ผู้ปกครองแฉซ้ำ เด็กป่วยยังลากไปฝึก รด.เอาสะใจเป็นที่ตั้ง กองทัพภาค 4 ยันพร้อมดูแล

จากกรณีนักศึกษาวิชาทหารมณฑลทหารบกที่ 46 มีอาการเจ็บป่วย ในระหว่างการเข้ารับการฝึกนักศึกษาวิชาทหาร ณ รร.นราธิวาส อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรือเสาะ และโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ จำนวน 23 นาย ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.65 นั้น

วานนี้ (3 ธ.ค.) พลตรีปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 โฆษกกองทัพภาคที่ 4 ได้เปิดเผยเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกำลังให้การดูแลช่วยเหลือนักศึกษาวิชาทหารที่เจ็บป่วยอย่างเร่งด่วน รวมทั้งการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยในขั้นต้นหน่วยทหารและส่วนราชการในจังหวัดได้ประสานพูดคุยกับครอบครัวของนักศึกษาวิชาทหาร พร้อมหารือกับทางโรงเรียนเพื่อสนับสนุน อำนวยความสะดวก และติดตามช่วยเหลือด้านการรักษาในโรงพยาบาลอย่างดีที่สุด

ล่าสุดอาการเจ็บป่วยของนักศึกษาทหารโดยรวมดีขึ้น โดยมีนักศึกษาวิชาทหารที่เข้ารับการรักษาตัวมีอาการกล้ามเนื้ออักเสบ เจ็บปวดที่ขาและร่างกาย ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยที่ต้องล้างไต จำนวน 8 ราย ปัจจุบันอาการปลอดภัย ซึ่งหน่วยทหารในพื้นที่ได้ประสานกับทางโรงพยาบาลและผู้ปกครองของนักศึกษาวิชาทหารทุกรายเพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบมูลขั้นต้น พบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้น ระหว่างการฝึกนักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 1-3 ภาคปกติ ประจำปีการศึกษา 2565 ณ ศูนย์ฝึกย่อยโรงเรียนนราธิวาส โดย หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 46 ซึ่งมีกำหนดการฝึกในระหว่าง วันที่ 26 พ.ย. – 3 ธ.ค.65 โดยเมื่อวันที่ 28 พ.ย.65 นักศึกษาชั้นปีที่ 1เข้ารับการฝึกบุคคลท่ามือเปล่า, ชั้นปีที่ 2 ฝึกทบทวนบุคคลท่าอาวุธ และชั้นปีที่ 3 ฝึกวิชาครูทหาร และในช่วงเวลาดังกล่าวสภาพอากาศร้อนอบอ้าว ภายหลังการฝึกพบว่า มีนักศึกษาวิชาทหารมีอาการป่วย และผู้ปกครองทะยอยพาเข้ารับการรักษาที่ รพ.นราธิวาส และ รพ.รือเสาะ จำนวน 23 คน (ชั้นปีที่ 1 จำนวน 22 คน และ ชั้นปีที่ 2 จำนวน 1คน) โดยได้ปิดการฝึกแล้วเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.65

ภายหลังรับทราบเหตุการณ์ ผู้บัญชาการทหารบกได้แสดงความเป็นห่วงในการเจ็บป่วยของนักศึกษาวิชาทหาร และได้สั่งการให้กองทัพภาคที่ 4 บริหารจัดการช่วยเหลือดูแลน้องๆทุกคนให้หายป่วยโดยเร็ว รวมทั้งการให้ข้อมูลคำแนะนำต่างๆ กับผู้ปกครอง ทั้งด้านการรักษาพยาบาลและสถานภาพการเรียนการฝึก นศท. ให้ทุกส่วนมีความสบายใจในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

สำหรับการสอบสวนหาข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ภาพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้มณฑลทหารบกที่ 46 ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และหากพบว่าเกิดจากความบกพร่องของชุดครูฝึกก็จะดำเนินการลงทัณฑ์ตามความเหมาะสมโดยเร็วที่สุด    

กองทัพภาคที่ 4 ต้องขอโทษต่อผู้ปกครองของ นศท.ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ และจะดำเนินการทุกด้านโดยยึดประโยชน์ของนักศึกษาวิชาทหารเป็นสำคัญ พร้อมทั้งได้สั่งการเน้นย้ำให้ทุกหน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหารกำกับดูแลการเรียนการฝึก นศท. ในทุกพื้นที่ให้เป็นไปตามมาตรฐานการฝึกที่กองทัพบกกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ยังได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองและ นศท.ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ โดยให้หมั่นสังเกตว่าหากพบอาการปัสสาวะน้อยลงหรือปัสสาวะเป็นสีน้ำตาลดังเช่นเหตุการณ์ในครั้งนี้ ขอให้ดื่มน้ำให้มากๆ และหากอาการไม่ดีขึ้นให้ไปพบหมอที่โรงพยาบาลให้เร็วที่สุด โดยห้ามกินยาแก้ปวดอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเกิดผลเสียต่อการทำงานของไต อย่างไรก็ตามอาการของโรคชนิดนี้สามารถรักษาให้หายได้ภายในไม่เกิน 2 สัปดาห์ ปัจจุบันพบว่าส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้นและจะทยอยกลับบ้านได้ภายใน 2-3 วันนี้

