เมียหลวงสุดช้ำ ผัวเรียกมาช่วยกิ๊กท้อง 7 เดือน หลังควงกันเข้าโรงแรม ก่อนช็อกดับ

สิงห์บุรี เมียหลวงสุดช้ำ ผัวเรียกมาช่วยหญิงคนสนิทท้อง 7 เดือน หลังควงมาโรงแรมแล้วช็อกเสียชีวิต เจ้าตัวบอกเคยเตือนให้สามีเลิกคบกันแล้ว ด้านแม่ลมแทบจับ เพิ่งรู้ลูกสาวท้อง 7 เดือน – เสพยา และยังมีคดียาอยู่ในชั้นศาล  

เมื่อเวลา 06.00 น. วานนี้ (23 พ.ค) เกิดเหตุการณ์มีหญิงสาวในสภาพท้อง 7 เดือน นั่งอยู่กลางถนน ไม่สวมใส่เสื้อผ้า มีอาการช็อค น้ำลายฟูมปาก โดยมีเจ้าหน้าที่ปอเต็กตึ้งสิงห์บุรี กำลังทำการช่วยเหลือเบื้องต้น ใกล้เคียงมีชายวัยกลางคนคือนายเอก (นามสมมุติ) เดินกระวนกระวายมีท่าทางตกใจ อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ จากนั้นรถโรงพยาบาลสิงห์บุรีฉุกเฉินมาถึง ได้เข้าทำการช่วยเหลือปั๊มหัวใจมาจนถึงโรงพยาบาล

สอบถามนางปราณี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี เป็นแม่ของหญิงคนดังกล่าว ทราบว่า ตนมีบุตรสาวคนเดียว คือนางกนกวรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ซึ่งมีลูกวัย 5 ขวบ อาศัยอยู่ที่ หมู่ 1 ตำบลวิหารขาว อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งตนช่วยเลี้ยงหลานวัย 5 ขวบอยู่ และเมื่อช่วงเช้าตนไปหาหมอที่อนามัยวิหารขาว ปรากฏว่าหมอบอกให้ตนรีบมาที่โรงพยาบาลสิงห์บุรีเพราะว่าลูกสาวไม่สบาย เมื่อมาถึงก็พบว่า เจ้าหน้าที่กำลังทำการช่วยเหลือ แต่หมอได้เรียกไปพบ และแจ้งว่าเด็กในท้องของลูกสาวไม่มีชีพจรแล้ว ขณะนี้กำลังช่วยเหลือผู้เป็นแม่อยู่ ตนเสียใจมากและพึ่งทราบว่าลูกสาวนั้นท้องได้ 7 เดือน เพราะที่ผ่านมาลูกสาวมักปกปิดใส่เสื้อผ้าตัวใหญ่ๆ และไม่เคยบอกหรือเล่าอะไรให้ฟัง ซึ่งเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาผู้ตายได้ไปขึ้นศาลในคดียาเสพติด แล้วต้องไปรายงานตัวกับศาลอยู่บ่อยๆ ส่วนลูกชายวัย 5 ขวบก็เรียกหาแม่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

ด้านนายเอก (นามสมมุติ) หลังจากส่งตัวผู้ตายที่โรงพยาบาลก็หายตัวไป แต่นายเอกได้โทรไปตามภรรยาของตนเอง ชื่อนางสาวฝน (นามสมมุติ) ภรรยาของนายเอกเล่าว่า เมื่อช่วงเช้านายเอกได้โทรหาให้มาช่วยดูที่โรงพยาบาลหน่อย เมื่อตนมาถึงก็ตกใจปรากฏว่านายเอกแอบเข้าโรงแรมกับนางสาวกนกวรรณ ซึ่งเป็นกิ๊ก แล้วกิ๊กเกิดอาการช็อค ตนเองก็ตกใจและเสียใจมาก ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเตือน ทั้งคู่แล้ว ว่าให้เลิกคบกัน แต่วันนี้กลับนัดพบกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งอีก จนมีเหตุการณ์ดังกล่าว ล่าสุดอาการของนางสาวกนกวรรณ ยังคงอยู่ความดูแลของแพทย์ ทีมแพทย์เฝ้าดูอาการของนางสาวกนกวรรณ และยังไม่สามารถผ่าเอาร่างของเด็กในท้องออกมาได้ เพราะมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากอาการของนางสาวกนกวรรณค่อนข้างสาหัส ต้องเฝ้าดูอาการชั่วโมงต่อชั่วโมง

ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น. แพทย์ได้แจ้งกับญาติว่า นางสาวกนกวรรณได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตแพทย์จะได้ดำเนินการชันสูตรหาสาเหตุ ก่อนจะมอบร่างให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

https://youtu.be/h29ko76Su-4