ชาวบ้านเผย 2 คนเจ็บเป็นขาใหญ่หมู่บ้าน เมาแล้วพูดยั่วยุพลทหาร - เจ้าของร้านเผยอีกมุม พลทหารเดินมาแล้วยิงเลย

จากกรณีพลทหารคลั่ง หนีออกจากฐานที่ตั้งปฏิบัติการไปรัวปืนนับ 10 นัด จ.สุรินทร์ มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ 2 คน แล้วหลบหนีไป ต่อมาพบว่าพลทหารนายนี้ได้ปลิดชีพตัวเองตั้งแต่เมื่อคืน ด้านพ่อรู้ข่าวร้องไห้แทบขาดใจ



เหตุการณ์นี้ สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึก เวลา 00.45 น.ที่ผ่านมา กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากนั้นได้ตรวจสอบกำลังพล และอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาว และกระสุนจำนวนหนึ่ง



เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือนายอนุวัฒน์ อายุ 32 ปี ชาวบ้านเขื่อนแก้ว ถูกกระสุนปืนทะลุปอดด้านขวา อาการสาหัสแต่ยังรู้สึกตัว ขณะนี้ส่งต่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์



และนายวุทธนา อายุ 35 ปี ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดกระจกที่เท้าซ้าย อาการปลอดภัย ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม ซึ่งขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว



ขณะเดียวกัน พันตำรวจเอก กำพล โนนุช ผู้กำกับ สภ.กาบเชิง ได้นำกำลังตำรวจลงพื้นที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืน ตกอยู่ 18 นัด และได้สอบปากคำผู้บาดเจ็บเบื้องต้น ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนและเพื่อนจับกลุ่มนั่งดื่มสุราประมาณ 5-6 คน ก่อนจะแยกย้ายกัน และเหลือนั่งอยู่ 2 คน จากนั้นไม่นานพลทหารผู้ก่อเหตุได้ออกมายืนกราดยิงผู้บาดเจ็บ ซึ่งยืนห่างกันประมาณ 50 เมตร จังหวะนั้นได้หมอบหลบกระสุนไปถูกที่ขาได้รับบาดเจ็บ โชคดีไม่ถูกจุดสำคัญ ส่วนพลทหารผู้ก่อเหตุ ใส่เสื้อยืดสีดำ สวมทับด้วยเสื้อเกราะพร้อมกระสุนติดเสื้อ หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไป



ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ได้ปูพรมค้นหาบริเวณที่เกิดเหตุจนถึงเช้า โดยพบสัญญาณโทรศัพท์ผู้ก่อเหตุอยู่ในพื้นที่ป่าทางทิศตะวันตก บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยตาเกาว์ใกล้กับจุดที่เกิดเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารได้ใช้โดรนในการขึ้นติดตาม พร้อมกับส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมค้นหา พร้อมทั้งตั้งจุดตรวจสกัดบริเวณเส้นทางถนนสาย 214 กาบเชิง-ปราสาท ก่อนเข้าตัว อำเภอปราสาท ประมาณ 500 เมตร เพื่อป้องกันเหตุที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชน



ซึ่งขณะนั้น นายประยูร อายุ 51 ปี พร้อมญาติพี่น้องของพลทหารที่ก่อเหตุ มารอติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด นายประยูร บอกว่า อยากให้ลูกชายออกมามอบตัว ลูกชายไม่เคยมีปัญหาทางจิตแต่อย่างใดและไม่มีครอบครัว ไม่เคยเล่าปัญหาส่วนตัวให้ฟัง แต่ทราบว่า น่าจะเกิดความเครียดจากการสู้รบในพื้นที่ชายแดนด้านปราสาทตาควาย ก่อนจะถูกย้ายมาประจำอยู่พื้นที่ชายแดนด้าน อ.กาบเชิง



กระทั่งเวลาประมาณ 10.40 น. เจ้าหน้าที่ทหารได้เดินตรวจสอบบริเวณคลองส่งน้ำ ทางทิศตะวันออกของร้านชำที่เกิดเหตุ ซึ่งห่างออกไปประมาณ 120 เมตร ได้เจอตัวพลทหารที่ก่อเหตุ พบนอนเสียชีวิตอยู่ในป่าหญ้า เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบพบว่า พลทหารนายนี้ได้ปลิดชีพตัวเองตั้งแต่เมื่อคืน



ขณะที่พ่อของพลทหารรัฐภูมิ และญาติพี่น้องเมื่อรู้ข่าวถึงกับร้องไห้และเสียใจที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ พ่อแทบจะเป็นลมล้มฟุบ เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันดูแลและปลอบใจอย่างใกล้ชิด โดยพ่อบอกว่า ไม่คิดว่าลูกชายจะมาก่อเหตุและฆ่าตัวเองแบบนี้



ด้านอาสาว บอกว่า หลานชายเป็นทหารเกณฑ์เพิ่งมาประจำเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เขาเป็นคนดีทะเลาะกับน้องชายตัวเองยังปล่อยให้น้องตีตัวเองเลย วอนให้สังคมเห็นใจเขาด้วย เขาทำเพื่อชาติ น่าจะเครียดอยู่รบประสาทตาควาย 7 วัน 7 คืน ไม่ได้พัก



