สังคม

ย่าเดือด! หลานชาย ม.3 ถูกครูชายล่วงละเมิดนาน 2 ปี ผปค.บุกถามเจอด่ากราด

โดย panwilai_c

25 มิ.ย. 2567

893 views

ผู้ปกครองร้องสายไหมต้องรอด ลูกชายวัย 15 ปี ถูกอาจารย์โรงเรียนชายล้วนชื่อดังระดับประเทศ ล่วงละเมิดทางเพศ นานกว่า 2 ปี ข่มขู่ห้ามไม่ให้บอกใคร ซ้ำร้ายยังมีพฤติกรรมซาดิสม์ ทำร้ายร่างกายเด็กหลายครั้ง จนเด็กทนไม่ไหว ตัดสินใจบอกผู้ปกครอง



มีคลิปเหตุการณ์ เมื่อวานนี้ หลังผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชายชั้น ม.3 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง เดินทางไปที่โรงเรียน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับอาจารย์ผู้ชาย ที่ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศลูกศิษย์ชายมานานกว่า 2 ปี โดยให้เด็กนักเรียนอมอวัยวะเพศในห้องเรียน รวมถึงมีการล่วงละเมิดทางเพศทางทวารหนัก และข่มขู่ห้ามไม่ให้บอกใคร



โดยทันทีที่เผชิญหน้ากับอาจารย์รายนี้ กลับมีการตอบโต้เถียงกัน ฝั่งอาจารย์ได้ท้าทายให้ไปแจ้งความ และอ้างว่าลูกตำรวจเรียนที่นี้กันเยอะ ยังไงเขาก็ไม่รับแจ้ง



ทางครอบครัวเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงตัดสินใจมาร้องขอความเป็นธรรมกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ซึ่งเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา มีการพานักเรียนชายชั้น ม.3 เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับอาจารย์ชาย ที่ สน.ทองหล่อ



ย่าของเด็ก อายุ 48 ปี รายนี้ ซึ่งยังอยู่ในอารมณ์โกรธ เล่าว่า ทันทีที่ทราบเรื่อง หลังเด็กมาสารภาพ และเล่าให้แม่ฟังว่าถูกกระทำอนาจาร ตนเองรีบเดินทางมาจังหวัดราชบุรี ตั้งใจไปหาครู อยากถามว่า ทำไมถึงทำแบบนี้ เพราะ เด็กบอกอย่างเดียวว่ากลัว เนื่องจากถูกถ่ายคลิปไว้



ตอนหลังอาจารย์เริ่มมีพฤติกรรมซาดิสม์ ทำร้ายร่างกายเด็กหลายครั้ง กระชากผมเด็ก ตบ จนเด็กทนไม่ไหว จึงตัดสินใจนำเรื่องมาบอกผู้ปกครอง เพื่อพาเข้าแจ้งความดำเนินคดี



ย่าเด็กยังบอกอีกว่า ถูกครูด่ากลับมาใส่ญาติๆว่า “Eกะ...” และมีการตอบโต้กับผู้ปกครอง อ้างว่า กระทำไปแล้ว จะกลับคืนมาได้ไหม



เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นในห้องดนตรีซึ่งเป็นห้องของเขาแล้วถ่ายลงมือถือ แล้วเด็กก็กลัว



ยืนยันว่า ตนเองไม่เอาคุณครูไว้ และคิดว่าถ้าคดีนี้ปล่อยไป เค้าจะไปทำกับคนอื่น ซึ่งหลานบอกกับตนว่าให้จบที่ตนเองคนเดียวยืนยันว่าจะไม่เอาหลานออกจากโรงเรียนเพราะหลานไม่ได้ทำอะไรผิด



ย่าเด็ก บอกว่า ไม่กล้าฟันธงข้อมูล แต่จากที่หลายเล่าอาจจะมีเด็กคนอื่นโดนแบบเดียวกันด้วย



ย่าบอกว่า เบื้องต้น ผอ. โรงเรียน รับรู้แล้ว และจะเคลียร์ให้ แต่จะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ซึ่งตนเองมองว่านานเกินไป เมื่อเทียบกับความเจ็บปวดของหลาน ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าที่ผ่านมาทางโรงเรียน หรือคุณครูท่านอื่นใครทราบเรื่องนี้หรือไม่



ขณะที่แม่เด็ก เปิดเผยว่า ครูที่ก่อเหตุเป็นครูสอนดนตรี และลูกชายเคยอยู่ในวงดนตรี เป็นเด็กกิจกรรม ซึ่งทันทีที่ทราบข่าวก็รู้สึกเสียใจที่คุณครูทำแบบนี้ ลูกชายเคยบอกคร่าวๆ แล้ว แต่ตนไม่เคยปักใจเชื่อ คิดว่าหยอกเล่น แต่พอจบ ม. 2 แล้วเด็กอยากจะออกจากวงดนตรี เพราะทนไม่ไหว



