ข่าวโซเชียล

ไร้ป้ายเตือน! 3 พ่อแม่ลูก รถพลิกคว่ำตกบ่อก่อสร้าง โชคดีเจ็บไม่หนัก วอนผู้รับเหมาเยียวยาค่าซ่อมรถ 2 แสน

โดย thichaphat_d

25 พ.ย. 2565

130 views

3 พ่อแม่ลูก เกิดอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำลงบ่อที่กำลังก่อสร้างตรงโค้งร้อยศพ อ.วังสะพุง จ.เลย ไร้ป้าย ไร้ไฟสัญญาณเตือนก่อสร้าง แต่พอเกิดอุบัติเหตุป้ายมาเต็ม โชคดีบาดเจ็บไม่มาก ขณะที่รถเสียหายทั้งคัน ช่างตีราคาซ่อม 2 แสนบาท วอนผู้รับเหมาเยียวยาค่าซ่อม เพราะต้องใช้รถทำมาหากิน


ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Sirichai Tanpun” โพสต์เรื่องราวครอบครัวของตัวเองเกิดอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำลงบ่อข้างทาง ที่กำลังมีการก่อสร้าง ที่บริเวณโค้งร้อยศพ บ้านถ้ำมูล อ.วังสะพุง จ.เลย ระหว่างที่เดินทางไป จ.พิษณุโลก โดยบริเวณก่อสร้างไม่มีการติดป้าย หรือสัญญาณไฟเตือนอย่างชัดเจน


เจ้าของโพสต์ระบุว่า “ผมเกิดอุบัติเหตุระหว่างเดินทางไปพิดโลก คนปลอดภัยทั้ง 3 พ่อเเม่ลูกคับ เขาทำทางไม่มีสัญญานไปเตือนเลยคับถ้าขับไวไม่รอดแน่ หมดกันรถ???????? ทำทางไม่มีป้ายสัญญาณไฟอะไรชัดเจนเลย มักง่ายมากคุณต้องรับผิดชอบผมจะไม่ยอมถ้าเกิดลูกเมียผมเกิดเสียชีวิตจะทำยังงัย ใครมีความรู้เรื่องนี้เเนะนำหน่อยคับ”


นี่คือคลิปเหตุการณ์หลังเกิดเหตุประมาณ 1 ชม. นายศิริชัย แทนปั้น หรือคุณเดี่ยว อายุ 42 ปี ประกอบอาชีพนักดนตรี ได้โพสต์คลิปให้เห็นถึงสภาพรถที่พลิกคว่ำลงบ่อ ข้างทางที่มีการก่อสร้างอยู่ พร้อมบรรยายว่า รถของตนเกิดอุบัติเหตุ เดินทางมากับลูกและภรรยา ซึ่งจุดที่เกิดอุบัติเหตุไม่มีอะไรกั้นเลย


ทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณเดี่ยว เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันที่ 23 พ.ย. 65 เวลาประมาณ 05.00 น. ตน ภรรยา อายุ 37 ปี และลูกชายอายุ 12 ปี กำลังขับรถจาก จ.หนองคาย เพื่อไปรับพ่อและแม่ที่ จ.พิษณุโลก โดยใช้เส้นทาง จ.เลย ที่เป็นทางลัด ดูจากระบบ GPS เบื้องต้นยอมรับว่าไม่เคยไปเส้นทางนี้ และไม่ชินทาง แต่ยืนยันว่าวันเกิดเหตุตนไม่ได้ดื่มเหล้า เพราะเป็นคนไม่ดื่มอยู่แล้ว ส่วนความเร็วก่อนเกิดเหตุขับมาอยู่ที่ประมาณ 70-80 กม./ชม.


คุณเดี่ยว ยังเล่าว่า ระหว่างทาง ซึ่งเป็นถนน 2 เลน มีการทำทางเป็นระยะๆ บางจุดมีป้ายบอกชัดเจน แต่พอมาถึงทางที่ชาวบ้านเรียกกันว่าเป็นโค้งร้อยศพ เป็นทางโค้งขวา และลงจากเขาพอดี อีกทั้งเส้นจราจรก็มองไม่เห็น เพราะดินก่อสร้างปิดหมด ส่งผลให้ตนขับออกนอกเส้นทาง พุ่งลงบ่อข้างทาง รถพลิกคว่ำทันที ฃ


ตอนเกิดเหตุภรรยาพยายามตะโกนบอกว่า “พี่เดี่ยว ข้างหน้ามันเป็นหลุมพี่” แต่ก็ไม่ทัน รถล่วงลงไปแล้ว ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เมื่อตั้งสติได้ ตน ภรรยา และลูก ก็พยายามปีนขึ้นมาจากบ่อที่มีความลึกประมาณ 4-5 เมตร เพื่อขอความช่วยเหลือจนมีชาวบ้านที่ผ่านไปมาแถวนั้น เห็นเข้าจึงเรียกรถกู้ภัยพาส่งโรงพยาบาลภูเรือ จ.เลย ขณะเดียวกันนั้นเมื่อตนขึ้นมาได้ ยังมีรถบางคันที่ขับมาแล้วเกือบเกิดอุบัติซ้ำแบบเดียวกันอีกด้วย