ในโลกออนไลน์มีคนที่อ้างว่าเป็นคนในพื้นที่เกิดเหตุ ออกมาให้ข้อมูลอีกด้าน พร้อมบอกว่า เสพข่าวดี ๆ ทหารไม่ได้คลั่ง โดยบอกว่า คนที่บาดเจ็บนั่งดื่มสุราที่ร้านชำตั้งแต่บ่าย ยันห้าทุ่มก็ยังไม่เลิก เมาได้ที่ก็เปิดเพลงเสียงดัง ทหารเขามาเตือน ก็ยังปากดีอีก เขาเตือน 2 ครั้ง ก็โดนด่ากลับ ผมเห็นใจคนปฏิบัติหน้าที่นะครับ ขอโทษด้วยถ้าทำให้ใครไม่สบายใจ



อีกรายระบุว่า ทหารคนนี้ไม่ได้คลั่งนะครับ ผมคนในพื้นที่ อย่าเชื่อข่าวเท็จที่ยังไม่ได้กรอง พลทหารคนนี้ไปซื้อของที่ร้านชำ เจ้าของร้านใจดีคิดเงินแค่ครึ่งราคา แต่พลทหารกลับโดนวัยรุ่นขี้เมา 2 คน และเป็นนักเลงประจำหมู่บ้าน เอะอะ โวยวายเสียงดัง พูดจาดูถูก เยาะเย้ย ถากถาง ว่า มีทหารไว้ทำไม รบกับเขมรก็ไม่ชนะ เดินไปก็เหยียบแต่ระเบิดขาขาด จึงโมโหเพิ่มจากความกดดันที่ต้องไปรบแนวหน้า จึงยิงปืนใส่ขี้เมา 2 นัด เพื่อสั่งสอน แล้วยิงขู่ลงดินอีกนับ 10 นัด



ขณะเดียวมีคนในพื้นที่ส่งข้อมูลมาบอกว่า คนเจ็บ 2 คน เป็นนักเลงประจำหมู่บ้าน หนึ่งคนเป็นนักร้อง อีกคนเปิดร้านถ่ายรูปอยู่อีกอำเภอ แก๊งนี้ตั้งวงก๊งเหล้ากันทุกวัน แล้ววันเกิดเหตุก็เมาแล้วด่าทหารจริงๆ



ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเรื่องนี้ไปที่ นางวิไลพร อายุ 50 ปี เจ้าของร้านชำที่เกิดเหตุ บอกว่า ตนเองปิดร้านประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง โดยมีวัยรุ่นมานั่งดื่มสุราฉลองออกรถคันใหม่ตั้งแต่บ่าน ก่อนจะแยกย้ายกันกลับ เหลืออยู่เพียง 2 คน จากนั้นไม่ถึงชั่วโมงก็ได้ยินเสียงปืนรัวชุดใหญ่ 1 ครั้ง หลังเสียงเงียบ ได้มาส่องดูตามรูที่กระสุนปืนเจาทะลุประตู พบคนเจ็บนอนร้องครวญครางอยู่ แต่ไม่กล้าออกไปดู ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที ก็ได้ยินเสียงปืนอีก 2 นัด ไม่รู้ว่ายิงมาจากด้านไหน ก่อนจะประสานรถพยาบาลนำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาล



ทั้งนี้ตามปกติคนเจ็บจะมาช่วยงาน ที่สวนของตนเป็นประจำ ช่วงเย็นก็จะมีการเลี้ยงอาหารการกินกัน ที่มีกระแสบอกว่า ผู้บาดเจ็บได้มีการพูดจาเยาะเย้ยถากถางทหาร ขณะที่มาซื้อของที่ร้าน อันนี้ไม่เป็นความจริง เพราะว่าบ้านที่ตนอยู่ ไม่ได้เปิดเป็นร้านขายของชำ และทราบว่า เมื่อทหารเดินมาถึงหน้าบ้าน ก็ได้ใช้อาวุธปืนยิงกาดเข้าใส่บ้านและผู้บาดเจ็บทั้งสองคนเลย



ขณะที่นางผัดแก้ว แก้วมณี ผู้ใหญ่บ้านเขื่อนแก้ว ให้ข้อมูลว่า ทั้งสองคนที่บาดเจ็บไม่ใช่นักเลงประจำหมู่บ้าน อีกคนหนึ่งก็ทำงานเปิดร้านถ่ายรูป เป็นคนมีการมีงานทำนิสัยดี ตามที่มีกระแสว่า ผู้บาดเจ็บทั้งสองเป็นนักเลงประจำหมู่บ้าน และได้พูดจาเยาะเย้ยถากถางทหารนั้นไม่น่าจะเป็นความจริง เพราะ บ้านที่เกิดเหตุก็ไม่ ใช่ร้านขายของชำ



ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ไปคุยกับชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ บอกว่า ปกติกลุ่มคนเจ็บตั้งวงดื่มเหล้ากันเป็นประจำ แต่ก็ไม่ค่อยเสียงดังนะ วันเกิดเหตุก็ได้ยินเขาเปิดเพลง ถามว่าเสียงดังไหม ตนอยู่ในบ้านก็พอจะได้ยินเสียงเพลงอยู่



ส่วนชาวบ้านอีกราย บอกว่า ทหารไม่ได้คลั่ง ถ้าเขาคลั่งเขาต้องยิงมั่ว ตนเดินกลับไปกลับมา เอาน้ำไปให้ตำรวจ ถ้าเขายิ่งมั่ว ตนต้องโดนด้วยแล้ว ความรู้สึกตอนนี้คือสงสารทหาร ไม่รู้ว่าเขาเจออะไรมาบ้าง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/qFZbi9qE5w4