อีกมุม! เจ้าของร้านแจงปาเก้าอี้ใส่รถแห่ เหตุเสียงดังรบกวน ในบ้านมีคนป่วย ออกไปคุยดีๆ แล้วแต่เขาไม่ฟัง

ดรามารถแห่งานบวชโพสต์ว่าชาวบ้าน ไม่มีน้ำใจ ด่ารถแห่เสียงดัง ปาเก้าอี้ใส่ ทั้งที่จัดงานแค่วันเดียว ด้านเจ้าของร้านวัสดุแจง ไม่ได้ห้ามเสียงดัง แค่ขอให้รีบผ่านไป เพราะในบ้านมีคนป่วย 2 คน แต่หลังงานจบ คู่กรณีไม่จบ ขี่มอเตอร์ไซค์มาปาของขวดแก้วใส่ร้าน จึงแจ้งความผิดตามกฎหมาย



เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ โพสต์คลิปเหตุการณ์กลุ่มรถแห่งานบวช ทะเลาะกับเจ้าของร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง อย่างดุเดือด โดยเฉพาะฝั่งรถแห่นาค ได้พูดประกาศผ่านไมค์ และเดินเข้าไปต่อว่าเจ้าของร้านวัสดุก่อสร้าง อย่างเผ็ดร้อนด้วย เช่น ไม่มีน้ำใจ ของแบบนี้มีปีละครั้ง ลูกมึงไม่บวชบ้างให้มันรู้ไป



ขณะที่เจ้าของคลิป ยังได้ระบุข้อความ "สงสารเจ้าภาพนะ กับงานแค่วันเดียว มุมของร้านค้าเขาอาจจะไม่ชอบเสียงดัง เหตุมันเลยเกิด พวกผมไปสร้างความสนุกไห้เจ้าภาพ ไม่ได้มีเจตนาจะไปรบกวนท่าน แต่ท่านจะเอาเก้าอี้มาปาพวกผม และมายืนชี้นิ้วด่าแบบนี้ ไม่ได้นะครับ อยากให้คุณป้าคุยดี ๆ กับพวกผมหน่อย พวกผมแค่มาสร้างความสนุกให้กับเจ้าภาพ เจ้าภาพเขาจัดงานแค่วันเดียว ไม่ได้จัดงานแบบนี้ทุกวัน สงสารเจ้าภาพเลย #รถแห่วาเลนไทน์ #นิวนิวแบนด์ #ที่นี่ช่องแคตาคลี



ผู้สื่อข่าวได้ไปคุยกับเจ้าของคลิป ซึ่งเป็นนักร้องประจำวงดนตรี ในพื้นที่อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ชื่อ นายมาร์ค อายุ 27 ปี เผยว่า เหตุเกิดช่วงเช้าของวันที่ 17 มีนาคม วงดนตรีของตนถูกว่าจ้างให้ไปร้องนำในขบวนแห่นาค จึงได้นำรถบรรทุกติดเครื่องขยายเสียงไปร่วมงานแห่ ซึ่งตั้งขบวนแห่จากบ้านงาน พานาคไปเข้าพิธีอุปสมบทที่วัดช่องแค ห่างจากบ้านประมาณ 3 กิโลเมตร



ตนเองก็ร้องเพลงอยู่บนท้ายรถบรรทุก เพื่อทำหน้าที่สร้างความบันเทิงให้แก่ผู้มาร่วมขบวน แต่เมื่อขบวนกำลังจะผ่านหน้าร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ซึ่งอยู่บริเวณวงเวียนช่องแค จู่ๆ ผู้หญิงเจ้าของร้านเดินเข้ามาชี้นิ้วต่อว่า แล้วก็เดินกลับไปหยิบเก้าอี้พลาสติก มาเขวี้ยงใส่ที่รถเครื่องขยายเสียง จนต้องหยุดร้องเพลง และเบาเสียงเพลงทันที



แล้วเจ้าของร้านคนเดิม ก็ยังเดินเข้ามาต่อว่าอีกรอบ บอกให้หยุด และให้ไปส่งเสียงเล่นดนตรีกันที่อื่น เนื่องจากมีคนป่วยเป็นโรคหัวใจ จากนั้นเจ้าภาพงานแห่ จึงเข้าไปพูดคุยแล้วมีปากเสียงกับผู้หญิงเจ้าของร้าน ตามที่เห็นในคลิปก่อน แล้วก็มาบอกให้ร้องเพลงต่อไม่ต้องสนใจอะไร เพราะเขารับปากจะรับผิดชอบเอง ตนจึงต้องปฏิบัติหน้าที่ที่ถูกจ้างงานต่อไปจนถึงวัด



