'แม่สามารถ' ลั่นเดินหน้าขอความเป็นธรรม รับห่วงลูกถูกหามส่ง รพ.ราชทัณฑ์ เพราะอดอาหาร ฝากบอก "ลูกจ๋าอย่าใช้วิธีนี้"

รองโฆษกกรมราชทัณฑ์เผย "สามารถ" เครียดจัด กินอะไรไม่ได้หลายวัน ความดันตกต้องส่งโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ล่าสุดอาการดีขึ้นแต่ยังต้องติดตามอาการใกล้ชิด



หากนับวันที่นายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช อดอาหารตามที่ทนายความส่วนตัวบอก เท่ากับว่าวันนี้เป็นวันที่ 4 แล้ว ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นาง กนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้อำนวยการกองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า อาการของนาย สามารถ ไม่ค่อยดีมาตั้งแต่เช้าวานนี้ (27 พ.ย.67) เพราะความดันตก เนื่องจากความเครียด ไม่กินอาหาร มีเพียงดื่มน้ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ได้ให้แพทย์ในสถานพยาบาลของแดนกักโรคตรวจอาการเบื้องต้น ซึ่งอาการโดยรวมก็ดีขึ้น



กระทั่งช่วงเย็นวานนี้ (27พ.ย.67) นาย สามารถ ชีพจรเต็นเร็ว อาการอ่อนเพลีย ความดันตประกอบกับมีโรคประจำตัว จึงต้องส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งอาการตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว



ส่วนเรื่องอดข้าว อดน้ำ จนถึงตอนนี้นาย สามารถ ก็ยังไม่ได้แจ้งความประสงค์ที่จะอดอาหาร โดยยังดื่มน้ำอยู่ แต่ทานข้าวได้น้อยติดต่อมาหลายวันตั้งแต่ก่อนเข้าเรือนจำ ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ ซึ่งยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะกลับไปอยู่ในแดนกักโรคได้วันไหน



ขณะที่มีรายงานจากแหล่งข่าวในเรือนจำ ยืนยันว่า นาย สามารถ ไม่ได้ประท้วงอดอาหาร แต่เครียดหนักมากลงกระเพาะ จึงไม่สามารถรับประทานอะไรได้



ทีมข่าวอาชญากรรมุคยกับทนายความส่วนตัวของนาย สามารถ ยืนยัน นาย สามารถขอตายในเรือนจำ หากไม่ได้ประกันตัว ขณะทีมทนายยื่นจดหมายน้อยของนายสามารถถึงศาล ขอประกันตัว



ร้อยเอก ธีรศานต์ แก้วสง หรือ ทนายเตย หนึ่งในทีมทนายความของ นายสามารถ เปิดเผยภายหลังเข้าเยี่ยม นาย สามารถ ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า เมื่อคืนนี้ นายสามารถ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมื่อช่วงเช้าจึงได้เดินทางไปเยี่ยม ก็พบว่านายสามารถนั่งรถวีลแชร์มา มีเจ้าหน้าที่เข็นรถพามาที่ห้องพบทนายความ  ตอนที่เจอนาย สามารถ ดูค่อนข้างอ่อนเพลีย คุยกันไปก็เหมือนจะวูบ สัปหงก เจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาเช็คตลอด สาเหตุมาจากนาย สามารถ ไม่ได้กินทั้งน้ำและอาหารตั้งแต่วันอังคาร ซึ่งแพทย์ก็มีความเป็นห่วงในเรื่องของสุขภาพ



ส่วนที่กรมราชทัณฑ์บอกว่า นาย สามารถ ไม่ได้แจ้งความประสงค์อดอาหาร แต่เป็นเพราะเครียดลงกระเพาะจนกินข้าวไม่ได้ และยังดื่มน้ำอยู่นั้น เขาไม่ทราบเรื่องนี้เพราะเท่าที่พูดคุยกัน นาย สามารถ ยังยืนยันว่า เป็นความตั้งใจที่จะอดอาหาร เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ไม่ได้จงใจทำเพื่อกดดัน หรือเป็นสาเหตุให้ได้รับการประกันตัว



ตอนนี้ทางญาติและทนายความอยากจะขอย้ายตัวนาย สามารถ ออกมารักษาที่โรงพยาบาลเลย แต่นายสามารถก็ได้มีการเซ็นยินยอมว่า หากเกิดอาการช็อก ไม่ต้องกู้ชีพ หากไม่ได้ประกันตัวออกมา ก็ขอยอมตายในเรือนจำ ซึ่งคุณแม่ของนาย สามารถ ก็พูดคุยกับลูกชายว่าไม่อยากให้อดอาหาร อยากให้รักษาสุขภาพตัวเอง อดทนรอวันที่จะได้ออกมาสู้คดีดีกว่า



