สังคม
'วิโรจน์' มองปม 'หยก' ควรหารือสร้างสรรค์ ชี้เด็กทุกคนควรได้เรียนหนังสือ
โดย panwilai_c
16 มิ.ย. 2566
101 views
หยก เยาวชนวัย 15 ปี ปีนหน้าต่างเข้าโรงเรียนได้สำเร็จ หลังพยายามปีนรั้วมา 2 วัน และได้เข้าเรียนช่วงบ่าย โดยมีตัวแทนสมาคมผู้ปกครองมาดู และไม่ได้กดดันให้ออกจากห้องเรียน
ความคืบหน้ากรณีหยก ที่ปีนรั้วเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการมาแล้ว 2 วัน ปรากฏว่าวันนี้ โดยเพจ "ไข่แมวชีส" รายงานว่า เวลา 07.40 น. หยก ซึ่งวันนี้แต่งกายด้วยชุดไปรเวต เดินทางถึงโรงเรียน ยามโรงเรียนและอาจารย์ได้ล็อกประตูรั้วปิด ก่อนที่หยกจะเดินเข้าประตูด้านข้างที่เปิดไว้ อาจารย์ขู่จะแจ้งความบุกรุก และขวางประตูไว้ หยกจึงตัดสินใจกระโดดเข้าทางหน้าต่าง
ต่อมาเวลา 08.00 น. มีตำรวจในและนอกเครื่องแบบเข้าไปในโรงเรียน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท้ายที่สุด หยก สามารถหาทางเข้าโรงเรียนได้สำเร็จ
ขณะที่เพจ ทะลุวัง โพสต์คลิปช่วงจังหวะที่หยกปีนเข้าหน้าต่าง ในช่วงที่บุ้ง ผู้ปกครองของหยก พยายามเจรจากับชายคนหนึ่งอยู่ พร้อมระบุข้อความว่า "วันนี้เจ้าหยกไม่ได้ปีนรั้วโรงเรียน แต่ "ปีนหน้าต่าง" เข้าแทน ขอให้วันนี้เจ้าหยกได้เรียนหนังสืออย่างสงบสุขนะ #saveหยก"
คุณชญตร์ มุกดาหาร สอบถามไปยัง "บุ้ง" เนติพร ที่บอกว่าตัวเองเป็นผู้ปกครองของ หยก ว่า เหตุชุลมุนช่วงเช้า เกิดขึ้นเพราะโรงเรียนไม่ยอมให้หยกเข้าเรียน เพราะเป็นบุคคลภายนอก อาจเข้าข่ายบุกรุก แต่หยกอาศัยจังหวะอยู่ในห้องประชาสัมพันธ์ ปีนหน้าต่างเข้าไป
เมื่อเข้าไปในโรงเรียนแล้ว หยก ไปนั่งรอเพื่อจะเข้าเรียน แต่ว่าช่วงเช้ามีการซ้อมกีฬาสี เลยยังไม่มีคาบเรียน ระหว่างนั่งรอ หยก อ้างว่ามี รอง ผอ.มาแจ้งว่า ให้ออกมาคุยกันก่อน แถวๆประตูรั้ว แต่พอหยกไปถึงกลับไม่พบ รอง ผอ. หยกเลย งง ว่าเกิดไรขึ้น จึงตัดสินใจไม่คุย แล้วกลับไปนั่งรอเพื่อเรียนในคาบบ่าย
และตลอดการเข้าเรียน หยกบอกว่า มีตัวแทนสมาคมผู้ปกครองมาดู แต่ไม่มีการกดดันให้เธอออกจากห้อง และตอนนี้ (15.30 น.) น้องยังเรียนอยู่ตามปกติ
ล่าสุด สภาผู้ปกครองและครูแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ กรณีเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมต่อสังคมในยุคของการเปลี่ยนแปลง ระบุว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารตามสื่อต่างๆ และช่องทางโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับเยาวชนที่กำลังเป็นที่สนใจในสื่อเทคโนโลยีขณะนี้ สภาผู้ปกครองและครูแห่งประเทศไทย ในฐานะองค์กรทางวิชาชีพ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษาในสถานศึกษา สร้างความรู้ความเข้าใจกับผู้ปกครองในการดูแลบุตรหลาน ให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ รวมถึงการให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ คุ้มครองเด็ก เยาวชนและสร้างความร่วมมืออันดีระหว่างครู ผู้ปกครองในการพัฒนาผู้เรียน
สภาวการณ์ของสังคมโลกปัจจุบันในยุคของเทคโนโลยี เศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง สังคม วัฒนธรรมและจารีตประเพณี ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อการพัฒนาทั้งด้านทักษะชีวิต การเมือง การศึกษา อารยธรรมใหม่ เครือข่ายทางสังคม โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีและการติดต่อสื่อสารที่มีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดเป็นโลกที่ไร้พรมแดน
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ ก็เกิดความถดถอยขึ้นในบางส่วนของสังคมได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ สภาผู้ปกครองและครูแห่งประเทศไทยตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่ทุกคนเผชิญอยู่ โดยเฉพาะกลไกทางการศึกษา จึงมีความห่วงใยต่อเยาวชนอย่างยิ่ง กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยความรัก ความเอื้ออาทรของผู้ใหญ่ที่มีต่อเด็ก ที่อยากจะเห็นเยาวชนทุกคนได้เรียนรู้และเข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่น เข้าใจในสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบ รู้จักแยกแยะ และคิดวิเคราะห์ได้อย่างมีวิจารณญาณ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์นำไปใช้ให้เกิดสิ่งที่ดีงาม สามารถอยู่กับโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างมีความสุข
สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง คือ ไม่อยากให้เยาวชนทุกคน เป็นเสมือนนกน้อยในกรงทองของใคร หรือเป็นว่าวที่ล่องลอยในนภากาศ ซึ่งเป็นความคิด ความเข้าใจโดยขาดข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจน เปรียบได้กับโลกเสมือนจริงที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด
ขณะที่หลายประเทศเน้นวินัยสร้างชาติ พัฒนาคุณภาพการศึกษา และพัฒนาประเทศได้รวดเร็ว ประเทศที่อิสระ เขาก็เคารพในสิทธิเสรีภาพของคนอื่นด้วย มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อสังคม เยาวชนทุกคนในยุคของการเปลี่ยนแปลงยังมีอนาคตอีกยาวไกล อยากให้เรียนรู้ประสบการณ์ในโลกว้างอย่างถ่องแท้ ให้เห็นคุณค่าของตนเอง เห็นคุณค่าของผู้อื่น รู้จักสิทธิ เสรีภาพ การมีเสรีภาพเป็นสิ่งที่ดีแต่ต้องมาพร้อมกับสิทธิ สิทธิของตัวเองและของผู้อื่น ที่อยู่ภายใต้กฎหมายกำหนดที่เรียกว่าสังคมที่มีกฎระเบียบ และที่สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือ หน้าที่ที่รับผิดชอบต่อตนเอง ต่อสังคม
สภาผู้ปกครองและครูแห่งประเทศไทย ขอให้กำลังใจกับผู้บริหาร ครูทุกคนที่รักเมตตาและเอาใจใส่ต่อเด็กด้วยสำนึกและจรรยาบรรณของความเป็นครู ขอชื่นชมสภานักเรียน และนักเรียนทุกคนที่มีทัศนคติเชิงบวก มองอย่างเข้าใจจนเกิดการเรียนรู้ ขอแสดงความเห็นใจต่อผู้บริหาร ครูทุกท่านที่มีความอดทน ดูแลนักเรียนอย่างดีด้วยสำนึกของความเป็นครู รวมถึงผู้ปกครองที่เกี่ยวข้องของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ
ในวิกฤตและโอกาสที่สำคัญในครั้งนี้ สภาผู้ปกครองและครูแห่งประเทศไทย มีความเชื่อมั่นว่า การศึกษาคือความเจริญงอกงาม ทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ สังคม จึงขอวิงวอนผู้ปกครองทุกท่าน ร่วมกันสร้างครอบครัวที่อบอุ่นด้วยการดูแล เอาใจใส่ อบรมสั่งสอน สร้างให้บุตรหลานเป็นคนที่มีอารมณ์ จิตใจเบิกบาน แจ่มใส มีคุณธรรมประจำใจ เห็นคุณค่าของตนเองและผู้อื่น รับผิดชอบต่อตนเอง สังคมและประเทศไทยของเราสืบไป
จึงแถลงการณ์มาด้วยความรู้สึกห่วงใยและปรารถนาดีต่อโรงเรียน ผู้บริหาร ครู นักเรียน และผู้ปกครอง ทุกท่าน
นายอัมพร พินะสา เลขาธิการ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือกพฐ. กล่าวว่า ถึงวันนี้ ถ้าน้องหยก เยาวชนนักเคลื่อนไหว ยังต้องการเข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ก็ยังมีที่ว่างให้กลับเข้าเรียนได้ แต่ต้องปฏิบัติตามระเบียบของโรงเรียน ที่ผ่านมาทำประชาพิจารณ์สอบถามความคิดเห็นจาก 3 ส่วน คือ ครู นักเรียน และผู้ปกครอง ออกมาเป็นกฎระเบียบที่ใช้ร่วมกันในโรงเรียนให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข
แต่ถ้าน้องหยก ไม่ต้องการทำตามกฏกติกา ก็สามารถมีทางเลือกเรียนได้ ทั้ง การศึกษานอกระบบ และเรียนด้วยตนเองที่บ้าน หรือ Home School
ทั้งนี้ก่อนหน้า ทางโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการได้ ชี้แจงสถานะน้องหยกว่า ไม่ได้เป็นนักเรียน ม.4 ของโรงเรียนแล้ว เพราะไม่ได้มอบตัวพร้อมกับผู้ปกครอง ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่โรงเรียนยืดหยุ่นให้ อีกทั้งไม่ปฏิบัติตามกฎของโรงเรียน ทั้งเรื่องแต่งกายและการทำสีผม
ด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีของ หยก เยาวชนอายุ 15 ปีที่มีปัญหา ถูกทำให้พ้นสภาพความเป็นนักเรียน ว่า การหาทางออกด้วยการพูดคุยกันอย่างสร้างสรรค์ เป็นทางออกที่ถูกต้องแล้ว การนำข้อมูลคนละอย่างมาพูดกันตนว่าไม่เกิดประโยชน์ แต่เชื่อว่าทุกคนพยายามทำให้นักเรียนรวมถึงหยก ได้เรียนอยู่แล้ว ติดขัดตรงไหนก็ต้องคุยกัน
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/REhW3_T6kes