ควบคุมโรค ชี้คู่รักติดโควิดขึ้นเครื่องลงนครศรีฯ เข้าข่ายจงใจแพร่เชื้อ สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินคดี

อธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยสารเครื่องบินกลับจังหวัดนครศรีธรรมราชเข้าข่ายจงใจแพร่เชื้อ มอบหมายหน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมาย

กระแสเรียกร้องให้หน่วยงานดำเนินคดีเอาผิดผู้ติดเชื้อโควิดโดยสารเครื่องบินกลับจ.นครศรีธรรมราชทั้งที่รู้ผลว่า ติดเชื้อแล้ว สร้างความเสียหายในหลายภาคส่วน ล่าสุดนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดของนครศรีธรรมราชตรวจสอบรายละเอียดพร้อมหารือประสานกับพื้นที่ควบคุมโรคของกทม.ถึงแนวทางดำเนินการ ซึ่งหากพบว่ามีเจตนาปกปิดข้อมูลหรือจงใจแพร่เชื้อก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายได้ รวมถึงหากเจ้าพนักงานควบคุมโรคมีคำสั่งให้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้ว แต่ไม่ยอมปฏิบัติตามกลับเดินทาง ต้องให้พื้นที่สอบถามถึงเหตุผล ก่อนเอาผิดตามกฎหมายได้ โดยโทษมีทั้งปรับและจำคุก

ขณะที่ นพ.จรัสพงษ์ สุขกรี สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แถลงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่า ผู้ติดเชื้อไปธุระกับแฟนที่กรุงเทพ ไปอยู่เป็นสัปดาห์ ไปเจอเพื่อนและรู้ข่าวเรื่องการแพร่ระบาดของโรค คิดว่าที่มีความเสี่ยง และมีอาการจึงไปตรวจ ซึ่ง ผู้ชายก็อยู่กับผู้หญิง แต่ตอนกลับแยกกันกลับ จากการสอบถามว่าทำไมกลับจึงกลับมา ได้ข้อมูลว่า เนื่องจากไปตรวจที่คลีนิกเอกชนตรวจแล็บอย่างเดียว พอรู้ว่าติดเชื้อก็พยายามหาสถานที่ไปรักษาตัว แต่หาไม่ได้ และไม่ทราบข้อมูลว่าสามารถใช้สิทธิเข้ารักษาในโรงพยาบาลตามเงื่อนไขกรณีฉุกเฉินได้ เกรงเงินไม่พอ จึงตัดสินใจกลับมา ซึ่งถือว่าทำผิด

แต่ทาง สสจ.นครศรีธรรมราช ก็มองว่า ผู้ติดเชื้อไม่ได้ทำผิดที่นครศรีธรรมราช แต่ทำผิดกฎหมายที่ กทม. โดยแล็บที่ตรวจให้ที่ กทม.ก็ผิด เพราะจริงๆเมื่อพบผู้ติดเชื้อ แล็บต้องแจ้งกรมควบคุมโรคหรือเจ้าพนักงานในพื้นที่ ส่วนผู้ติดเชื้อก็ผิด เพราะความจริงเมื่อรู้ว่าติดเชื้อต้องอยู่นิ่ง ประสานเจ้าหน้าที่เพื่อเข้ารับการรักษา แต่กลับเดินทางมาที่สนครศรีธรรมราช เพราะเมื่อมาถึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่สนามบินทันที และมีการจัดรถไปรับส่งโรงพยาบาล

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/i0ss-owWrIk