เครื่องด่าทำงานไม่หยุด! ป้า 64 ปี ปรี๊ดแตก แร็ปด่าฉ่ำโจรขโมยถังแก๊ส สำนึกผิดแทบไม่ทัน อ้างหาเงินดูแลแม่ป่วย

จากกรณีที่มีคนร้าย ขี่รถจักรยานยนต์ เข้า ไปขโมยถังก๊าซหุงต้ม ของนางสไบทิพย์ อายุ 64 ปี ในพื้นที่หมู่ 1 ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ต่อหน้าคุณป้า โดยคุณป้า ผู้เสียหาย ได้วิ่งตาม พร้อมตะโกนด่าสารพัดด้วยความโมโห

พ.ต.อ.มนัส อัดโดดดร ผกก.สภ.อุทัย เผยว่า จากกรณีที่มีคนร้าย เข้าไปขโมยถังก๊าซหุงต้มของคุณป้าสไบทิพย์ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา และหลังจากนั้นทางผู้เสียหาย ได้มาแจ้งความไว้ที่ สภ. อุทัย

จึงได้สั่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตาม จนกระทั่งวันที่ 12 พ.ค. 68 เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ทราบตัวผู้ก่อเหตุคือ นายประดิษฐ์ อายุ 36 ปี จึงเข้าทำการตรวจค้นบ้านพักในพื้นที่ ต.สามบัณฑิต อ. อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ไม่พบตัว จึงประสานไปยังกำนันตำบลสามบัณฑิต เพื่อจะนำตัวผู้ต้องหามาส่งพนักงานสอบสวน

ต่อมา ผู้ก่อเหตุติดต่อผ่านกำนันมาขอมอบตัว โดยให้กำนันพาตัวมายังห้องสืบสวน สภ.อุทัย จากนั้นจึงส่งตัวไปยังพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป และได้ประสานทางคุณป้าสไบทิพย์ ซึ่งเป็นผู้เสียหายให้มาดูตัวผู้ต้องหา

โดยทางผู้เสียหาย เมื่อเห็นหน้าคนร้ายก็ได้เข้าไปต่อว่า ซึ่งโดยผู้ต้องหาได้ร้องไห้ กราบขอโทษคุณป้าและบอกกับคุณป้าว่า ตนเองมีแม่ป่วยติดเตียงที่ต้องดูแลและบ้านฐานะยากจน ซึ่งได้ขโมยถังก๊าซหุงต้มไปขายในราคา 1,000 บาท แต่ถ้าป้าดำเนินคดี จะไม่มีใครดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียง ทางป้าผู้เสียหาย จึงได้สั่งสอนและไม่ติดใจเอาความ เนื่องจากเกิดความสงสาร ทางผู้ต้องหาจึงกราบไหว้ขอขมาคุณป้าต่อหน้าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเบื้องต้น ทางเจ้าทุกข์ สงสาร ไม่ติดใจดำเนินคดี แต่คดีนี้ เป็นคดีที่ยอมความไม่ได้ คงต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ตลาดแกรนด์ ตำบลธนูอำเภออุทัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปพบกับนางสไบทิพย์อายุ 64 ปี  กำลังยืนขายขนมโบราณอยู่ ให้กับลูกค้า ผู้สื่อข่าว จึงได้สอบถามถึงเรื่องราวที่ตำรวจตามจับคนร้ายได้แล้วโดยคุณป้า ผู้เสียหาย บอกว่า หลังจากที่คนร้ายมาก่อเหตุขโมยถังแก๊สจากนั้นต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อุทัย ได้โทรศัพท์ติดต่อมาหาป้า ว่าได้จับกุมตัวผู้ต้องหาขโมยถังแก๊สได้แล้วให้มาชี้ตัวที่โรงพักป้าก็นั่งรถวินจักรยานยนต์รับจ้างไปที่โรงพักก็ไปเจอกับผู้ต้องหา

ด้านป้าสไบทิพย์ กล่าวว่า ตอนนั้นโกรธมาก อยากจะเอามือจิกผมแล้วเอานิ้ว 2 ข้างทิ่มตาให้บอด จะได้มองไม่เห็น และได้ด่าสั่งสอนผู้ต้องหาไปหลายคำ แต่ก็เบาลงหน่อย เพราะตำรวจบอกไว้ว่าอย่าไปทำอะไรเขา ก็รู้สึกเจ็บใจ แต่นึกไปก็กลัวติดคุก เลยยกโทษ อโหสิกรรมให้ ถ้าทำอะไรมันไป วันนี้คงไม่ได้มายืนขายของ

ซึ่งผู้ต้องหาได้ก้มกราบขอโทษบอกว่ามีแม่ที่ป่วยติดเตียงต้องดูแล ถ้าโดนจับจะไม่มีใครมาดูแลแม่ ตอนนั้น ถามว่าโกรธไหมก็โกรธ แต่มานึกอีกทีก็อดสงสารไม่ได้ เลยคิดว่าทำบุญทำกุศลไป ไม่ติดใจดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ส่วนทางตำรวจจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ทางพนักงานสอบสวน และฝากขอบคุณ ท่านผู้กำกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าของร้านทองและนักข่าว ที่ช่วยเหลือป้ามาโดยตลอดจ นสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้

https://youtu.be/NMyg_-59wTA