บึงกาฬ สั่งปิดด่านผ่อนปรนปากคาด หลังน้ำขึ้น - 'อนุทิน' บินด่วนหนองคาย ติดตามอุทกภัย เร่งช่วยเหลือ-เยียวยา ปชช.

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 ก.ย.67 สภาพน้ำแม่น้ำโขง อ.เชียงคาน จ.เลย ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้าวันนี้ ระดับน้ำโขงได้ลดลงจากเมื่อวาน เหลือ 15.97 ม. ลดลงไป 5 ซม. ที่ลานวัฒนธรรม วัดท่าคก อ.เชียงคาน ระดับยังคงลดลงน้ำเชี่ยวกราก ไหลผ่านหลายหมู่บ้านของ อ.เชียงคาน และไหลผ่านที่บ้านคกไผ่ ต.ปากชม อ.ปากชม จ.เลย ที่ด่านด่านศุลกากร หรือท่าเรือปากชม พบว่าเมื่อวานระดับลดลงไปกว่า 50 ซม. แต่กระแสน้ำแรงและเร็วมาก แม่น้ำโขงมีท่อนไม่ เศษสวะลอยเป็นจำนวนมาก ซึ้งมวลน้ำทั้งหมดจะไหลไปที่คอขวด อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย


คาดว่าในคืนนี้หรืออีก 1-2 วัน มวลน้ำก้อนใหญ่จากจีนที่ปล่อยน้ำลงแม่น้ำไหลลงเขื่อนไชยบูลี จนเขื่อนต้องปล่อยน้ำลงแม่น้ำ ซึ้ง อ.เชียงคาน เป็นด่านแรกที่จะเจอมวลน้ำก้อนใหญ่ จากนั้นก็ไหลไป อ.ศรีเชียงใหม่ อ.สังคม จ.หนองคาย


ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านจังหวัดบึงกาฬ เช้าวันนี้วัดได้ 13.40 เมตร เพิ่มขึ้นจากเย็นวานนี้ 10 เซนติเมตร อยู่ต่ำกว่าตลิ่ง 0.60 เมตร (ตลิ่ง 14.00 ม.) ส่งผลให้ในพื้นที่บริเวณลานพญานาค ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ ที่ถูกน้ำโขงล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่ และชุมชนลุ่มต่ำที่อยู่ตามซอกซอยใกล้ลานพญานาค ในเขตเทศบาลตำบลปากคาด ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก 10 -20 ซม.


โดย นายนายทวี ชณรงค์ นายอำเภอปากคาด สั่งการให้เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลปากคาด / ทหารหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 26 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา / ทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 13 เร่งเสริมกระสอบทรายให้กับบ้านเรือนประชาชนขึ้นอีก พร้อมสั่งการให้กองร้อนอาสารักษาดินแดนอำเภอปากคาด เข้าเก็บสัมภาระ อุปกรณ์สำนักงาน เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ออกจากอาคารด่านชั่วคราว (จุดผ่อนปรน) อ.ปากคาด – บ้านทวย หลังระดับน้ำสูงขึ้น พร้อมประสานฝั่ง สปป.ลาว แจ้งชาวบ้านที่จะนำสินค้าข้ามมาจำหน่ายในตลาดนัดไทย-ลาว ในวันพรุ่งนี้ ทางการไทยของดการเปิดด่านชั่วคราว จนกว่าระดับจะลดลง


ที่ จ.นครพนม วานนี้ (14 ก.ย.) ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่จุดวัดบ้านหนองแสงเขตเทศบาลเมืองนครพนมวัดได้ 11.10 เมตรเพิ่มขึ้นจากเมื่อเช้าวานนี้ (14 ก.ย.) 20 เซนติเมตร เหลืออีกเพียง 90 เซนติเมตรก็จะถึงจุดวิกฤติ โดยยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่องทั่วทั้งจังหวัด ทำให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมในพื้นที่ค่อนข้างมาก ประกอบกับมีน้ำเหนือไหลมาสมทบในปริมาณที่มากเนื่องจากมีการปล่อยน้ำจากเขื่อนต่างๆ ในสปป.ลาวเนื่องจากมีปริมาณน้ำเกินความจุเป็นเหตุให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นวันเดียวเกือบเมตร


ส่งผลให้ระดับน้ำเริ่มล้นตลิ่งในที่ลุ่มคือที่บริเวณหมู่ 7 บ้านดอนแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนมน้ำได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมนาข้าวและพื้นที่เลี้ยงสัตว์รวมถึงบ้านเรือนราษฎรทำให้ต้องขนของหนีน้ำกันอย่างเร่งด่วน


จากนั้นเวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง ประมาณ 17.00 น. ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเริ่มจ่อจุดล้นตลิ่ง อยู่ที่ระดับประมาณ 11.50 เมตร ห่างจากจุด ล้นตลิ่ง ประมาณ 50 เซนติเมตร คือที่ 12 เมตร แต่ยังไม่เอ่อท่วมพื้นที่ เขตเทศบาลเมืองนครพนม ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกจำนวนมาก เนื่องจากมีการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ทำให้ระดับน้ำกับเขตเทศบาลเมืองนครพนม ยังห่างกันประมาณ 4 -5 เมตร แต่จุดวิกฤติล้นตลิ่ง เป็นเพียงจุดเตือนเฝ้าระวังพื้นที่ลุ่มต่ำ ที่เริ่มได้รับผลกระทบ มีน้ำโขงเอ่อท่วม ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตร ยังไม่มีพื้นที่ชุมชนหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบหนัก


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน และนางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล ปฏิบัติหน้าที่โฆษกกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำและเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ตำบลเวียงคุก อ.เมือง


โดยนายอนุทิน ได้ ลงเรือ เพื่อเข้าถึงจุดน้ำท่วม บางช่วงได้กล่าวกับชาวบ้านระบุว่า การเดินทางมาวันนี้ เพื่อติดตามสถานการณ์ ดูความพร้อมรับมือ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และให้กำลังใจประชาชน


“ผมอยากกราบขอโทษประชาชนทุกท่าน ที่ต้องมาลำบากกับ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ขอยืนยันว่าภาครัฐมีได้เพิกเฉย ขณะนี้ได้มีการระดมกำลังเข้ามาในพื้นที่แล้วเพื่อเร่งแก้ไขและเยียวยาสถานการณ์ เครื่องมือต่างๆ ของอุปโภคบริโภค กำลังทยอยเข้าพื้นที่ของท่าน ทั้งในภารกิจช่วยเหลือ และในภารกิจหลังน้ำลด”


นายอนุทินกล่าวอีกว่า มีการเร่งตั้งงบกลาง เพื่อช่วยเหลือประชาชน ท่านนายกรัฐมนตรีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายไปเมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา มีคำสั่ง ให้ ใช้กฎเกณฑ์ ดูแลช่วยเหลือ เช่นเดียวกับที่ จังหวัดเชียงราย ในพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งหมด

“จะมีมาตรการในการช่วยเหลือค่าน้ำ ค่าไฟ ให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่เป็นเหยื่อของน้ำท่วม โดยจะมีการลดค่าน้ำค่าไฟ”

รับชมผ่านยูทูบ :  https://youtu.be/1d-QDn7jy5k