รพ.ตราดโต้ "กัมพูชา" ยันทำคลอดหญิงกัมพูชาตามหลักการแพทย์ แต่เจ้าตัวพยายามหนี-ทิ้งลูก

โรงพยาบาลตราดร่อนแถลงการณ์โต้โซเชียลเขมร กล่าวหาปฏิเสธการรักษาหญิงกัมพูชาหลังคลอด แจงยิบหลังคลอดพยายามหนี-ทิ้งลูก พยายามเกลี้ยกล่อมแต่ไม่หยุดก้าวร้าว ประสานส่งต่อไปโรงพยาบาลเกาะกง ตามมาตรฐานวิชาชีพ



จากกรณีเพจ "Drama-addict" ได้ออกมาโพสต์ข้อความตอบโต้กรณีที่เพจในประเทศกัมพูชาเผยแพร่ข้อมูลกล่าวหาโรงพยาบาลตราด (Trat Hospital) ว่าปฏิเสธการรักษาหญิงชาวกัมพูชาหลังคลอดลูก เพียงเพราะไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา พร้อมแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อพฤติกรรมบิดเบือนข้อมูลดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้โรงพยาบาลตราดและกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมาย



ต้นตอของเหตุการณ์เริ่มจากเพจ "Army Military Force-สำรอง" ซึ่งแชร์โพสต์ของบุคคลที่อ้างว่าเป็นแพทย์ชาวกัมพูชา กล่าวหาว่า ทาง รพ.ตราดปฏิเสธการรักษาหญิงเขมรรายหนึ่งที่เพิ่งคลอดลูก เพราะไม่มีเงิน พร้อมแนบภาพเอกสารที่ปรากฏชื่อ "Trat Hospital" และโพสต์ข้อความโจมตีอย่างรุนแรง จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ฝั่งกัมพูชา โดยเฉพาะจากเพจ "Meta Hospital" ที่ใช้ถ้อยคำรุนแรงถึงขั้นกล่าวหาว่าแพทย์ไทย "ไร้มนุษยธรรม"



Drama-addict ระบุว่า เหตุการณ์นี้เป็นการบิดเบือนข้อมูลอย่างน่าละอาย ไม่เพียงส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของโรงพยาบาลตราด แต่ยังอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนสองประเทศ พร้อมเสนอให้มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการใน 3 ภาษา คือไทย อังกฤษ และเขมร เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงและปกป้องศักดิ์ศรีของบุคลากรทางการแพทย์ไทย



ล่าสุดนายแพทย์สุชาติ ตันตินิรามัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตราด ได้ออกมาแถลง พร้อมกับออกหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว โดยระบุว่า วันที่ 25 มิ.ย.68 เวลา 14.15 น. โรงพยาบาลได้รับรายงานจากพยาบาลตึกหลังคลอด ว่ามีผู้ป่วยรายหนึ่งพยายามจะออกจากโรงพยาบาล โดยให้เหตุผลว่าไม่มีค่าใช้จ่าย ทางโรงพยาบาลได้ให้คำแนะนำอย่างละเอียดแก่ผู้ป่วยถึงความจำเป็นในการพักรักษาตัว เนื่องจากเพิ่งคลอดบุตรได้ไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกช้อนที่เป็นอันตรายถึงชีวิต เช่น ภาวะตกเลือดหลังคลอด หรือการติดเชื้อ นอกจากนี้ ยังได้แจ้งให้ทราบถึงสิทธิ์และช่องทางการขอรับความช่วยเหลือสูงเคราะห์ด้านค่าใช้จ่าย



อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยยังคงยืนกรานปฏิเสธการรักษาและประสงค์จะกลับทันที เมื่อสอบถามถึงลูก ผู้ป่วยแสดงเจตนาไม่ต้องการเด็ก อีกทั้งขอให้โรงพยาบาลนำไปทิ้ง หลังจากชักถามซ้ำ ผู้ป่วยได้ลุกจากเตียง และพยายามวิ่งออกจากโรงพยาบาลทันที ทางโรงพยาบาลจึงได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อระงับเหตุ พร้อมแจ้งไปยังกุมารแพทย์ นิติกรโรงพยาบาล และสังคมสงเคราะห์ เพื่อเข้าพูดคุย แต่ผู้ป่วยมีพฤติกรรมก้าวร้าวและพยายามหลบหนี โรงพยาบาลตราดจึงดำเนินการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อช่วยในการดูแล



ต่อมาเวลา 15.40 น. ของวันเดียวกัน ตำรวจ ได้เดินทางมาถึงตึกหลังคลอดและได้พูดคุยกับผู้ป่วยอีกครั้ง เพื่อขี้แจง ถึงความจำเป็นในการพักรักษาตัวและการทอดทิ้งบุตร ซึ่งอาจส่งผลตามกฎหมาย ผู้ป่วยยังคงยืนกรานที่จะเดินทางกลับประเทศกัมพูชาภายในวันดังกล่าวทันที และเริ่มมีท่ามีท่าทีก้าวร้าวขึ้น ตำรวจจึงได้เข้าดำเนินการประสานงานเพื่อผลักดันผู้ป่วยกลับประเทศภูมิลำเนา โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและสวัสดิภาพของผู้ป่วยเป็นสำคัญ



สำหรับทารกแรกเกิด กุมารแพทย์ ได้ประเมินสัญญาณชีพและค่าออกซิเจนของทารกอย่างละเอียด พบว่าคงที่และปลอดภัย เนื่องจากมารดามีพฤติกรรมหลบหนี และประสงค์จะทอดทิ้งทารกไว้ที่โรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลจึงได้ประสานงานกับกุมารแพทย์โรงพยาบาลเกาะกง ว่ายินดีรับผู้ป่วยกลับประเทศไปดูแลอย่างดี



เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของทารก โรงพยาบาลตราดได้จัดเตรียมรถพยาบาลพร้อมอุปกรณ์ โดยมีพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดการเดินทางไปส่งยังจุดนัดหมายบริเวณชายแดน



เวลา 21.52 น. เมื่อถึงโรงพยาบาลเกาะกง แพทย์จากโรงพยาบาลเกาะกง ได้ประสานกลับมายังโรงพยาบาลตราด เพื่อยืนยันการรับตัวทารก พร้อมแนบภาพถ่ายการดูแลทารกเป็นหลักฐานทางศูนย์ Refer โรงพยาบาลตราดจึงได้แจ้งกุมารแพทย์ที่เกี่ยวข้องเพื่อรับทราบสถานการณ์



โรงพยาบาลตราดขอยืนยันว่าได้ดำเนินการทุกขั้นตอนตามมาตรฐานวิชาชีพอย่างเคร่งครัด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและสวัสดิภาพของผู้ป่วยเป็นสำคัญที่สุด



ขณะที่นายแพทย์สุชาติ ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า หญิงรายนี้เข้าประเทศผิดกฎหมาย จึงไม่ได้รับสิทธิ์สวัสดิการด้านค่ารักษาพยาบาลจากรัฐ และสำหรับกรณีการหมิ่นประมาทโรงพยาบาล จะต้องหารือกับกระทรวงสาธารณสุขก่อนดำเนินการใดๆ ทั้งนี้ โรงพยาบาลเกาะกงและโรงพยาบาลตราดมีความร่วมมือกันมาอย่างต่อเนื่อง มีการส่งบุคลากรทางการแพทย์มาอบรมทุกปี และได้รับอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่บริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาในไทยอย่างสม่ำเสมอ



ขณะนี้โรงพยาบาลตราดได้สอบถามไปยังโรงพยาบาลเกาะกงเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังไม่ได้รับคำตอบอย่างเป็นทางการ เหตุการณ์นี้ยังส่งผลให้บุคลากรภายในโรงพยาบาลตราดมีความสามัคคีและร่วมแรงร่วมใจกันมากยิ่งขึ้นด้วย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/VV7KMfy1tUY