ผู้เสียหายโผล่เพียบ! ถูก ‘ฟิล์ม รัฐภูมิ’ ชักชวนให้ลงทุนธุรกิจพลังงาน-เหรียญคริปโต เสียหายกว่า 100 ล้าน

ผู้เสียหายโผล่เพียบ! ถูก 'ฟิล์ม รัฐภูมิ ชักชวนให้ลงทุนเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

กรณี “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” ตกเป็นประเด็นข่าวฉาวรีดทรัพย์ มีการพาดพิงอ้างถึงชื่อ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” และรายการโหนกระแส เรียกเงิน 20 ล้าน จนทำให้หนุ่มเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดี เพราะรับไม่ได้กับพฤติกรรมดังกล่าว ขณะที่เพจต่างๆ แฉพฤติกรรมฟิล์มยับในหลายๆ ประเด็น     

ซึ่งล่าสุดพบผู้เสียหายโผล่เพียบถูกฟิล์ม รัฐภูมิ ขึ้นเวทีพูดชักชวนให้ลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานและและลงทุนในเหรียญคริปโตเสียหายกว่า 100 ล้านบาท คดีอยู่ที่ DSI มีการออกหมายจับเจ้าของบริษัทแล้วอย่างน้อย 1 รายแต่อยู่ระหว่างหลบหนีส่วนฟิล์มรัฐภูมิอ้างว่าเป็นพรีเซ็นเตอร์

เมื่อวานนี้ (15 พ.ย.) ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ได้รับการเปิดเผยจาก คุณอุบล หนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกฟิล์ม รัฐภูมิ ชักชวนให้ลงทุนโดยคุณอุบลเล่าว่าเมื่อปี 2565 เพื่อนของตนชวนให้ไปฟังสัมมนาเกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจพลังงานน้ำมันชื่อโครงการเฟรนไชน์ธุรกิจน้ำมันเพื่อการเกษตร

ซึ่งในงานสัมมนาแต่ละครั้ง ตนจะเห็นนายฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ขึ้นเวทีพูดชักชวนในฐานะที่ฟิล์มบอกว่า ตัวเขาเองก็ลงทุนในธุรกิจนี้มั่นใจและเชื่อว่าสามารถทำกำไรให้กับผู้ลงทุนได้ ทำให้ตนหลงเชื่อและตัดสินใจลงทุนด้วย 1,000,000 บาท แต่ทางบริษัทมีโปรโมชั่นให้จึงลดราคาเหลือ 800,000 บาท โดยจะได้เงินปันผลเดือนละ 50,000 บาทเป็นระยะเวลา 5 ปี (ครบสัญญา 5 ปีจะได้เงิน 3 ล้านบาท)

โดยในช่วง 5-6 เดือนแรกก็มีการจ่ายเงินปันผลให้ตามปกติ หลังจากนั้นตนก็มีการชักชวนเพื่อนและลูกชายให้มาร่วมลงทุนด้วยอีกกว่า 500,000 บาท และผุดโครงการขึ้นมาใหม่ พยายามชักชวนให้ลงทุนเพิ่มอีกในโครงการรถขนขยะพลังงานไฟฟ้า ตนเริ่มรู้สึกเอะใจเพราะเงินที่ได้ปันผลมาก็ทยอยลงทุนเพิ่มลงทุนเพิ่มจนแทบไม่มีเงินเหลือติดตัว

ซึ่งลูกชายได้ทักท้วง เตือนแล้วว่า ให้หยุดลงทุน มันเริ่มแปลกๆ แต่ด้วยความที่ตนไม่เชื่อลูกชายเตือน จึงนำเงินก้อนสุดท้าย 120,000 บาทลงทุนไปเพิ่มอีก สุดท้ายเกิดปัญหาจริง ประมาณงวดเดือนที่ 8 ไม่มีการจ่ายเงินปันผลให้เหมือนเดิม ตนจึงทวงถามไปที่บริษัทก็ได้คำตอบว่า เจ้าของบริษัทหนีไปแล้ว ตนตกใจมากและมานึกถึงคำที่ลูกชายพูด

หลังจากตนทราบแล้วว่า กำลังโดนหลอกให้ลงทุนจึงเดินทางแจ้งความเพื่อดำเนินคดี ซึ่งมีการออกหมายจับนายสมโชค เจ้าของบริษัทรายนี้ด้วยแต่อยู่ระหว่างหลบหนี ส่วนฟิล์ม รัฐภูมิ หลังจากเกิดเรื่องตนก็ไม่เคยได้เจอหรือได้พูดคุยอีกเลย จึงอยากฝากไปถึงฟิล์มว่า เหตุผลหนึ่งที่ตนร่วมลงทุนด้วยก็เพราะเห็นว่าฟิล์มเป็นคนมีชื่อเสียง มีความน่าเชื่อถือและขึ้นเวทีพูดโน้มน้าวการันตีว่า ลงทุนกับบริษัทนี้และจะได้ผลกำไร ซึ่งฟิล์มจะอ้างว่าเป็นพรีเซ็นเตอร์ไม่ได้เพราะบนเวทีฟิล์มพูดชัดว่าตัวเองเป็นผู้ลงทุน

แต่สุดท้ายธุรดิตดังกล่าวกลายเป็นการหลอกให้ลงทุนซึ่งธุรกิจน้ำมันดังกล่าวก็ไม่มีจริง ส่วนรถขยะ EV ตนก็ไปสืบทราบมาว่าไปขอเช่ามาจาก อบต.แห่งหนึ่งเพื่อจัดฉากเท่านั้น

ขณะที่ดีเอสไอ เตรียมออกหมายเรียก 'ฟิล์ม รัฐภูมิ'  ที่มีผู้สูงอายุ วัยเกษียณหลายคน ออกมาร้องเรียนว่าหลงเชื่อร่วมลงทุนในธุรกิจพลังงาน จนทำให้แต่ละคนสูญเงินเก็บก้อนสุดท้ายไปจำนวนมาก

โดยผู้สูงอายุ ในวัยเกษียณหลายคน ร้องเรียน ว่า ได้นำเงินเก็บก้อนสุดท้าย มาลงทุนในธุรกิจพลังงาน ที่มีนายสมโชค เดชะ เป็นเจ้าของธุรกิจ โดยเสียค่าสมัครเป็นสมาชิก และลงทุนในธุรกิจสัมปทานเรือขนส่งน้ำมัน รถเก็บขยะพลังงานไฟฟ้า เฟรนไซส์น้ำมันเพื่อการเกษตร มีการทำโปรโมชั่น ออกมาตลอด เพื่อให้ผู้สูงอายุชักชวนคนมาร่วมลงทุน แต่เมื่อยิ่งลงทุนคนละหลายล้านบาท กลับไม่ได้ค่าตอบแทน

โดยคดีนี้ดีเอสไอ ได้สอบสนผู้เสียหายร่วม 519 ราย มูลค่าคามเสียหายสูงเกือบ 500 ล้านบาท ออกหมายจับนายสมโชค และ นส.พัชรธร แต่ได้หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ ยึดทรัพย์ได้ 35 ล้านบาท จึงเรียกร้องให้สืบทรัพย์ต่อเพราะเชื่อว่าดารา น่ามีส่วนเกี่ยวข้อง