ไกด์เล่านาทีชีวิต เรือนำเที่ยวล่มกลางเขื่อนเชี่ยวหลาน หลังฝนถล่ม ล่าสุดยังไม่พบชายฝรั่งเศส

เมื่อเวลา 12.10 น. วานนี้ (23 พ.ย.) ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบ้านตาขุน ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเรือนำเที่ยวล่ม ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา บริเวณเขาสามเกลอ หมู่ 3 ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน

จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 คณะแบ่งลงเรือหางยาว 2 ลำ จากท่าเรือเทศบาลตำบลเชี่ยวหลาน จะไปส่งยังแพที่พักแรมในอ่างเก็บน้ำ ลำแรก มีทั้งหมด 4 คน เป็นชาวต่างชาติ 2 คน ไกด์นำเที่ยว 1 คน คนขับเรือ 1 คน และลำที่ 2 มีทั้งหมด 13 คน เป็นนักท่องเที่ยวชายหญิงชาวต่างชาติ จำนวน 10 คน เป็นผู้ชาย 4 คน ผู้หญิง 6 คนไกด์นำเที่ยว 1 คน และคนขับเรือ 1 คน ชื่อนายสมชาติ เรืองเมือง

โดยระหว่างทางได้พาชมแหล่งท่องเที่ยวเขาสามเกลอ หรือกุ้ยหลินเมืองไทย ต่อมาได้ ได้เกิดคลื่นลมแรงฝนฟ้าคะนองทำให้เรือเกิดเอียงและล่ม เจ้าหน้าที่อุทยานเข้าช่วยเหลือขึ้นมาได้แล้ว 11 คน สูญหาย 1 คนทราบชื่อ Mr.Rene Mary Corre ผู้สูงอายุ สัญชาติฝรั่งเศส

ต่อมาเรือเจ้าหน้าที่และกู้ภัยเชี่ยวหลาน ไปถึงนำนักท่องเที่ยว 2 คนที่มีอาการแน่นหน้าอกส่งโรงพยาบาลบ้านตาขุน ส่วน Mr.Jean Henri Vaille มีอาการน้ำเข้าปอดจากการสำลักน้ำ นำส่งต่อโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี

ส่วน Mr.Rene Mary Corre ที่สูญหายยังมีความสับสนได้มีผู้ช่วยเหลือนำขึ้นเรืออีกลำหรือไม่ ซึ่งตำรวจกำลังเร่งสอบสวนและตรวจสอบข้อมูล พร้อมนำนายสมชาติ คนขับเรือไปสอบปากคำและนำนักท่องเที่ยวทั้งหมดกลับขึ้นฝั่งที่ท่าเรือเทศบาลตำบลเชี่ยวหลาน เพื่อความปลอดภัย

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางสาวเพชรลักษณ์ รุจิรวรรธน์ โดยเป็นไกด์นำเที่ยวของบริษัทแห่งหนึ่ง บอกว่า ชาวฝรั่งเศสกรุ๊ปนี้เป็นลูกค้าของบริษัทตน มีทั้งหมด 10 คนมาเที่ยวที่ไทยได้ประมาณ 10 วันแล้ว ก่อนหน้านี้ตนเองพาไปเที่ยวที่ภาคเหนือและเพิ่งมาเที่ยวที่ภาคใต้ได้ประมาณ 2 วัน ช่วงเช้าวานนี้ (23 พ.ย.) ตนได้พามาที่เขื่อนเชี่ยวหลาน โดยจะพานักท่องเที่ยวไปนอนพักที่เรือนแพกลางเขื่อน จากนั้นมีแพลนไว้ว่าช่วงเช้าวันนี้ (24 พ.ย.) จะออกเดินทางจากเขื่อนรัชชประภาและไปเที่ยวต่อที่จังหวัดภูเก็ต

นางสาวเพชรลักษณ์ เล่าอีกว่า ขณะที่ช่วงเช้าตอนที่ตนเองมาถึงท่าเรือของเขื่อนเชี่ยวหลาน ปรากฏว่าท้องฟ้าแจ่มใสและสวยมาก ไม่มีเค้าลางว่าฝนจะตก จากนั้นลงเรือยาวตามปกติ ทั้งเรือมีอยู่ทั้งหมด 13 คน โดยเป็นชาวฝรั่งเศส 10 คน ที่เป็นนักท่องเที่ยวของตน มีไกด์ 2 คนรวมตนหนึ่งในนั้น และคนขับเรืออีกหนึ่งคน ยืนยันว่าบนเรือใส่เสื้อชูชีพทุกคน รวมผู้สูญหายที่เป็นชายชาวฝรั่งเศสอายุ 83 ปี ก็ใส่เสื้อชูชีพด้วยเช่นเดียวกัน