สำหรับการยื่นประกันตัวจะนำเสนอต่อศาลถึงเรื่องอาการป่วยเพราะนาย สามารถ มีโรคประจำตัวหลายโรค รวมถึงอาการป่วยปัจจุบันด้วย ตอนนี้ทีมทนายกำลังขอคัดประวัติการรักษา และเตรียมหลักทรัพย์เพิ่มโดยการนำที่ดินไปประเมินเพิ่มเติม หากเตรียมทุกอย่างได้ทันก็อาจจะยื่นขอประกันตัวในวันนี้ (28พ.ย.67) เลย แต่หากไม่ทันก็จะยื่นในวันพรุ่งนี้ (29พ.ย.67) โดยจะยื่นขอติดกำไล EM ด้วย



นอกจากนี้นาย สามารถ ได้ให้ทนายความจดถ้อยคำที่นาย สามารถ พูดเกี่ยวกับการเรียกร้องสิทธิในการประกันตัว ก่อนจะเซ็นลายมือชื่อกำกับ แล้วให้ทนายความนำไปยื่นต่อศาล ประกอบคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวด้วย ซึ่งเนื้อหาในจดหมายยังไม่สามารถเปิดเผยได้



ทนายความ ย้ำถึงเรื่องการประกันตัวว่า เป็นสิทธิโดยพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ สิ่งที่นาย สามารถ กำลังเรียกร้องอยู่ก็ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง แต่ที่ผ่านมามีหลายคดีที่ผู้ต้องขังไม่ได้รับการประกันตัว จนมีการฝากขังกันเต็มเรือนจำ



และคดีนี้ ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหากับนาย สามารถ จากความผิดฟอกเงินที่มาจากมูลฐานคดีดิไอคอนกรุ๊ป แต่จนถึงวันนี้ความผิดของบริษัท ดิ ไอคอน ชัดเจนพอหรือยังที่จะแจ้งข้อหาฟอกเงิน หากไม่ชัดเจน สุดท้ายศาลยกฟ้อง ผู้ถูกดำเนินคดีก็ต้องสูญเสียหลายๆ อย่าง ที่กลับมาเยียวยาไม่ได้ ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นในหลายคดีที่ผ่านมาแล้ว



นอกจากนี้ ยืนยันได้ว่านาย สามารถ ไม่ได้หลบหนี มีพยานหลักฐานชัดเจนว่าไปทำบุญที่วัดห้วยปลากั้ง จังหวัดเชียงราย มีคนที่ไปด้วยกันหลายคนเป็นพยานได้ และอยู่ห่างจากสนามบินแม่ฟ้าหลวงไม่ถึง 9 กิโลเมตร มีตั๋วทั้งขาไปและขากลับ กระแสข่าวที่ว่าจะออกไปทางชายแดนนั้น จึงไม่เป็นความจริง ซึ่งพอนายสามารถทราบว่ามีหมายจับ ก็ประสงค์ที่จะเข้ามอบตัวที่ สภ.แม่ยาว ด้วย มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่เป็นพยาน



ส่วนเรื่องที่บอกว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานนั้น ทนายความบอกว่า พยานหลักฐานต่างๆ ไม่สามารถที่จะไปยุ่งเหยิงได้อยู่แล้ว เพราะถูกอายัดไปแล้ว ดังนั้น การได้ประกันตัวออกมาชี้แจงจะเป็นประโยชน์กับตัวผู้ต้องหามากกว่า และจะเป็นประโยชน์ต่อคดีอื่นๆ ด้วย



นักข่าวถามถึงเรื่องเอกสารของบอสพอล ที่ดีเอสไอตรวจพบในบ้านในวันที่เข้าตรวจค้นบ้านของนายสามารถ ซึ่งพบข้อพิรุธหลายอย่างว่า อาจเป็นเอกสารเท็จนั้น ทนายความของนายสามารถ บอกว่า การยืมเงินการเป็นเรื่องของคน 2 คน หากผู้ยืมและผู้ให้ยืมยืนยันตรงกันแบบไหน ก็เป็นบุคคลสิทธิที่ทำระหว่างกัน แต่ถ้าจะมองว่าเป็นเอกสารที่สร้างขึ้นมาหรือไม่ เชื่อว่าทางดีเอสไอสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว แล้วถ้าเป็นเรื่องจริง คน 2 คน เข้าใจตรงกัน มันผิดตรงไหน



ส่วนเรื่องเงินที่บอกว่าเป็นเงินทำบุญนั้น คุณแม่ของนายสามารถได้ให้การไปแล้วในวันที่ถูกจับกุม มีเอกสารที่สามารถชี้แจงได้ทุกอย่าง เพราะคุณแม่เป็นสายบุญ สายมูเตลู

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/-jFS3SJf0-c