลดออกจากตำแหน่งเท่านั้น แต่โปรดอย่าคิดว่า “เมื่อแมวไม่อยู่ หนูร่าเริง”


คุณอาจสนใจ

Related News