ร้านลาบเหนือสุดทน ตำรวจกร่างขายหมูกะทะยิงปืนขู่ข้ามปี แจ้งความมา 2 ครั้งไม่คืบ ขอเป็นฝ่ายย้ายร้านหนีเอง

คุณนางสาวศิริพร อายุ 42 ปี เปิดร้านขายลาบเหนือ กาแฟสด คาราโอเกะ อยู่ริมถนนสายแยกช่างแสง วัดพระญาติ ห่างจาก อบต บ้านเกาะประมาณ 200 เมตร ตำบลบ้านเกาะ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เกิดความอัดอั้นตันใจสุดจะทนร้านหมูกะทะเพื่อนบ้าน ซึ่งทราบต่อมาว่าเป็นของนายตำรวจใหญ่คนหนึ่ง ประจำการอยู่ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สารพัดจะกลั่นแกล้ง ทั้งยิงปืนนับสิบนัดข่มขู่ ขับรถด้วยความเร็วมาเบรกดิฟหน้าร้าน สร้างความหวาดเสียว หวาดกลัวให้กับคุณสิริพร และลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ รวมถึงลูกน้องพนักงานในร้านลาบเหนือของคุณสิริพร ได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ถึง 2 ครั้งแต่เรื่องก็ไม่ยุติ ส่อเค้าจะบานปลายด้วยซ้ำไป สุดท้ายวันนี้จำต้องยอมแพ้ ขอเป็นฝ่ายไปดีกว่าตัดสินใจ ปิดร้านย้ายหนี และได้โพสต์เฟซบุ๊กระบายความอัดอั้นตันใจไว้ในเฟซบุ๊กของตัวเอง โดยมีข้อความว่า วันนี้!!ขอระบายหน่อยค่ะ..ทนไม่รู้จะทนยังไงแล้ว!!



#คุณเป็นตำรวจ มาข่มขู่ประชาชนแบบนี้เหรอ ..??



#ทำมาค้าขายด้วยกัน อยู่ข้างบ้านกัน มีอะไรก็เดินมาคุยกันดีๆก็ได้



#ขนาดร้านคุณขายหมูกะทะยื่นออกมานอกถนนขนาดนั้น ปิดทัศนียภาพร้านเรา เรายังไม่เคยไปร้องเรียนคุณเลย



เพราะเรารู้เราเช่าที่เขา ไม่กี่ปีเราก็ไปแล้ว และเราก็ไม่อยากมีปัญหา..แค่อยากมาทำมาหากิน



#คุณร้องเรียนเรามาหลายรอบ เราก็แก้ไขให้คุณทุกอย่าง #คุณร้องเรื่องเสียง เราก็ไม่เปิดมาเปิดในห้องแอร์แทน



ปิดเร็วขึ้น ..เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา



#คุณร้องเรื่องน้ำ เรื่องกลิ่น อยากให้เราทำถังแช็ก เราก็ทำให้ หน่วยงานราชการก็มาเป็นคนกลางมาตรวจสอบทุกอย่างแล้ว



#ยังไม่พอใจอะไรอีก..



#ยิงปืน ข้างบ้าน ตี1ตี2ก็ยังยิง และเราก็พักอยู่ที่ร้าน จนตอนนี้ไม่มีใครกล้าอยู่ร้านกลางคืน เพราะกลัวลูกหลง



#วันดีคืนดี ยิงปืนเป็น10นัด และบ่อยและถี่ขึ้นทุกครั้ง และร้านเรามีแต่ผู้หญิง และลูกอีก2คน



#วันดีคืนดีก็มาดิปรถข้างร้าน



#แล้วก็มาป่วนในเพจของร้าน #ตอนนี้เข้าไปทักส่วนตัวสามี



#เราก็พยายามจะไม่ตอบโต้ และพยายามหาที่เปิดใหม่ แต่ก็ยังไม่จบ ราวีตลอดเวลา ..คุณต้องการอะไร



#ก่อนหน้านี้คุณก็ซื้ออาหารบ้านเรา เราก็ซื้อหมูกระทะบ้านคุณ..แฟนคุณยังมานั่งกินเหล้าพาเพื่อนมาสังค์สรรค ตี1ตี2ยังไม่ยอมกลับ เราก็ไม่ว่า เพราะเห็นเป็นข้างบ้าน