ขณะที่ด้านผู้ปกครองของนักศึกษาวิชาทหาร แฉซ้ำพฤติกรรมครูฝึก ว่า นักศึกษาวิชาทหารเมื่อทำผิด เขาจะลงโทษเป็นกลุ่มใหญ่ พอทำโทษแล้วทำโทษหนักทีเดียว ขณะที่เด็กยังไม่พร้อมในวันแรก ให้ลุกนั่ง 200 ครั้ง คนที่ออกกำลังกายในสภาพที่ไม่พร้อมยังไม่ไหว พอวันที่ 3 อาการออก เพราะวันนั้นลูกชายไม่ได้เรียน นอนอยู่ในเต็นท์ แทนที่ครูฝึกหรือทางโรงเรียนจะโทรแจ้งว่าลูกไม่สบาย กลับกลายเป็นว่าลูกชายตนโทรมาแจ้งเอง ตนจึงได้ไปรับ และพามาที่โรงพยาบาล พอตรวจเช็คจึงพบอาการไตวาย โดยคุณหมอแจ้งว่าค่าไตปกติไม่เกิน 1 แต่ของลูกชายตนค่าไตอยู่ที่ 7.5

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นควรปรับปรุงอย่างยิ่งในการฝึก ควรดูสภาพเด็ก ณ เวลานั้นควรวิเคราะห์ในการฝึกไปพรางๆ ฝึกไปวิเคราะห์ไปว่าเด็กมีอาการอย่างไรแบบไหน ถ้าเด็กอาการไม่ไหวอย่างไปฝืน เด็กไม่สบายเป็นลมลากไปฝึกอย่างนี้ไม่ถูกต้อง โดยน้องอีกคนที่ถูกนำส่ง รพ. เช่นกัน บอกว่า เขาเป็นลมขาชา ก็ยังโดนลากไปฝึก ตนคิดว่าถ้าไม่ไหวหรือป่วยมีสิทธิ์พัก ครูฝึกต้องดูแล้วมาฝึกใหม่ได้ ไม่ใช่ไม่ไหว แล้วยังให้ฝึก จึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ไม่ใช่ฝึกเอาความสะใจของครูฝึก

ส่วนผู้ปกครองนักศึกษาวิชาทหารอีกหนึ่งคน กล่าวว่า ตอนแรกบอกตรงๆ ว่ารับไม่ได้เลย เพราะไม่คิดว่าเกิดเหตุแบบนี้ ตอนแรกลูกไปขอเราก็โอเค ลูกเป็นผู้ชายไปฝึกทหารเป็นเรื่องปกติ พี่ชายเขาเป็นทหารเมื่อต้องการฝึกก็ไป เนื่องจากการฝึกมีค่าใช้จ่าย อยากฝึกเราก็ให้ไป เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้คนเป็นแม่ก็เจ็บนะ

ด้านนายแพทย์ อุดม อัศวุตมางกุร ผู้อำนวยการกองออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย ระบุกรณีกลุ่มนักศึกษาวิชาทหารที่พบร่างกายขาดน้ำ มีภาวะกล้ามเนื้อลายสลาย เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้กับกลุ่มผู้ที่ออกกำลังกายหรือมีการฝึกอย่างหนักในสภาพที่ไม่เหมาะสม คือ ในกรณีการออกกำลังกายหรือการทำกิจกรรมกลางแดดต่อเนื่องจนเกินภาวะที่ร่างกายจะรับไหว จะเกิดภาวะกล้ามเนื้อลายสลาย และหากร่างกายสูญเสียน้ำมากโดยไม่ได้รับน้ำทดแทนจนขาดน้ำจะเกิดปฏิกิริยาบางอย่างที่มีการหลั่งสารที่เป็นพิษต่อร่างกายซึ่งส่งผลให้ไตทำงานหนักในการขับสารพิษ ก็จะเป็นผลให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน และปัสสาวะที่ถูกขับออกมาก็จะเปลี่ยนสีตามสารพิษที่ขับออกมา ซึ่งลักษณะเช่นนี้ อาจทำให้บุคคลนั่นหมดสติหรือหากรร้ายแรงก็ถึงขั้นเสียชีวิตได้

โดยนายแพทย์อุดม แนะวิธีการสังเกตตนเองว่าเกิดภาวะขาดน้ำรุนแรงในระหว่างการทำกิจกรรมทางกายใดๆ หากพบว่า หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ไม่มีเหงื่อออก ใจสั่น มึนงง ให้รีบปรับกิจกรรมเช่น หยุดกิจกรรมที่ทำทันที เข้าที่ร่ม ดื่มน้ำ และรีบไปพบแพทย์ เพื่อให้การรักษา

ส่วนการป้องกัน สามารถปรับรูปแบบกิจกรรม เช่นลดเวลาการฝึกกลางแดด ปรับเสื้อผ้าให้ระบายอาการ เตรียมความพร้อมร่างกายก่อนการฝึกหนัก ร่วมทั้งมีการชดเชยน้ำที่เสียไป เป็นระยะ ก็จะสามารถป้องกันการเจ็บป่วยที่จะเกิดในระหว่างการฝึกได้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/dY_e7f3tZos