พระยกมือถือ ถ่ายรูปรอบวัดคืนวันออกพรรษา ติดเงาสูงใหญ่ เจ้าอาวาสเชื่อมีจริง

พระสงฆ์วัดนาแก ถ่ายภาพลงบนมือถือ เจอเปรตสูงใหญ่ โผล่ในมือถือ เจ้าอาวาส เชื่อเป็นเรื่องจริง เพราะปี 43 เคยเห็นมากับตาตนเอง



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรื่องราวขนหัวลุก ของเปรตโผล่บนมือถือ พระลูกวัดนาแก ที่ชื่อ พระวสันต์ พุทธธัมโม อายุ 49 ปี พรรษา 17 พระลูกวัดนาแก ม.3 ต.ห้วยอ้อ อ.ลอง ถ่ายภาพกลางคืนเวลา 21.50 น.คืนวันออกพรรษา 17 ต.ค 67 ซึ่งเป็นวันก่อนตักบาตนเทโวดอยโป่งหมื่น ของวัดสะแล่ง ที่อยู๋ใกล้กันกับวัดนาแก

โดยพระวสันต์ ได้เล่าว่า หลังจากกลับจากงานสวดศพในหมู๋บ้าน นั่งเก้าอี้หินอ่อนข้างกุฏิ โดยถ่ายภาพเพื่อดูพระจันทร์วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ โดยใช้กล้องโทรศัพท์มือถือถ่ายกราดไปรอบวัดแต่มีเงาดำเกิดขึ้นบริเวณทิศตะวันออกทุ่งนาติดกับวัดเลยกดบันทึกภาพนิ่ง แต่เมื่อมาดูภาพทำให้ขนลุกจึงได้นำภาพมาให้เจ้าอาวาสวัดนาแกดู

ซึ่งพระครูประสิทธิวรการ เจ้าอาวาสวัดนาแก เห็นแล้วก็บอกว่า คงเป็นเปรตตนเดียวกัน ที่เคยได้ยินเสียงเมื่อปี 43 ขณะขึ้นไปตีกลองบูชา วันพระขึ้น 15 ค่ำกลางพรรษาของเดือนกันยายน ในขณะนั้น เป็นช่วงที่ ทุ่งนาข้างวัดต้นข้าวเริ่มแตกรวง มีเสียงกรีดร้องโหยหวนเยือกเย็นจนขนลุก ก็คิดว่าเป็นเสียงผีเปรตมาขอส่วนบุญ จนต้องสวดมนต์อุทิศส่วนกุศลให้กับเปรตตนนี้ไปครั้งหนึ่ง

โดยก่อนที่จะมาเป็นเจ้าอาวาสวัดนาแกนั้น ยังมีเรื่องเล่าของชาวบ้านที่ ครั้งหนึ่งหมู่บ้านนาแกมีเรื่องประหลาด เมื่อเด็กวัดในยุคร้อยกว่าปี ใช้หน้าไม้ยิงตัวบ่างอูรัว ที่บินมาทางทิศใต้เล่ากันว่าเป็นตัวบ่างฯที่อาศัยอยู่ป่าในวัดแหลมลี่ วัดศักดิ์สิทธิ์ของอำเภอลอง ซึ่งกำลังมีงานประเพณีนมัสการพระธุาตแหลมลี่ แต่เจ้าอาวาสวัดนาแก สมัยนั้นได้เกิดอาพาธ ไม่ได้ไปร่วมทำกิจสงฆ์ในงานประเพณีปีนั้น ตัวบ่าง ฯ เป็นประจำพระธาตุแหลมลี่ คงจะบินมาดูว่าทำไมครูบา วัดนาแก จึงไม่มาร่วมร่วมพิธีสงฆ์ แต่เด็กวัดนาแกได้ใช้หน้าไม้ยิงบ่างตาย และนำเนื้อมาทำอาหารกินร่วมกันกับชาวบ้านและสามเณร โดยที่เจ้าอาวาสวัดไม่ทราบ จนเกิดอาเพศคนที่กินและครอบครัวล้มตายกันแทบครึ่งหมู่บ้าน จนมีการอพยพออกพื้นที่เพราะกลัวตาย

ต่อมาทางชาวบ้านไปหาร่างทรง 7 ตนมาทำพิธีขอขมา เพื่อเกิดความสงบสุขในหมู่บ้านนาแก จึงทำให้ ตั้งแต่บัดนั้น ทุกวัน ก่อน ขึ้น7 ค่ำ แรม 7ค่่า ขึ้น 14 ค่ำ แรม 14 ค่ำ ตลอดทั้งปี พระสงฆ์วัดนาแก ต้องทำพิธีให้ศีล (ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เปรต ผีเร่ร่อน ได้รับของศีลของทาน ) บริเวณข้างกำแพงวัดใกล้ทุ่งนาที่ตั้งศาลผีหม่อม (ผียักษ์) จนถึงปัจจุบันไม่มีขาด ความเชื่อของชาวบ้านศรัทธายังมีอยู่

ส่วนเรื่องการถ่ายภาพมือถือติดเงาดูครั้งนี้ คงเป็นเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดเพื่อของส่วนบุญ และเปรตตนนี้ ยังไม่ไปผุดไปเกิด ซึ่งพระวสันต์ยืนยันว่า ถ่ายภาพติดเองโดยไม่มีเจตนาอย่างอื่นแอบแฝง แต่ชอบบันทึกภาพสถานที่ภายในวัดเป็นประจำ