สังคม
"ทนายสายหยุด" ชี้ "ตั้ม" สู้ยาก แนะสารภาพ ติดคุกแป๊บเดียว หลัง 2 คนสนิทกลับลำ รับโกง "มาดามอ้อย"
โดย panwilai_c
29 เม.ย. 2568
341 views
หลังจากเมื่อวานนี้ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานครั้งที่ 2 คดีทนายตั้มกับพวก กรณีฉ้อโกงเจ๊อ้อย ทำให้ "นุและสา" 2 ผู้ร่วมขบวนการกลับคำให้การรับสารภาพ ทีมข่าวคุยกับทนายสายหยุด อดีตทนายความทนายตั้ม บอก คดีนี้ทนายตั้มสู้เหนื่อยแน่
เมื่อวานนี้ (28เม.ย.68) ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นัดตรวจพยานหลักฐานครั้งที่ 2 ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้องจำเลย 7 คน ได้แก่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาทนายตั้ม นายนุวัฒน์ ยงยุทธ หรือนุ คนสนิททนายตั้ม น.ส.สารินี นุชนารถ หรือสา คนสนิททนายตั้ม ทั้ง 4 คนถูกเบิกตัวมาจากเรือนจำ
ส่วน น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือเดือน พี่สาวภรรยาทนายตั้ม น.ส.แก้วสรรค์ และ น.ส.มนันพัทธ์ พนักงานโชว์รูมรถ ได้รับการประกันตัวไปก่อนหน้านี้ก็เดินทางมาที่ศาลเช่นกัน
ซึ่งทั้ง 7 คน ถูกฟ้องในข้อหาฉ้อโกงเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือมาดามอ้อย เศรษฐีนีชาวไทยกว่า 100 ล้านบาท
แต่เมื่อวานนี้ นาย นุวัฒน์ จำเลยที่ 3 และ น.ส.สารินี จำเลยที่ 4 ขอถอนคำให้การเดิมและให้การใหม่เป็นรับสารภาพตามฟ้องบางส่วน และศาลนัดไต่สวนพยานปากแรก วันที่ 4 มีนาคม 2569
วันนี้ (29เม.ย.68) ทีมข่าวได้สอบถามเรื่องนี้กับนาย สายหยุด เพ็งบุญชู อดีตทนายความของทนายตั้ม บอกว่า การที่ "นุและสา" กลับคำมารับสารภาพ หรือถอนคำให้ครั้งนี้ เพราะอาจจะทำจริง จำนนต่อพยานหลักฐานที่ทางฝั่งอัยการนำมาเปิดเผย ซึ่งโทษของคดีฉ้อโกง มีโทษจำคุก 3 ปี ตอนนี้ทั้งคู่ถูกจำคุกมาราว 6 เดือนแล้ว ถ้ารับสารภาพโทษก็จะลดไปกึ่งหนึ่งเหลือแค่ปีครึ่ง ยังไงก็เป็นประโยชน์กับตัวเองมากกว่า แต่ทั้งคู่ยังคงปฏิเสธในคดีพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และร่วมกันฟอกเงิน ส่วนคดีที่เคยไปแจ้งความเท็จ หรือลงบันทึกประจำวันไว้ทั้งสองคนก็รับสารภาพแล้วว่า ทำจริง
การที่ทั้ง 2 คนรับสารภาพ เพราะต้องการรับโทษสถานเบา จะต้องให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เพื่อให้ศาลเห็นว่าเขาสำนึกจริง ยอมพูดความจริงแล้วทั้งหมด และถ้าหากซักทอดไปถึงทนายตั้ม การสู้คดีของทนายตั้มจะยิ่งลำบากขึ้นไปอีก
ทนายสายหยุด ยังแนะด้วยว่า ถ้าหากเขายังคงเป็นทนายความของทนายตั้ม ถ้าหากดูแล้วไปไม่รอดในบางเรื่อง ก็ต้องรับสารภาพไป แต่ถ้าเรื่องไหนไม่ผิดก็ต้องสู้กันไป ซึ่งส่วนตัวมองว่า เรื่องรถ และเรื่องเขียนแบบ ยังไงทนายตั้มไม่ได้มีความผิด แต่เรื่องเงิน 39 ล้านบาทกับ 71 ล้านบาท ทนายตั้มลำบากแน่นอน ขนาดเขายังกังวลใจไม่รู้จะรอดไหม แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่ง เดี๋ยวเขาจะหาว่า "เผือก" เพราะถอนตัวมาแล้ว
ขณะที่ทนาย เดชา กิตติวิทยานันท์ เพื่อนสนิทของทนายตั้ม ยอมรับว่า การที่ทั้ง 2 คน กลับคำให้การส่งผลเสียต่อทนายตั้มจริง เพราะกลายเป็นว่ามีจำเลยบางคนรับสารภาพ และซักทอดไปถึงทนายตั้ม ซึ่งทนายตั้มก็จะลำบากมากยิ่งขึ้นเดิมทีก็ลำบากอยู่แล้ว สาเหตุที่กลับคำให้การ น่าจะกลัวติดคุก และคดีของทั้งคู่โทษไม่หนัก รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง และคิดว่าศาลก็น่าจะให้ประกันตัว อย่างนายเล็กคนขับรถ และลูกน้องของทนายตั้มก็ไปเข้าข้างฝ่ายโจทก์หมดแล้ว
แนวทางการสู้คดีของทนายตั้ม ต้องชี้แจงการกระทำของจำเลยคนอื่นว่า ตัวทนายตั้มไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย ไม่ได้เป็นผู้จ้างวานใช้ ไม่ได้เป็นผู้สนับสนุน ไม่ได้เป็นตัวการร่วม โดยเฉพาะเส้นทางเงินที่ได้มาจากเจ๊อ้อย ต้องไปพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไรกันแน่ จะเป็นการให้โดยเสน่หา หรือเป็นการยักยอกฉ้อโกง หากชี้แจงได้ก็ชนะ ถ้าหากชี้แจงไม่ได้ก็ติดคุก พร้อมฝากบอกด้วยว่า "ถ้าไม่ไหวก็รับสารภาพไปเถอะแป๊บเดียวก็ได้ออกมาแล้ว มานั่งกินไวน์กัน พี่ก็รออยู่ แต่ถ้าเกิดไม่ได้ทำผิดก็สู้ไป"
ทนายเดชา ยังบอกด้วยว่า ครั้งหน้าที่ขึ้นศาล "นุและสา" อาจจะกลับคำรับบสารภาพทั้งหมดทุกข้อหา เพราะคดีฟอกเงิน ที่ปฏิเสธอยู่มีโทษหนักจำคุก 10 ปี แต่ถ้ารับสารภาพก็จำคุกแค่ปีเดียว
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/l6Egr9iOlB4
แท็กที่เกี่ยวข้อง