คุณเดี่ยว กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าจุดเกิดเหตุกำลังก่อสร้างอะไร แต่มีหลุม มีบ่อ มีท่อใหญ่ๆ ขุดลงไปใต้ถนน จริงๆแล้วแบริเออร์มีกั้น แต่ไม่ได้กั้นตรงทางโค้งที่ตกลงไป รวมทั้งป้ายแสงไฟเตือน ป้ายบอกว่ากำลังก่อสร้างก็ไม่มี


ส่วนอาอาการบาดเจ็บ คุณเดี่ยว บอกว่า ตนบาดเจ็บมีรอยช้ำตรงหน้า ตรงแก้ม ตรงคิ้ว รวมทั้งช้ำในและปวดระบมไปทั้งตัว โดยเฉพาะบริเวณหน้าอก / ส่วนภรรยากระดูกหัวไหล่ขวาร้าว เจ็บตรงซี่โครงขวา / ส่วนลูกชาย ฟกช้ำตรงบริเวณฟน้าผากกับหัวไหล่ ที่เกิดจากแรงกระแทก จากนั้นหมอได้ตรวจร่างกาย เอ็กซเรย์ตามจุดต่างๆ แล้ว โดยฉพาะบริเวณท้อง ดูแล้วไม่มีเลือดคลั่ง หมอจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ จึงได้โทรให้เพื่อมารับกลับ จ.หนองคาย โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรมาก


คุณเดี่ยว เล่าต่อว่า หลังจากที่เพื่อนมารับ ระหว่างทางกลับ จ.หนองคาย ได้แวะดูจุดเกิดเหตุกลับพบว่าเชือกกั้น แบริเออร์ ป้ายเตือน สัญญาณไฟเตือนต่างๆ มาเต็ม ยืนยันว่าเพิ่งมามีช่วง 12.00 น. หลังจากเกิดเหตุไปตอนเช้ามืด 05.00 น. ขณะเดียวกัน ตำรวจ สภ.ยังบอกกับตนด้วยว่า ถ้ามีป้ายจริง เราคงชนป้ายกระเด็นไปตั้งแต่เกิดเหตุแล้ว


คุณเดี่ยว เล่าต่อว่า หลังจากเกิดเหตุกรมทางหลวงมาตรวจสอบ เนื่องจากการก่อร้างเป็นความรับผิดชอบของกรมทางหลวง และได้มาขอโทษเบื้องต้น แต่ทางกรมทางหลวงบอกว่าจะไปคุยกับผู้รับเหมาว่าให้มารับผิดชอบและเยียวยาสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งทางตำรวจ สภ.วังสะพุง นัดหมายให้คุยกันวันที่ 3 ธ.ค.65


 เมื่อถามว่าฝั่งคุณเดี่ยวต้องการเรียกร้องอะไรบ้างนั้น คุณเดี่ยว บอกว่า อยากให้ทางคนที่เกี่ยวข้องซ่อมรถให้ เนื่องจากว่าสภาพรถนั้นเสียหายทั้งคัน อีกทั้งรถก็ยังส่งไม่หมด รวมทั้งรถไม่มีประกันอีกด้วย ขณะที่ช่างประเมินราคาซ่อมอยู่ที่ 200,000 บาท แต่หากขายซากรถอยู่ที่ 15,000 บาท ตนจึงอยากให้คนที่เกี่ยวข้องซ่อมรถให้ เพราะรถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยตนทำมาหากิน ส่วนค่าเยียวยาอื่น ๆ ถ้าได้ก็ดีแต่หลักๆโฟกัสไปที่เรื่องของการซ่อมรถ


ส่วนสภาพจิตใจตอนนี้ คุณเดี่ยวบอกว่า สงสารลูกกับภรรยามาก และก็เสียดายรถ รู้สึกเครียด เพราะเกิดอุบิตเหตุก็ต้องหยุดงาน ไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งตนก็มีภาระที่ต้องเลี้ยงทั้งครอบครัวของตัวเอง พ่อแม่ฝั่งตนแลฝั่งภรรยา


คุณเดี่ยว ยังฝากถึงผู้รับเหมาก่อสร้าง หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องด้วยว่า หากมีการก่อสร้างให้นึกถึงคนื่นให้มากๆ ให้มีป้าย มีสัญญาณเตือนให้ชัดเจน เพราะอุบัติเหตุแบบนี้อันตรายมาก เมื่อเกิดขึ้นแล้วเอาคืนกลับมาไม่ได้ และอย่าวัวหายแล้วค่อยล้อมคอก


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/81G9Pqcb2Ik

คุณอาจสนใจ