สังคม

“ผบ.ตร.” เผย อยู่ระหว่างตรวจสอบปมโดรนโผล่ว่อนสุวรรณภูมิ ไม่ยืนยันมี 40 ลำ

2 ชั่วโมงที่แล้ว

31 views

“ผบ.ตร.” เผย อยู่ระหว่างตรวจสอบปมโดรนโผล่ว่อนสุวรรณภูมิ ไม่ยืนยันมี 40 ลำ เตือนพวกคิดป่วน โทษหนักถึงขั้นประหาร-จำคุกตลอดชีวิต

เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 22 ธ.ค. 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ถึงกรณีพบอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน บริเวณพื้นที่ตอนในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า ปฏิบัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เรื่องโดรนเป็นการปฏิบัติร่วมภายใต้ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ ของกองทัพอากาศ (ทอ.) ตั้งแต่ที่มีมติ สมช.เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ดังนั้น การปฏิบัติดังกล่าวจะแบ่งพื้นที่ออกเป็นวงใน วงกลาง และวงนอก ซึ่งวงในเรียกว่าไข่แดง เป็น ทอ.และท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ดูแล ส่วนวงกลางเรียกว่าไข่ขาว ตร.ดูแล และวงนอก กองทัพบก (ทบ.) ดูแล ทั้งนี้ ตร.ได้กำหนดมาตรการและแผนปฏิบัติหรือยุทธศาสตร์เรื่องการป้องกัน ปราบปราม สืบสวนสอบสวน และการยกระดับความมั่นคงที่เกี่ยวกับระยะสั้นและระยะยาวไว้เป็นที่เรียบร้อย การดำเนินการและการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่เรามีรูปแบบทั้งของนครบาลและนครราชสีมา ที่ดูแลสนามบินมาเป็นต้นแบบ ซึ่งได้ออกแบบแผนเผชิญเหตุไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับวงนอกพื้นที่เป็นหน้าที่ ทบ. ซึ่งมีผลปฏิบัติอย่างชัดเจนและต่อเนื่องมา

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ส่วนการบูรณาการและการแนะนำ เรามีการปฏิบัติอยู่แล้ว โดยเห็นว่าการใช้ความร่วมมือของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กสทช. ทอท. ตร. และกองทัพ ถือเป็นเรื่องสำคัญด้านการข่าวที่เราต้องนำมาประเมินและวิเคราะห์วางแผนปฏิบัติให้เป็นระบบและเกิดความสำเร็จต่อไป ส่วนด้านกฎหมาย ความผิดที่เกิดขึ้นผู้ที่มีการใช้โดรนในพื้นที่ห้ามบินหรือสนามบินเป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 อันนี้มีโทษประหารชีวิต แต่หากสอบสวนแล้วพบว่าผิดต่อความมั่นคงจะผิดต่อประมวลกฎหมายอาญา ในเรื่องความมั่นคงหมวด 2 และ 3 ซึ่งมีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต

“สิ่งเหล่านี้จึงอยากบอกกับผู้ที่มีความคิดอาจจะป่วน ทำเรื่องกระทำผิดให้รู้โทษ ซึ่งตำรวจได้มีการกำหนดเป้าหมายที่จะทดสอบมาตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.เป็นต้นมา มีการตั้งจุดตรวจให้รู้ว่าเราจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่กระทบต่อความไม่สงบของประชาชนอย่างเด็ดขาด ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับแจ้งมาตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. อยู่ระหว่างการดำเนินการด้วยการใช้ขีดความสามารถที่เรามีในการดำเนินการอยู่ในเวลานี้” ผบ.ตร.กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทราบหรือไม่โดรนที่ปรากฏที่สุวรรณภูมิ ต้นตอมาจากไหน ผบ.ตร. กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบจำนวน เมื่อถามว่า โดรนที่บอกว่า 40 ลำเป็นไปตามรายงานจริงหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า เป็นข้อมูลข่าวสารที่แจ้งเข้ามา ซึ่งการแจ้งอยู่ในแผนเผชิญเหตุ นับจากเวลาที่แจ้งได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปสุวรรณภูมิบ้างแล้ว ซึ่งอยู่พื้นที่โดยรอบของสุวรรณภูมิ เข้าไปร่วมปฏิบัติการกับผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรรมการผู้จัดใหญ่ได้มีการรับข้อมูล นับจากเวลารับข้อมูลจนถึงการปฏิบัติการเรายังไม่พบ เราได้รับข้อมูลเท่านั้น เป็นการรับข้อมูลมาเพื่อพิสูจน์ทราบและตรวจสอบ โดยกระบวนการและเครื่องมือที่เรามีอยู่ตามขีดความสามารถ

