สธ.เผยตัวเลขผู้ติด 'โอมิครอน' ในไทย พุ่งขึ้น 740 คน ใน 33 จังหวัด กทม.พบมากสุด 277 คน

กระทรวงสาธารณสุขเฝ้าระวังคลัสเตอร์ใหญ่โอมิครอน ที่จ.กาฬสินธุ์ ที่ล่าสุดติดเชื้อกว่า 200 คนแล้ว ขณะที่ภาพรวมทั่วไทย มีผู้ติดเชื้อโอมิครอนลามไม่หยุดพุ่ง 740 คน ใน 33 จังหวัด ในจำนวนนี้ติดเชื้อเฉพาะในประเทศ 19 จังหวัด โดยเขตที่ 13 พื้นที่ กทม.พบมากที่สุด 277


นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงว่า จากการถอดรหัสสายพันธุ์โควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พบว่า ในไทยมีผู้ติดโอมิครอนเพิ่มขึ้น โดยช่วง 2 วันนี้ เพิ่มขึ้นค่อนข้างรวดเร็ว


มีผู้ติดเชื้อโอมิครอนสะสมแล้ว 740 คน แบ่งเป็น ผู้เดินทางจากต่างประเทศ 489 คน และ การติดเชื้อในประเทศ 251 คน ซึ่งล้วนเกี่ยวโยงกับผู้ที่เดินทางเข้าไทยทั้งสิ้น


โดยมีผู้ติดโอมิครอนใน 33 จังหวัดแล้วในขณะนี้ (แต่ติดเชื้อภายในประเทศ 19 จังหวัด) /พบเกือบทุกเขตสุขภาพ 1-13 ยกเว้นเขตสุขภาพที่ 2 (คือ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ สุโขทัย และตาก) โดยเขตที่ 13 พื้นที่ กทม.พบมากที่สุด 277 คน /ซึ่งคลัสเตอร์ใหญ่ที่สุด คือ กาฬสินธุ์ที่มี 200 กว่าคน กระจายหลายจังหวัด



- ด้านนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในระบบเทสต์แอนโก จากที่พบผู้ติดเชื้อโอมิครอน 0.8 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นถึง 0.29 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเพิ่มขึ้น 3.6 เท่า (โดย 2 ใน3 มาจากต่างประเทสและ1ใน3 สัมผัสกับผู้มาจากต่างประเทศ) พร้อม คาดการณ์การติดเชื้อจะเพิ่มมากขึ้น โดยหลังปีใหม่จึงต้องมีมาตรการเพิ่ม โดยขณะนี้กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนมี 10 เปอร์เซ็นต์


ส่วนทั้งประเทศตอนนี้ฉีดวัคซีนไปแล้ว103 ล้านคน และพบว่าฉีดกระตุ้นเข็ม 3 มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 9 เปอร์เซ็นต์


นพ.โอภาส กล่าวว่า ได้จับตาคลัสเตอร์ใหญ่โอมิครอนจ.กาฬสินธุ์ ที่มีผู้ติดเชื้อลุกลามไปหลายจังหวัดในภาคอีสาน (อุดรธานี มหาสารคาม ขอนแก่น ร้อยเอ็ด หนองบัวลำภู สกลนคร ) และภาคเหนือ ที่จ.ลำพูน เรียกว่า ซุปเปอร์สเปรดเดอร์ จากข้อมูลกรมควบคุมโรคพบ มีผู้ติดเชื้อถึง 248 คน


พร้อมกันนี้ ได้ยกตัวอย่าง จุดที่แพร่ระบาด และเป็นปัญหาคือร้านอาหาร ที่ติดกันจำนวนมาก เพราะเป็นสถานที่อับ ไม่ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด แม้พนักงานจะได้ฉีดวัคซีน แต่ไม่ตรวจATK และมีดนตรี อีกทั้งไม่จำกัดคนเข้าร้าน จึงติดเชื้อทั้งหมด


ทั้งนี้ ยังมีคลัสเตอร์ นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกทม.ที่ติดเชื้อมากถึง 52 คน จากไปใช้บริการร้านอาหารที่ให้ดื่มสุราในร้านได้ ในห้องปรับอากาศ ระหว่างวันที่ 8-14 ธันวาคม เมื่อไปสอบสวนโรคพบว่าเชื้อโควิดอยู่ในช่องแอร์ 2 เครื่อง ถือว่าไม่ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข จึงยกเป็นอุทาหรณ์ ร้านอาหารที่ไม่ปลอดภัยไม่ควรไป


วันนี้กรุงเทพมหานคร ออกประกาศ สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 48 ) ลงนามโดยผู้ว่าฯอัศวิน ขวัญเมือง เพื่อป้องกันโควิดระบาดในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยปิดสถานบันเทิงต่อไป จนถึงวันที่ 15 มกราคม 2565 หากพบฝ่าฝืนมีความผิดตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ มาตรา 51 ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท /หรือมาตรา 52 จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/LWwEsyHH6Yo