ข่าวโซเชียล

สาวผวา หนุ่มขวางหน้ารถบนทางด่วน ตะโกนขอขึ้นรถ-ใช้หมวกกันน็อกทุบกระจก ตั้งคำถามขึ้นมาได้อย่างไร?

11 มี.ค. 2567

482 views

ผวา! ขับรถกลับคอนโดฯ เจอชายแปลกหน้ายืนขวางหน้ารถบนทางด่วน พยายามเปิดประตูแต่เปิดไม่ออกเพราะประตูล็อก ใช้มือตีกระจกตะโกน “ไปลงด้วยได้มั้ย! ผมขอลงหน่อย! ผมขอไปลงข้างหน้าหน่อยเด้!” เอาหมวกกันน็อกฟาดกระจกฝั่งผู้โดยสารด้านหลัง เจ้าของรถหวาดกลัวรีบขับหนี เผย สติคือสิ่งสำคัญ ล่าสุดได้แจ้งความแล้ว วอนมามอบตัว เผยควรพูดจาดีๆ ขอร้องดีๆ เพื่อให้สอบถามที่มาที่ไปก่อน แบบนี้คือการคุกคาม


ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Panhathai Buranaprasoetkun ได้โพสต์คลิปกล้องหน้ารถ พร้อมเล่าเหตุการณ์ว่า


เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2567 ณ ทางด่วนด่านเลียบแม่น้ำ ถ.พระราม 3 ช่องนนทรี เวลาประมาณ 13:24 น. ตนเองขับรถออกจากบริษัท เพื่อจะกลับคอนโดที่ห้วยขวาง เลือกที่จะขึ้นทางด่วนปกติ มีผู้ชายวัยกลางคนถือหมวกกันน็อกในมือ  ยืนอยู่บนทางด่วน ห่างจากด่านเก็บค่าผ่านทางไม่ไกล แต่เนื่องจาก ตนเป็นผู้หญิงขับรถคนเดียว ไม่มีเจตนาจะจอดเพื่อรับคนแปลกหน้า ให้ขึ้นรถไปด้วย


แต่มีเก๋งสีน้ำเงินคันด้านหน้า ที่อยู่เลนขวามือ เปิดสัญญานไฟเลี้ยวซ้าย แล้วเลี้ยวปาดหน้ารถของตน ตนคิดว่า รถคันนั้นจะจอด จึงชะลอ และเปิดสัญญานไฟฉุกเฉิน เผื่อมีรถตามมาข้างหลัง แต่รถสีน้ำเงินคันนั้นไม่จอด และขับไป


แต่ผู้ชายคนนั้น ยืนขวางอยู่เลนซ้าย ทำให้ตนขับรถต่อไปไม่ได้ แล้วผู้ชายคนนั้นก็เดินมาที่ประตูรถฝั่งผู้โดยสารด้านหน้า พยายามเปิดประตู แต่เปิดไม่ออก เพราะประตูล็อกอยู่ เขาพยายามดึงแรงขึ้น แล้วก็เอามือตีกระจกรถ พร้อมตะโกนว่า “ไปลงด้วยได้มั้ย! ผมขอลงหน่อย! ผมขอไปลงข้างหน้าหน่อยเด้!” แล้วผู้ชายคนนั้นก็เอาหมวกกันน็อกฟาดที่กระจกฝั่งผู้โดยสารด้านหลัง


จากนั้น เจ้าของรถ (ผู้โพสต์) ค่อย ๆ เคลื่อนรถไปข้างหน้าด้วยความกลัว เธอคิดแค่ว่าต้องเอาตัวเองออกจากบริเวณตรงนั้น พอพ้นจุดนั้น ก็รีบโทร 1543 (EXAT Call Center การทางพิเศษแห่งประเทศไทย) เล่าให้เจ้าหน้าที่ปลายสายฟังว่าเกิดอะไรขึ้น


และขอให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ ไปจัดการกับผู้ชายคนนั้น เพราะรู้สึกว่าเขาอันตรายมาก ทางเจ้าหน้าที่ปลายสายแนะนำว่า หากต้องการแจ้งความ ให้ไปที่ สน.ทางด่วน 1 ตรงคลองเตย