#แต่มาวันนี้ที่ทนไม่ได้เพราะมันเยอะเกินไป นิ่งก็ราวีตลอดเวลา..ไม่ตอบโต้เราก็ต้องทำมาหากิน



#ทุกวันนี้!!ร้านก็เปิดๆปิดๆ จนขาดรายได้ เพราะกลัวลูกค้าโดนลูกหลง และลูกค้าบางคนที่รับรู้ปัญหาก็ไม่กล้ามา



พนักงานก็ทำงานด้วยความหวาดระแวงและความกลัว ..แต่ก็ต้องทนมาทำงานเพราะทุกคนต้องเลี้ยงครอบครัว



#ทุกวันนี้!!ต้องระแวงตลอดว่าข้างบ้านจะมีปัญหาอะไรอีกไหม ..



##คือเรา!!แค่ขอทำมาหากินในที่ของเราค่ะ!!



##ใครก็ได้ช่วยให้ข้อคิดเห็นและเสนอแนะ หรือหน่วยงานไหนช่วยหรือสามารถทำอะไรได้บ้างไหมคะ...ขอบคุณค่ะ



##นี่คือคลิปบางส่วนเท่านั้นค่ะ #พวกเรามือเปล่าไม่มีปืนไม่มีอาวุธค่ะ



โดยได้โพสต์คลิปกล้องวงจรปิดภายในร้านของเธอ ไว้ทั้งหมด 3 คลิป สภาพหน้าร้านรวมถึงข้อความโต้ตอบกับร้านหมูกะทะคู่อริด้วย คุณสิริพร ได้ติดแฮชแท็กไว้มากมายด้วยความทุกข์ใจ โดยมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมายต่อว่าการทำงานของตำรวจ และให้กำลังใจคุณสิริพร



ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบคุณสิริพร ที่ร้านพบว่ากำลังเก็บของเตรียมย้ายร้านหนีไปให้พ้นร้านหมูกระทะของนายตำรวจใหญ่คู่อริ บอกว่ามันเหลืออดสุดทนถึงได้โพสต์เฟซบุ๊กระบายตั้งแต่มาเรื่องกระทบกระทั้งกันมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ไม่เคยโพสต์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสักครั้ง เพียงแต่หวังว่าสักวันสถานการณ์ก็จะดีขึ้นทำความเข้าใจกันได้ แต่สุดท้ายมีแต่ความเลวร้ายจนต้องมีการแจ้งความมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เพราะเป็นตำรวจด้วยกัน จึงขอย้ายร้านหนีดีกว่า หมดทุกข์หมดเรื่อง



นางสาวสิริพร ตอนเปิดร้านใหม่ก็ไม่มีอะไรกันไปมาหาสู่ต่างคนต่างขายดูเหมือนดี เพื่อนบ้านขายหมูกระทะ ส่วนตนเองขายอาหารประเภทตามสั่งลาบเหนือ มีกาแฟสด ครั้งแรกๆ จะมีคาราโอเกะด้วยร้านหมูกระทะก็ยังเคยมาใช้บริการหลายครั้ง



ชนวนเหตุเกิดจากร้านเราอยู่ติดกัน อยู่ๆ ร้านหมูกระทะของนายตำรวจใหญ่ไปร้องเรียนว่าร้านของตนเองปล่อยระบายน้ำเสียส่งกลิ่นเหม็น น้ำไหลเปรอะเปื้อน จึงได้ทำการแก้ไขปัญหาเรียบร้อย อบต. ก็เข้ามาตรวจสอบแทนที่เรื่องจะจบก็ไม่จบ ร้านหมูกระทะก็หาเรื่องประจำไม่รู้เกิดอะไรขึ้น มีทั้งยิงปืนข่มขู่ในเวลากลางคืนหลายครั้งๆ ละนับสิบนัดแสงไปสว่างใส่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเสียงปืนแสงไฟไว้ได้นำมาเป็นหลักฐานแจ้งตำรวจ ร้านหมูกะทะยังสารพัดจะแกล้งนอกจากยิงปืนแล้วยังขับรถเก๋งในลักษณะหวาดเสียวด้วยความเร็วแรงและมาเบรกกระทันหันหน้าร้านเสียงดัง