สิ่งที่เขาต่อว่า ตนเข้าใจ แต่อยากให้เขาเข้ามาบอก เข้ามาคุยดีดีมากกว่า ที่จะเข้ามาชี้หน้าต่อว่า และมาปาของใส่รถ มันถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติกันเลย แล้วอีกอย่าง ขบวนแห่ก็กำลังจะเคลื่อนผ่านหน้าร้านของเขาไปอยู่แล้ว และใช้เวลาไม่นาน ประกอบกับงานแห่งานบวชแบบนี้ ไม่ได้มีการจัดกันทุกวัน เพราะนาน ๆ จะจัดกันที ก็ไม่น่าจะแล้งน้ำใจกันแบบนี้เลย หลังเกิดเรื่องทราบว่า เจ้าของร้านเขาไปแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าภาพงานด้วย แต่ไม่รู้ว่าแจ้งข้อหาอะไร



ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าภาพงานบวช แต่เจ้าภาพไม่ขอให้สัมภาษณ์ เพราะได้เจรจากับคู่กรณี ไปบ้างแล้ว จึงไม่อยากมีปัญหาต่อ จากนั้นผู้สื่อข่าวไปพบกับเจ๊หน้อย เจ้าของร้านวัสดุก่อสร้าง บอกว่า ยอมรับที่โยนเก้าอี้พลาสติกใส่รถแห่งานบวชนาค เพราะเดินไปพูดขอร้องกันดีดีแล้ว ว่าให้ลดเสียงลงหน่อยได้ไหม หรือให้ขับผ่านไปไว ๆ ได้ไหม เพราะที่บ้านมีคนป่วย 2 คน คือ ตนเองป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และสามีก็ป่วยด้วยโรคหัวใจเช่นกัน แต่ไม่มีใครฟังกันเลย ซึ่งรถบรรทุกขนาดใหญ่ ติดเครื่องขยายเสียง แล้วเสียงมันดังมาก ๆ ดังจนกระจกทุกบานในบ้านสั่นสะเทือนไปหมด ไปฟังเสียงช่วงนี้



ด้วยความเป็นห่วงสามี จึงได้เดินเข้าไปบอกกับทางเจ้าภาพงาน โดยขอให้เขาลดใช้เสียงลงหน่อย รอบแรกยังไม่มีความเปลี่ยนแปลง จึงเดินออกไปอีกรอบ คราวนี้ไปบอกคนขับรถบรรทุก แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับ ครั้งที่สามจึงเดินไปที่ข้างรถ เพื่อจะบอกกับนักร้อง ก็ไม่ได้รับความสนใจ เพราะเสียงมันดังมาก จึงหยิบเก้าอี้โยนออกไป แต่ก็ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายใคร แค่ต้องการให้เขาหยุด มาฟังสิ่งที่ตนร้องขอ ซึ่งมันก็ได้ผล พวกเขาเฮโลกันเข้ามารุมต่อว่าที่หน้าร้าน ตามคลิป ทำให้ตนกลัว จึงปาแผ่นกระดาษไปเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น



จากนั้นคิดว่าเรื่องมันคงจบ เพราะรถแห่ได้ผ่านไปแล้ว หลังจากเข้าไปนั่งในร้าน ก็ได้ยินเสียงคล้ายกระจกแตก ที่บริเวณหน้าร้าน จึงได้รีบออกไปดู ก็เห็นเศษแก้วของขวดเบียร์ยี่ดัง แตกเต็มพื้นไปหมด ตั้งแต่หน้าร้านเข้ามาถึงในร้าน จึงรีบไปเปิดกล้องวงจรปิดเช็คดู พบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชาย 2 คน ขี่มอเตอร์ไซค์สีแดง มีคนซ้อนท้าย ใส่เสื้อสีขาว เป็นคนนำขวดเบียร์มาขว้าจากถนนฝั่งตรงข้ามร้าน จึงไปแจ้งความในเรื่องนี้ พร้อมยืนยันไม่ได้มีปัญหาเรื่องงานการจัดงานบวช และจะไม่ขอพูดอะไรแล้ว ค่อยไปเจอกันที่ศาลทีเดียว



ด้านนายภัทรเดช หลักทรัพย์ นายกเทศมนตรีช่องแค เผยว่า ส่วนตัวขอไม่ชี้ชัดว่าใครเป็นคนผิด และเข้าใจเหตุผลของทั้ง 2 ฝ่าย แต่มองว่า ในสถานการณ์แบบนี้ ฝ่ายเจ้าภาพน่าเคลื่อนขบวนไปให้เร็วที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจะดีกว่า ส่วนเรื่องที่คนในคลิปได้พูดผ่านเครื่องขยายเสียง ต่อว่าเจ้าของร้านวัสดุก่อสร้าง และพูดจาท้าทาย พร้อมอวดสรรพคุณว่า เป็นทนายนั้น ตนยอมรับว่ารู้จักกับคน ๆ นี้ เขาอยู่ในพื้นที่ตำบลอื่น ไม่ได้อยู่ตำบลช่องแค และก็ไม่ได้เป็นทนายตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/qUhln2aUyLE