สังคม

ของใคร? เงิน 12 ล้าน ทิ้งกองขยะคอนโด ตร.จี้ธนาคารตรวจสอบ ตามหาเจ้าของ

โดย panisa_p

6 มิ.ย. 2568

93 views

ช่วง 2 ทุ่มครึ่งเมื่อวานนี้ มีพลเมืองดีแจ้งตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ว่าพบเงินสดไม่ทราบจำนวน อยู่ภายในกล่องพลาสติกสีเทา บริเวณคอนโดเมืองทองธานีตึก P2 ชั้น 4 ที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี



เมื่อตำรวจเข้าตรวจสอบ ได้เจอกับ น.ส.อุษา ซึ่งเป็นคนที่เจอคนแรก บอกว่า ตนกำลังจะกลับเข้าที่พัก เหลือบไปเห็นกล่องพลาสติกสีเทา วางอยู่หน้าลิฟต์ บริเวณจุดทิ้งขยะ ก็เห็นว่ากล่องมันยังใช้ประโยชน์ได้ จึงหยิบกล่องเพื่อจะเทขยะทิ้ง แต่ไปเจอว่า สิ่งที่อยู่ในกล่องเป็นแบงค์พันจำนวนมาก ทำให้ตกใจมาก จึงรีบโทรบอกเพื่อน และโทรแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ



โดยพบว่าเงินสดทั้งหมดเป็นแบงค์พัน 10 มัด รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 12 ล้านบาท ส่วนข้าง ๆ กล่อง พบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และซองจดหมายเกี่ยวกับสำนักงาน กสทช. ตำรวจจึงยึดธนบัตรทั้งหมดไปตรวจสอบที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่า ธนบัตรดังกล่าวเป็นเงินอะไร ได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง



วันนี้ผู้สื่อข่าวไปที่ตึกที่พบเงินปริศนา สถานที่พบเงินสดดังกล่าว และได้พบกับ น.ส.ณทภัต เล่าว่า เมื่อวานเดินขึ้นห้องกับเพื่อน 3 คน หนึ่งในนั้นคือ น.ส.อุษา ได้ไปเห็นกล่องดังกล่าวอยู่ในกองขยะข้างลิฟท์ เห็นว่าสภาพยังดี จะเก็บมาใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้ และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงได้เปิดดูพบเงินสดแบงค์พัน เป็นมัด ๆ จำนวนมาก ซึ่งแต่ละคนตกใจไม่เคยเห็นมาก่อน จึงได้โทรแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ



ทีมข่าวลงพื้นที่ตึกในเมืองทองธานี เจอคนที่พบเงิน นี่เป็นคลิปที่พลเมืองดีใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายไว้ ขณะมาเปิดกล่องสีเทาที่ถูกวางทิ้งไว้ข้างถังขยะ บริเวณจุดทิ้งขยะชั้น 4 ของอาคาร P2 พอเปิดออกมาจะเจอเสื้อผ้าวางอยู่ชั้นบน และพอเอาเสื้อผ้าออก ก็เจอเงินถูกมัดวางไว้ใต้ล่างจำนวนมาก และแต่ละปึกมีสายรัดเงินที่มีตราสัญลักษณ์ของธนาคารกสิกรไทย และลายเซ็นต์ของพนักงาน ซึ่งคนในคลิปคุยกันว่า "เห็นแล้วใจไม่ดีเลย"



นอกจากเงินสดที่พบแล้ว ยังมีหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และซองจดหมายเกี่ยวกับสำนักงาน กสทช. ซึ่งปรากฏชื่อนาย ทวีวัฒน์ 1 ในอนุกรรมการของ กสทช.ปรากฏอยู่ด้วย



นี่เป็นภาพวงจรปิดที่หน้าคอนโดที่พบเงิน ก้องวงจรปิดจับภาพตอน 1 ทุ่ม 47 นาที คุณบัว (สวมหมวกขาว) ได้เดินออกมาจากร้านเสริมสวย และกำลังรับโทรศัพท์จากเพื่อนรุ่นพี่ที่เจอเงินเป็นคนแรก โดยมีคุณนิวเดินอยู่ข้างหลัง ซึ่งเพื่อนรุ่นพี่ได้โทรเรียกให้ทั้งสองคนขึ้นไปช่วยดูกล่องเงินที่ชั้น 4 ก่อนจะเรียกตำรวจมาตรวจสอบ



ทีมข่าวอาชญากรรมลงพื้นที่มายังคอนโดจุดเกิดเหตุ แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปภายใน เนื่องจากตำรวจอยู่ระหว่างตรวจหาพยานหลักฐานในจุดเกิดเหตุ เพื่อหาตัวเจ้าของเงิน แต่จากการตรวจสอบอาคารพบว่า คอนโด P2 แห่งนี้ มีความสูงทั้งสิ้น 16 ชั้น ใน 1 ชั้นจะมีห้องพักจำนวน 68 ห้อง แบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 โซน ได้แก่ โซน A โซน B โซน C และโซน D โซน A คือ ทางเข้าออกอาคาร ส่วนจุดทิ้งขยะที่เจอเงินอยู่บริเวณหน้าลิฟท์โซน C นั่นเท่ากับว่าคนที่จะเอามาทิ้งได้ น่าจะต้องเป็นคนในที่พักอาศัยที่นี่



ทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณบัว เป็นคนที่เห็นกล่องเงินเป็นคนที่ 2 เธอเล่าว่า ช่วง 1 ทุ่ม 40 นาที มีโทรศัพท์จากเพื่อนรุ่นพี่ซึ่งเป็นคนเจอกล่องเงินคนแรกโทรมา บอกว่า ตอนกลับมาจากที่ทำงานเห็นกล่องพลาสติกสีเทาวางอยู่ตรงกองขยะ จึงตั้งใจจะเอากล่องมาใช้ต่อ แต่พอเปิดดูของข้างในเจอเงินจึงตกใจ เลยโทรเรียกเธอมาช่วยกันดู เธอจึงชวนเพื่อนอีกคนไปด้วย และถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน พอเปิดกล่องก็เจอกางเกงบ๊อกเซอร์ กางเกงขายาว และเสื้อฟุตบอล น่าจะเป็นของผู้ชายประมาณ 10 ตัว วางแบบขยุม ๆ พอรื้อเสื้อผ้าออก พบกองธนบัตร ตอนนั้นตกใจมาก ขนลุก และทำตัวไม่ถูก เพราะไม่เคยเจอเงินมากขนาดนี้



ทั้งที่เมื่อตอนบ่ายเธอมาเก็บของเก่าตรงจุดทิ้งขยะจุดนี้ก็ยังไม่เจอกล่องใบนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าอาจจะเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย อีก 1 คน ที่เจอเงินพร้อมกัน คือ คุณนิว ตอนรุ่นพี่โทรมาตามให้ไปช่วยดูเงิน ทีแรกก็ไม่เชื่อนึกว่าอำเล่น เลยเดินมาถ่ายคลิปกันกะว่าอาจจะเป็นเรื่องตลก แต่พอเจอเงินจริงๆ ก็ตกใจจนต้องโทรเรียกตำรวจให้มาตรวจสอบ ส่วนเอกสารที่วางอยู่ข้าง ๆ กล่องพลาสติก ไม่ได้สังเกตเพราะมัวแต่ตกใจเงิน



และนี่เป็นคลิปที่พลเมืองดีถ่ายไว้ หลังตำรวจนำเงินทั้งหมดมาตรวจสอบที่ สภ.ปากเกร็ด กล่องถูกมัดมาด้วยเชือกสีแดง แล้วตัดออก ก่อนจะเปิดตรวจสอบเงินด้านใน พบว่าเงินที่อยู่ข้างในแบ่งเป็นกองเงินธนบัตรมัดละ 1 ล้านบาท 10 กอง และกองธนบัตรมัดละ 100,000 บาท อีก 20 กอง รวมจำนวนทั้งสิ้น 12 ล้านบาท



ส่วนซองเอกสารที่เจอภายในกล่องตำรวจหยิบมาใส่ภายหลัง เพราะทีแรกเอกสารเหล่านี้วางกองอยู่ใกล้ๆ ลัง



ขณะที่พันตำรวจเอกอภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผู้กำกับการ สภ.ปากเกร็ด บอกว่า เงินมีทั้งหมด 12 ล้าน เพื่อความปลอดภัยตำรวจเอาเงินไปเก็บไว้ในห้องขังของสถานีตำรวจ เพราะมีกล้องวงจรปิด และอยู่ในพื้นที่ปิด



ตอนนี้อยู่ระหว่างประสานกับธนาคารกสิกรไทย สาขาแจ้งวัฒนะ ที่เป็นเจ้าของสายรัดเงินทั้ง 12 ล้าน ให้ตรวจสอบข้อมูลผู้ที่เบิกเงินจำนวนนี้ออกมา ซึ่งตามข้อมูลบนสายรัดเงินระบุว่า เงินถูกถอนออกมาจากธนาคารในวันที่ 19 เดือนไม่แน่ใจว่ามีนาคม หรือมิถุนายน ปี 2563 และได้ประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บลายนิ้วมือบนธนบัตรด้วย หลังจากนี้จะเรียกพลเมืองดีทั้ง 3 คน มาสอบปากคำอีกครั้ง รวมถึงนาย ทวีวัฒน์ เจ้าของซองเอกสารด้วย



ส่วนเงินดังกล่าว หากครบ 1 ปี แล้วตามกฎหมายมาตรา 1325 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ระบุว่า ถ้าผู้เก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหายได้นำส่งให้ตำรวจตรวจสอบแล้ว แต่หากภายใน 1 ปีนับแต่วันที่เก็บได้ไม่มีผู้แสดงตัว กรรมสิทธิ์จะตกแก่ผู้เก็บได้



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/dNzo4524G-U

คุณอาจสนใจ

Related News