ผู้โพสต์ตั้งคำถามว่า ผู้ชายคนนั้นขึ้นมาบนทางด่วนได้ยังไง? ยืนอยู่ตรงนั้นมานานแค่ไหนแล้ว? แล้วจุดเกิดเหตุใกล้กับด่านเก็บค่าผ่านทางมาก ๆ เจ้าหน้าที่ตรงด่านเก็บค่าผ่านทาง ไม่มีใครสังเกตเห็นผู้ชายคนนั้นจริง ๆ เหรอ? ถ้าตนไม่โทรแจ้ง จะมีเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ มาจัดการมั้ย?


ต่อมา เวลาประมาณ 14.27 น.วันเดียวกันนั้น ตนโทรกลับไปที่ 1543 เพื่อถามว่าเป็นยังไงบ้าง เจ้าหน้าที่ปลายสายแจ้งว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงจุดเกิดเหตุ ผู้ชายคนนั้นก็ไม่อยู่แล้ว ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่า มีกระบะคันหนึ่งจอดให้ผู้ชายคนนั้นโดยสารไปด้วย

-------------

ทั้งนี้ ผู้โพสต์ ระบุว่า ตนเองไปแจ้งความที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้รับการดูแล และให้คำแนะนำที่ดีมาก ๆ จากสารวัตรที่รับเรื่อง และมีทีมจากพิสูจน์หลักฐานตำรวจ มาเก็บลายนิ้วมือของผู้ก่อเหตุแล้ว


สุดท้ายนี้ ตนอยากบอกผู้ชายคนนั้นว่า “ไม่รู้จักคุณ เราไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร คุณไปอยู่ตรงนั้นได้ยังไง คุณมีปัญหาชีวิตอะไร แต่พฤติกรรมที่คุณทำคือ การคุกคาม และทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น คุณไม่แม้แต่จะพูดจาดี ๆ ขอร้องดี ๆ ไม่ให้โอกาสคนบนรถได้ลดกระจกพูดคุยสอบถามที่มาที่ไป หรือให้โอกาสคน ๆ นั้นได้คิดตัดสินใจว่า จะรับคุณขึ้นรถรึเปล่า แต่คุณตีกระจกทุบรถเราเลย


ถึงคน ๆ นั้นจะไม่ให้คุณโดยสารไปด้วย มันก็คือสิทธิ์ของเขา คุณไม่มีสิทธิ์คุกคามและทำลายทรัพย์สินของใคร อยากฝากแชร์โพสต์นี้ ถ้าหากมีครอบครัว ญาติ หรือคนรู้จักของผู้ชายในคลิปนี้ รบกวนบอกเขาให้มาแสดงตัวที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อรับชอบต่อสิ่งที่ทำด้วย”


ผู้โพสต์ ยังระบุอีกว่า

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากเหตุการณ์นี้ คือ สน.ทางด่วน ไม่รับแจ้งความคดีอาญา เคสของตนถือว่า มีการทำลายทรัพย์สิน เป็นคดีอาญาต้องแจ้งความกับ สน.ในพื้นที่ที่เกิดเหตุนั้น ๆ 


หากเกิดเหตุแบบนี้ ไม่ว่าเราอยู่คนเดียว หรืออยู่หลายคน การล็อกรถคือสิ่งที่ดีและปลอดภัยที่สุด 


ถ้ามีเหตุการณ์ลักษณะนี้ เกิดขึ้นอีก ให้รีบหาจังหวะขับรถออกจากบริเวณนั้นเร็วที่สุด อย่าให้โอกาสคน ๆ นั้น มาถึงตัวรถเด็ดขาด


สติคือสิ่งสำคัญตอนนั้น ตกใจจนทำตัวไม่ถูกพูดไม่ออก เราต้องดึงสติไว้ แล้วพอออกมาบริเวณที่ปล่อยภัย ค่อยจอดรถ และเสียสติที่หลังได้


ก่อนออกเดินทาง ควรตรวจสอบสภาพการใช้งานของกล้องหน้ารถเสมอ เผื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดแบบครั้งนี้

-------------




รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/7qRnqxHrQL0






คุณอาจสนใจ

Related News