เมื่อถามย้ำว่า จะหาที่มาของโดรนได้ยากหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ขณะนี้ตั้งสมมติฐานก่อนว่าเราได้รับแจ้งจำนวนกี่ลำ อยากใช้คำว่าเรารับแจ้ง แล้วเรื่องการป่วนหรือวัตถุประสงค์ที่แท้จริงต้องใช้วิชาการสอบสวน เพราะบริเวณในท่าอากาศสุวรรณภูมิยังไม่มีกล้องหรือระบบที่เราสืบสวนและสอบสวนได้ จึงจำเป็นต้องใช้วิธีสืบสวนของเรา ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ ตั้งโจทย์และธงไว้ว่าถ้าเป็นจริงจะต้องหาที่มา ที่ขึ้นบินของโดรน ใครเป็นผู้บังคับ ควบคุม หรือเจ้าของ และปลายทางไปไหน แต่เราต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าข้อมูลเหล่านี้เกิดขึ้นจริงและมีจริง ขณะนี้ตั้งข้อสมมติไว้ร้ายแรงที่สุดแล้วนำไปสืบสวนตรวจสอบให้ได้

เมื่อถามอีกว่า หากโดรนมี 40 ลำตามที่มีการรายงาน จะถือว่าเป็นการก่อวินาศกรรมได้หรือไม่ เพราะพลเรือนไม่สามารถครอบครองได้ขนาดนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เป็นข้อมูลที่เราต้องเอามาดูร่วมกันกับฝ่ายความมั่นคง ตนต้องนำข้อมูลเหล่านี้รายงานทางศูนย์ปฏิบัติการกองทัพอากาศ (ศปก.ทอ.) ส่วนจะเข้าข่ายก่อวินาศกรรมหรือไม่ จากข้อมูลที่เราแจ้งจากการบิน ถ้าข้อมูลนั้นเป็นความจริงคือ เป็นการบินในระดับผ่านไป ต้องไปดูพฤติกรรมและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าจะถึงขั้นเป็นการก่อวินาศกรรมหรือไม่ แต่ในฐานะที่ตนเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งเหล่าทัพและตร. รวมถึง กพท. เราต้องตั้งสมมุติฐานขั้นร้ายแรงที่สุด และกำหนดแผนมาตรการป้องกันไว้ อย่างไรก็ตาม อาจจะเป็นก่อเหตุหรืออะไรที่ไม่พึงประสงค์ และเกิดอันตรายต่ออากาศยานหรือพี่น้องประชาชน เราก็ต้องมีแผนปฏิบัติที่จะรองรับอย่างชัดเจนและเข้มข้นต่อไป

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประชาชนอาจเห็นเป็นโดรน แต่หลายครั้งพิสูจน์ทราบได้ว่าเป็นแสงจากอากาศยาน (เครื่องบิน) ซึ่งสามารถใช้แอปพลิเคชั่น Flightradar ในการตรวจสอบเบื้องต้น แต่ถ้าพบเห็นโดรนในพื้นใดขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีเพื่อใช้เป็นข้อมูลจุดปล่อยโดรนได้ นอกจากนี้ ตร.ได้กำหนดแผนปฎิบัติเพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน จากการใช้อากาศยานไร้คนขับในการก่อเหตุหรือกระทำการไม่พึงประสงค์ ในช่วงเทศกาลปีใหม่แล้ว อีกทั้งขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงความไม่สงบในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ฝ่ายความมั่นคงขอยืนยันว่าจะให้การดูแลอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ใครปั่นป่วนสถานการณ์ได้


แท็กที่เกี่ยวข้อง  ผบ.ตร. ,สุวรรณภูมิ ,โดรน

คุณอาจสนใจ

Related News