พอเด็กหลุดพ้นจากตรงนั้นมา ครูกลับมาโวยวายประจานเด็กให้เด็กอับอาย และฉุดกระชากเด็กไปคุย โดยอ้างว่าให้ไปทำงานให้ แต่ท้ายสุด และให้ไปคุยกันสองคน



ตนเองเคยสอบถามว่าทำไมทำกับลูกตนเองแบบนี้ และเหตุเกิดในห้องดนตรี มีเศียรครูไม่กลัวเลยเหรอ ซึ่งคุณครูไปรับสารภาพแล้วบอกว่าขอโทษ



จากที่ตนเองสอบถามลูกชาย ทราบว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศที่ทวารหนัก แต่น้องบอกไม่ไหว ครูก็เลยให้ทำอย่างอื่นแทน หลังจากนั้นก็ให้เด็กใช้ปากสำเร็จความใคร่ให้ ตั้งแต่เข้าวงดนตรี ตอนอยู่ชั้น ม. 2



เคยถามเด็กว่าทำไมถึงยอม เพราะถูกบังคับเรื่อยๆ และถูกครูถ่ายคลิปเอาไว้ ซึ่งแม่ยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และตอนนี้คุณครูยังคงสอนตามปกติ



ด้านนายเอกภพ บอกว่าได้ประสานกับทาง ผกก.สน. ทองหล่อเพื่อแจ้งความ และให้พนักงานสอบสวนเก็บพยานหลักฐาน และอีกส่วนหนึ่งจะประสานไปที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้ลงมาดูเรื่องนี้ อย่างน้อยๆ ต้องให้คุณครูพักการเรียนการสอน ส่วนคดีอาญาก็ควบคู่กันไป



ขณะที่ พันตำรวจเอก พันษา อมราพิทักษ์ ผู้กำกับการสน. ทองหล่อ เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะดำเนินการสอบปากคำแม่ของผู้เสียหาย พร้อมทั้งประสานสหวิชาชีพเข้ามาร่วมสอบปากคำผู้เสียหาย เนื่องจากผู้เสียหายยังเป็นเยาวชนอายุ 14 ปี และจะส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจเพื่อนำผลนิติทางวิทยาศาสตร์มาประกอบสำนวนในคดี โดยยืนยันว่าถึงแม้โรงเรียนดังกล่าวจะเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงระดับประเทศก็ไม่ได้ทำให้ตำรวจหนักใจหรือเป็นอุปสรรคในการทำคดีแต่อย่างใด



สำหรับครูคนดังกล่าวเป็นครูที่สอนวิชาดนตรีซึ่งสอนที่โรงเรียนแห่งนี้มานานกว่า 8 ปี และโรงเรียนดังกล่าวเป็นโรงเรียนรัฐบาลที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ



ส่วนนี่เป็นแชทข้อความทางไลน์ มีการสนทนาระหว่างผู้ปกครองของผู้เสียหายกับคุณครูท่านหนึ่งที่เข้ามาช่วยเจรจา โดยผู้ปกครองได้ส่งข้อความไปถามว่า เราสมควรแจ้งความไหมคะ ซึ่งคุณครูคนดังกล่าวมีการส่งข้อความกลับมาว่า มี 2 กรณี ที่ผู้ปกครองต้องตัดสินใจ 1. ใกล่เกลี่ยครูชดใช้ค่าทำขวัญให้นักเรียนตามที่ตกลง ครูได้เป็นครูต่อ หรือ 2. ผู้ปกครองแจ้งความกับตำรวจ (เป็นคดีอาญา ติดคุก) ในส่วนโรงเรียนดำเนินเรื่องวินัยร้ายแรง โทษให้ออกจากราชการการ ผู้ปกครองปรึกษากันแล้วรีบให้คำตอบผมครับ เพื่อนัดคุยกันอีกครั้ง



ผู้ปกครองก็พิมพ์ตอบกลับไปว่า แล้วแน่ใจได้ไงคะว่าคุณครูเป็นครูต่อแล้วจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกจะมีข้อยืนยันได้ยังไงคะ



จากนั้นคุณครูคนดังกล่าวตอบข้อความสุดท้ายกลับมาว่า ถ้าผู้ปกครองเลือกทางเลือกที่ 1 คือไกล่เกลี่ย ก็สามารถเรียกค่าทำขวัญตามที่ผู้ปกครองเห็นควรได้เลยครับ ผมจะนัดทั้งคุณครูดนตรีท่านนี้ และผู้ปกครอง พร้อมด้วยทั้งผู้อำนวยการ หัวหน้าระดับและคุณครูที่ปรึกษาที่นักเรียนมาพูดคุยพร้อมกันแล้วทำข้อตกลงใกล่เกลียพร้อมเรืองค่าทำขวัญครับ แล้วอบรมว่ากล่าวตักเตือนแล้วจะดูว่า ณตอนนั้นคุณครูจะสำนึกผิดไหมครับ



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/zTuQjghWQU4

คุณอาจสนใจ

Related News