ดีเอสไอ บุก 2 จุด รังดิไอคอน พบเช่าเก็บข้อมูลธุรกิจใน Cloud

ดีเอสไอ บุกรัง ดิไอคอน 2 จุด ตรวจค้นหาหลักฐานบริษัทเพิ่ม ที่ย่านนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม เช่าเก็บข้อมูลระบบคลาวด์ และ ที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี บริษัทโค้ชแล็ป นักโปรแกรมเมอร์ของดิไอคอน



โดยจุดแรก ที่ เจ้าหน้าที่ DSI ลงพื้นที่ เป็นให้อาคารเช่าแห่งหนึ่ง ที่ถนนรัชดา-รามอินทรา แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. ซึ่งเช่าเพื่อเก็บข้อมูลดิจิทัลบนคลาวด์ "คลาวด์ดาต้าเซ็นเตอร์" หรือ เซิฟเวอร์ฝากข้อมูล Cloud และข้อมูลเว็บไซต์ของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด



ขณะลงพื้นที่ ทางเจ้าของโครงการไม่สะดวกให้ทีมข่าวเข้าไปเก็บภาพด้านใน เนื่องจากเป็นเพียงบริษัทรับฝากข้อมูล ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจของ ดิไอคอนกรุ๊ป



พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษก ดีเอสไอ กล่าวว่า เมื่อวานเราได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวสำคัญ เกี่ยวกับเว็บไซต์ของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ที่นำมาฝากบนคลาวด์ แล้วใช้สถานที่แห่งนี้ เป็นที่เก็บข้อมูลของบริษัท เจ้าหน้าที่จึงได้ขออำนาจศาลอาญา เข้าตรวจค้นเพื่อรวบรวมข้อมูลไว้ ประกอบการสืบสวน

ซึ่งจากการตรวจสอบ เป็นเพียงสถานที่เช่าให้ใช้บริการฝากข้อมูลหรือ Server เก็บข้อมูลใน Cloud เท่านั้น



การตรวจค้น ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการ Backup ข้อมูล เนื่องจากมีจำนวนมากพอสมควร เบื้องต้น ตรวจสอบพบว่า มีกิจกรรมเกี่ยวกับบริษัททั้งหมด จึงคาดว่า จะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนคดี และคาดว่าจะพบข้อมูลเกี่ยวกับแม่ข่ายทั้งหมด



ส่วนจุดที่ 2 อยู่ที่ ต.ประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เป็นอาคาร 4 ชั้น ของ บริษัทเซิร์ฟริช จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท ของโค้ชแล็ป หรือ นายจิระวัฒน์ แสงภักดี 1 ใน 18 บอส ดิไอคอน ที่ถูกจับกุมเมื่อวานนี้



จุดนี้นำทีมตรวจค้นโดย ร้อยตำรวจเอกวิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดี ดีเอสไอ พร้อมเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และนิติวิทยาศาสตร์ร่วมตรวจสอบ



หลังตรวจค้น ร้อยตำรวจเอกวิษณุ กล่าวว่า โค้ชแล็ป เป็นโปรแกมเมอร์ของดิไอคอน เป็นผู้วางระบบข้อมูลหลังบ้านให้กับธุรกิจ ดิไอคอน ตั้งแต่ปี 2561 ต่อมาในปี 2563 จึงมีการเขียนโปรมแกรมและเปลี่ยนระบบใหม่ เป็นระบบที่ใช้ในปัจจุบัน



เบื้องต้น เพื่อนบ้าน บอกว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีการขนย้ายคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ออกไป แต่การตรวจค้น ก็ได้อุปกรณ์และข้อมูลสำคัญทางคดีหลายอย่าง ที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี



ร้อยตำรวจเอกวิษณุ กล่าวว่า จากประสบการณ์ทำคดีแชร์ลูกโซ่มาหลายคดี มั่นใจว่า ถ้ารู้ระบบหลังบ้าน จะทำให้เห็นความชัดเจน ในการทำธุรกิจทั้งหมดของบริษัท ส่วนเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์บางส่วนที่ขนออกไปนั้น มั่นใจว่า จะติดตามกลับมาตรวจสอบได้ทั้งหมด เพราะได้ประสานตำรวจ ไล่ดูกล้องวงจรปิด ระหว่างการขนย้ายออกไปแล้ว

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/EKV8j7cLDg4