นางสาวเพชรลักษณ์ ยังได้ส่งภาพของชายชาวฝรั่งเศสอายุ 83 ปี ที่สูญหาย ซึ่งถ่ายบนเรือยาว ซึ่งบริเวณดังกล่าวอยู่กลางเขื่อนให้ผู้สื่อข่าวดู ซึ่งจะอยู่ห่างจากท่าเรือใช้เวลาเดินทางไปถึงจุดดังกล่าวประมาณ 50 นาที เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวชอบถ่ายรูปกัน ก่อนที่จะเดินทางต่อไปไปยังจุดที่เรียกว่า กุ้ยหลินเมืองไทย โดยนางสาวเพชรลักษณ์ เล่าว่ารูปถ่ายนี้ถูกถ่ายโดยมือถือของตนช่วงเวลา 11:37 น. ของวานนี้ (23 พ.ย.) ตนเป็นคนถ่ายรูปให้กับนักท่องเที่ยวเกือบทุกคน ช่วงที่ถ่ายรูปท้องฟ้ายังแจ่มใส ท้องเปิดอากาศปกติ

แต่ปรากฏว่าหลังนักท่องเที่ยวถ่ายรูปเสร็จกันแล้วเกือบทุกคน แล้วเรือกำลังล่องเรือต่อเพื่อที่จะไปจุดที่พักกลางเขื่อน ระหว่างที่เรือออกจากจุดที่ถ่ายรูปแล้วเลี้ยว ปรากฏว่า เมฆดำมาจากไหนไม่รู้ก่อตัวขึ้น แล้วฝนได้ตกลงมาอย่างหนักและกะทันหัน จนมองไม่เห็นทาง หลังจากหลังจากนั้น 7 นาที เรือล่ม ในช่วงเวลา 11:45 น. ต่อมาไม่กี่นาทีฝนตกหนักและลมแรงมาก ไม่สามารถต้านฝนตกและลมแรงได้ เรือค่อยๆ เอียงและพลิกคว่ำก่อนจมลงไปใต้ท้องเขื่อน ช่วงที่เรือจมไปใต้ท้องทะเลเสร็จแล้ว ทุกคนบนเรือที่ใส่เสื้อชูชีพทั้งหมด 13 คนลอยอยู่กลางทะเล ยืนยันว่าตอนนั้นยังอยู่ครบแต่ก็มีบางคนถูกกระแสน้ำพัดไปก็คือชายชาวฝรั่งเศสที่อายุ 83 ปี ซึ่งตอนนี้ยังสูญหายอยู่

ขณะเกิดเหตุตนบอกนักท่องเที่ยวทุกคนให้ตั้งสติและเกาะกันไว้เป็นกลุ่ม จะได้ไม่พัดลอยไป และเคราะห์ดีตรงที่จุดที่ประสบอุบัติเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แม้จะอยู่กลางทะเลแต่ด้วยความที่มีเรือแล่นไปแล่นมาอยู่กลางทะเลค่อนข้างเยอะ เลยมีเรือที่เห็นผู้ประสบภัยเร่งทยอยเข้ามาช่วย แต่มีบางเรือที่บรรจุนักท่องเที่ยวจำนวนมากเกรงว่าเรือจะล่มเหมือนกันก็เลยไม่ได้เข้ามาช่วยพวกตน

เบื้องต้นผู้ประภัย 12 คน แบ่งเป็นคนที่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยแต่ยังเดินได้คือคนขับเรือ 1 คน ไกด์นำเที่ยว 2 คน นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส 5 คน และมีคนที่มีอาการบาดเจ็บซึ่งเกิดจากตอนที่เรือล่มศีรษะและร่างกายบางส่วนไปกระแทกกับเรือที่พลิกคว่ำได้รับบาดเจ็บ เป็นนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส 4 คน และมีหนึ่งคนเป็นชายชาวฝรั่งเศสอายุ 83 ปีที่สูญหายในตอนนี้

ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพื่อนชาวฝรั่งเศสของผู้สูญหายได้นำโทรศัพท์มือถือมาเปิดให้เจ้าหน้าที่ดู ว่าสามารถจับพิกัด GPS โทรศัพท์ของผู้สูญหายได้ใกล้กับจุดที่เกิดเหตุเรือล่ม ทางอุทยานแห่งชาติเขาสกจึงได้จัดเรือนำหญิงรายดังกล่าวออกไปตามที่ตำแหน่ง GPS ระบุ ซึ่งคาดว่ากระเป๋าของผู้สูญหายยังคงลอยน้ำอยู่ จึงสามารถจับสัญญาณ GPS ได้

ในส่วนของการค้นหานั้น ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ยุติการค้นหา เนื่องด้วยในพื้นที่มีมรสุมเข้าทำให้มีคลื่นลมแรง บวกกับสภาพอากาศที่ค่อนข้างที่จะมืดแล้ว และยังไม่ทราบจุดที่ชัดเจนของผู้สูญหาย โดยจะเริ่มปฏิบัติการค้นอีกครั้งในวันนี้ (24 พ.ย.)

รับชมทางยูทูบที่ :  https://youtu.be/VNJ4awkOL4c