สังคม

พ่อแจ้งความ ลูกสาววัย 22 ถูกอุ้มหาย คาดฝีมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์

โดย panwilai_c

6 ส.ค. 2567

47 views

พ่อแจ้งความลูกสาวถูกคนร้ายลักพาตัว ขณะไปรับยาให้ลูกสาววัย 9 เดือนที่โรงพยาบาล เรียกเงินที่ค้างจ่าย อ้างว่าเหลืออีก 30,000 บาท เป็นหนี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ล่าสุดไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่เพื่อนช่วยแชร์หาเบาะแสในโซเชียล



จากกรณีสื่อโซเชียลโพสต์และแชร์ตามหาหญิงสาวคนหนึ่ง ชื่อโม ถูกกลุ่มคนร้ายลักพาตัวไป ระบุว่าไม่ทำร้ายร่างกายไม่ให้อดอาหาร แต่ให้ญาติติดต่อเอาเงินสินบนมาคืน โดยระบุข้อความว่า "ขออนุญาตใช้พื้นที่นี้ตามหาเพื่อนค่ะ โมโดนจับตัวไปและโดนขังไว้ตั้งแต่วันที่ 03/08/67 ประมาณช่วงบ่าย



และมีการอัพเดตลงสตอรี่เฟซบุ๊กช่วงตี 1 ของเมื่อคืน เขาใช้คำว่า ติดสินบนแต่รายละเอียดเป็นยังไงยังไม่ทราบค่ะ เพราะติดต่อเพื่อนไม่ได้เลย มีการทิ้งเบอร์โทรไว้ และบอกว่าถ้าไม่มีญาติพี่น้องโทรไปเจรจาจะไม่มีการปล่อยตัวใดๆ แต่พอโทรไปกับเป็นเบอร์ใครก็ไม่รู้ ตอนนี้เป็นห่วงเพื่อนมาก ถ้าใครพบเห็นรบกวนติดต่อที่เฟซบุ๊กนี้ ด้วยนะคะ ตอนนี้ทางญาติมีการเข้าแจ้งความเรียบร้อยแล้วค่ะ ฝากแชร์ด้วยนะคะ"



นอกจากนี้ยังมีคลิปเสียงการสนทนาระหว่างน้องโมที่กำลังร้องไห้พูดคุยกับแม่ ซึ่งเป็นบางช่วงบางตอนบอกว่า"มันจะมาล่อให้หาคนไปเขมรได้ยังไง เราไม่ได้ทำงานให้ และ"มันเรียกมาคุยแล้วบอกให้ขึ้นรถก่อน แล้วพามาเลย" และเล่าให้ฟังว่าตอนที่ไปนั้นโมตกลงทำงานกับเขาเซ็นสัญญาเอาไว้ แต่ก็ไม่ได้ทำงาน ซึ่งแม่ก็บอกว่าเราเซ็นสัญญาแต่ไม่ได้ทำงานมันก็ไม่มีสิทธิพาเราไป และโมยังบอกอีกว่า "โมได้ยินเขาคุยกับหัวหน้าว่า ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยมันไปเลย ตอนนี้โมกลัวมันฆ่าโม" ก่อนที่สายจะตัดไป



ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายกิตติมา อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นพ่อของน้องโม หรือ นางสาวกิตติพร อายุ 22 ปี ที่ถูกลักพาตัวไป บอกว่า ก่อนลูกสาวจะหายไป เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ได้บอกทุกคนว่าจะไปรับยาของลูกสาววัย 9 เดือน ที่โรงพาบาล โดยมีย่าทวดดูแลลูกให้ ต่อมา 17.00 น. ลูกสาวได้เอาเบอร์คนอื่นโทรมาบอกว่า โทรศัพท์หาย จึงบอกว่าค่อยไปดูวงจรปิดแล้วไปแจ้งความ ก่อนจะขาดการติดต่อไป



และเมื่อวานยังมีคนแชตข้อความมาหาตนเอง ผ่านเฟซบุ๊กของลูกสาว บอกว่า "น้องติดสินบนผมไว้เมื่อ 2 ปี ที่แล้ว รถยังอยู่ไม่ทำร้าย ไม่ให้อดอาหาร จึงถามว่าติดเงินเท่าไหร่ โดยฝ่ายนั้นบอกว่าทั้งหมด 40,000 บาท น้องใช้มาแล้ว 10,000 บาท เหลืออีก 30,000 บาท และบอกว่าหลัง 18.00 น. ให้เจรจาถ้าไม่ติดต่อมาก็เตรียมรับร่างได้เลย



กระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น.ลูกสาวโทรมาน้ำเสียงคล้ายคนร้องไห้บอกว่า"ถ้าแจ้งความจะไม่ปล่อยตัว" แต่ไม่ได้บอกว่าอยู่ที่ไหน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตนไปแจ้งความพอดี เลยบอกลูกสาวไปว่า"ไม่ต้องกลัว" ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะยกเลิกข้อความทั้งหมดไป แต่เพื่อนๆ ของลูกสาวได้แคปหน้าจอเก็บไว้ได้ทัน



และก่อนหน้านี้เมื่อ 2 ปีก่อน ลูกสาวเคยเล่าให้ฟังว่า ตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ได้ทำงานเป็นแอดมินขายสินค้าออนไลน์ และบอกว่าเป็นหนี้อยู่ และล่าสุดลูกสาวกับแฟนได้ออกรถใหม่คิดว่าคนร้ายยังตามลูกสาวอยู่ ตนสันนิษฐานเอาไว้อาจจะทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์รึเปล่าที่หลอกเอาเงินคน



นายพัฒนพงษ์ อายุ 23 ปี สามีของน้องโม กล่าวว่า รู้จักกับน้องโมจนตกลงใช้ชีวิตเป็นสามีภรรยาและอยู่ด้วยกันจนมีลูก 1 คน น้องโม ไม่มีอะไรผิดปกติ และไม่เคยเห็นใครมาหา หรือมาทวงถามเรื่องอะไร และน้องโมก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร ในทุกๆ วันจะออกไปทำงานด้วยกัน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวัน วันที่หายตัว น้องโมขี่รถจักรยานยนต์ไปรับยาที่โรงพยาบาลมาให้ลูกสาวแล้วก็หายตัวไป กระทั่งทราบเรื่องจากเพื่อนของน้องโมและทราบจากพ่อตาแม่ยาย ว่าน้องโมหายไป และมีคนแชตมาพูดเรื่องหนี้สินบน จึงรู้ว่าน้องโมถูกอุ้มตัวไป จึงเป็นห่วงเมียมาก



ส่วนความคืบหน้าทางคดี ล่าสุดพ่อ และสามีน้องโม ได้เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวนที่โรงพัก เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมทั้งช่วงเวลาที่น้องโมออกจากบ้านไปรับยาที่โรงพยาบาลให้ลูกสาว และแชตที่คนร้ายใช้เฟซบุ๊กของน้องโมส่งข้อความมา



ด้าน พ.ต.ท.วิโรจน์ ภูมิเพชรฤาชา รองผู้กำกับ สภ.เมืองขอนแก่น เผยว่า การหายตัวไปของน้องโมนั้น เกิดจากการกระทำของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ยังไม่แน่ใจว่าถูกอุ้ม หรือขี่รถไปเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งได้แนะนำครอบครัวให้เก็บหลักฐานที่คนร้ายติดต่อมา และห้ามโอนเงินเด็ดขาด ขณะนี้ได้ส่งตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอยู่



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/_KKe29cu2eg

คุณอาจสนใจ

Related News