สังคม

'โอ๊ต พราด้า' อดีตจำเลยคดีโกงสจล. ร้องยธ. หลังติดคุกฟรี-ทรัพย์หาย 8 ล้าน

โดย panwilai_c

16 ส.ค. 2566

231 views

คดีทุจริตเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. กว่า 1,600 ล้านบาท เมื่อปี 2557 ได้ไหม ล่าสุดมีผู้ถูกกล่าวหาบางคนศาลพิพากษายกฟ้อง และ 1 ในนั้น คือ โอ๊ต พราด้า ที่ออกมาปีกว่าแล้ว แต่ปรากฏว่าทรัพย์สินและเงินสดที่โดนอายัดกว่า 8 ล้านบาท หายไป ติดตามคืนไม่ได้



นาย ภาดา บัวขาว หรือโอ๊ต พราด้า อดีตจำเลยในคดีนี้ เปิดเผยว่า ถูกโยงเข้าไปเกี่ยวข้องคดีนี้ เนื่องจากได้รับการว่าจ้างมาจากนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด หนึ่งในผู้ต้องหารายสำคัญของคดี สจล. ให้มาจัดงานอีเวนต์โปรโมตสินค้าในราคา 7 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัย หรือการยักยอกเงินมหาวิทยาลัย แต่ก็ตกเป็น 1 ใน 14 ผู้ต้องหาที่ถูกจำคุก และไม่ได้รับการประกันตัว



โอ๊ต พราด้า ถูกตำรวจกองปราบจับในข้อหายักยอกทรัพย์ เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2558 ซึ่งเขาต่อสู้คดีมาตลอด กระทั่งวันที่ 25 ธันวาคม 2561 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่มีการอุทธรณ์ จนวันที่ 17 สิงหาคม 2565 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น "ยกฟ้อง" และไม่มีการยื่นฎีกาต่อ ทำให้เขาพ้นข้อกล่าวหา แต่ต้องติดคุกฟรีไป 4 ปี 8 เดือน



หลังจากออกจากเรือนจำมาแล้ว ไปยื่นขอทรัพย์สินที่ถูกอายัดคืน รวม 43 รายการ มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ทั้ง กระเป๋าแบรนด์เนมกว่า 10 ใบ นาฬิกาหรู 3 เรือน สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท กำไลเงิน สร้อยพระเหลี่ยมทอง แหวนเพชร แหวนทองคำขาว ก็ไม่ได้รับคืน และเงินในบัญชี กว่า 8 แสน 7 หมื่นบาท ถูกถอนออกจากบัญชี ไปตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564



เมื่อสอบถามธนาคารก็อ้างว่าให้ไปติดต่อ ปปง. พอสอบถาม ปปง. บอกให้ไปคุยกับ สรรพากร สุดท้ายสรรพากรบอก "กำลังตรวจสอบอยู่" แต่จนถึงวันนี้จะครบ 1 ปีที่พ้นโทษ ก็ยังไม่มีความชัดเจนของทรัพย์สินที่สูญหายไป



ยังไม่นับความสูญเสียทางใจที่เกิดขึ้นที่ต้องอยู่ในเรือนจำ ลูกถูกล้อจนต้องไปเรียนที่ต่างประเทศ ทำให้คิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง และเมื่อพ้นโทษมาก็ไม่สามารถประกอบธุรกิจออแกไนซ์เหมือนที่เคยทำได้ เพราะเสียชื่อเสียงไปหมดแล้ว



ล่าสุดเขาให้ทนายความฟ้องกลับองค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในคดีนี้ที่มีส่วนทำให้ทรัพย์สินตนสูญหายไป ส่วน สจล. ที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเขาหากจะมาเจรจาเยียวยาก็ยินดี



กรมคุ้มครองสิทธิฯ จะจ่ายเงินทดแทนระหว่างถูกคุมขังวันละ 500 บาท ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ ตามอัตราค่าแรงขั้นต่ำ และค่าจ้างทนายความไม่เกิน 100,000 บาท ให้กับผู้เสียหายในคดีอาญาที่ศาลพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็น "ผู้บริสุทธิ์"



ส่วนทรัพย์สินของกลางที่หายไป ทางกระทรวงได้รับเรื่องเอาไว้และจะให้ผู้เสียหายรวบรวมเอกสารทรัพย์สิน มายื่นในภายหลัง เพื่อช่วยเร่งรัดติดตามทรัพย์สินกลับคืนมา



สำหรับคดีนี้มีผู้ถูกกล่าวหาและตกเป็นจำเลย 14 คน ล่าสุดศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 5 คน คือ นายทรงกลด ศรีประสงค์ อดีตผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด มหาชน สาขาบิ๊กซีสุวินทวงศ์ / นางสาว อำพร น้อยสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการส่วนการคลัง / นายพูนศักดิ์ บุญสวัสดิ์ / นางระดม มัทธุจัด และนาย กิตติศักดิ์ มัทธุจัด ที่เหลือพิพากษายกฟ้อง


https://youtu.be/3ect2ah5gZ0

คุณอาจสนใจ

Related News