เด็กชาย 2 ขวบเปลือยดับปริศนาริมถนน กะโหลกเปิด-ใบหูหายไป มีรอยช้ำ รอยคล้ายถูกสัตว์กัดแทะทั่วร่าง

ตำรวจ สภ.นิคมพัฒนา รับแจ้ง พบศพเด็กชาย ในสภาพเปลือย บริเวณริมถนนสาย 36 ตำบลมาบข่า อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง ซึ่งห่างจากบ้านพักของเด็ก ประมาณ 500 เมตร


เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ พบร่างของเด็กชาย อายุ 2 ปี 10 เดือน อยู่ในสภาพที่กะโหลกศีรษะเปิด ใบหูหายไป และตามร่างกายก็มีร่องรอย คล้ายถูกสัตว์กัดแทะ ส่วนในที่เกิดเหตุ พบรถของเล่นของน้อง ตกอยู่ในพงหญ้าริมทาง นอกจากนี้ยังพบเส้นผม เศษเนื้อ บริเวณริมทางเดินด้วย


นายธนเทพ พ่อของเด็ก บอกว่า ตัวเองเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว หลังจากที่เลิกรากับภรรยา แล้วภรรยาก็ไปมีครอบครัวใหม่ เมื่อคืนนี้ตอนออกไปรับจ้างกรีดยาง ได้ฝากให้เพื่อนบ้านช่วยดูลูกให้ ช่วงกลางดึกกลับมา ไม่พบลูก จึงออกตามหาทั้งคืนจนเช้าก็ยังไม่พบ พอช่วงเย็นลองเดินหาอีกที ก็ไปพบว่าลูกเสียชีวิตอยู่ในลักษณะนอนคว่ำหน้า ไม่ได้สวมเสื้อผ้า แล้วก็มีบาดแผลฉกรรจ์ที่หัว หูทั้งสองข้างหายไป และรอยฟกช้ำ รอยกัดเต็มตัว


ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการเก็บหลักฐานในพื้นที่เกิดเหตุไว้ก่อน แล้วก็ต้องสอบปากคำพ่อ และผู้เกี่ยวข้องอย่างละเอียดอีกครั้ง ตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า เด็กถูกทำให้เสียชีวิตก่อน แล้วนำศพไปทิ้งให้สุนัขกัดแทะ หรือว่าถูกสัตว์กัดแทะจนเสียชีวิต ตอนนี้ตำรวจให้ส่งร่างของน้อง ไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลระยอง เพื่อจะได้ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ซึ่งถ้าหากเป็นการฆาตกรรมก็จะได้ สืบสวนหาฆาตกร มาลงดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ต่อมาเวลา 21.30 น. นางสาวมิ้น อายุ 21 ปี แม่ของเด็กชาย เล่าว่าตนเลิกรากับอดีตสามี คือนายธนัญเทพได้ 2 ปีแล้ว ในช่วงแรก ตนช่วยกันเลี้ยงลูก ต่อมาตนเพิ่งจะห่างจากลูกได้เพียง 6 เดือน ซึ่งสาเหตุที่ต้องเลิกกันเนื่องจากอดีตสามี มีอารมณ์รุนแรงชอบทำร้ายร่างกายตน และก็มีการใช้ยาเสพติด แต่หลังจากที่เลิกรากันไปตนไม่ทราบว่าเขายังใช้อยู่หรือเขาเลิกใช้ไปแล้ว


และเมื่อช่วง 13:30 น ของวันนี้น้องสาวของอดีตสามีทักแชตมาบอกตนว่า น้องหายไปตอนนั้นใจตนล่วงไปอยู่ที่ตาตุ่มและก็ไม่คิดว่าน้องจะหายไปได้ เพราะปกติแล้วน้องจะเดินออกมาเล่นแค่บริเวณหน้าร้านอาหารที่อยู่ริมถนน ปากทางของสวนยาง และก็รู้สึกโกรธที่ลูกหายไปตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืน ทำไมไม่รีบหาหรือแจ้งตำรวจ


และหลังจากนั้นเวลา 4 โมงเย็นน้องสาว เขาก็ทักมาบอกตนว่าน้องเสียชีวิตแล้ว ตอนนั้นตนยังไม่เชื่อจนเขาต้องส่งรูปน้องมาให้ดู ซึ่งหลังจากที่ตนเห็นสภาพลูกชายของตัวเองแล้ว ตนรับไม่ได้และ รู้สึกว่ารอยฟกช้ำบนตัวลูกของตนเหมือนมีคนเอาไม้มาตี ซึ่งตนค่อนข้างจะปักใจเชื่อว่ามีคนทำร้ายน้องแน่ ๆ แต่อีกส่วนหนึ่งเพียงเล็กน้อยก็คิดว่า หากน้องเกิดอุบัติเหตุรถชนจริงแล้วคนนั้นเพิ่งเอาศพน้องมาทิ้งไว้ แต่ตนคิดแล้วมันก็เป็นไปได้ยากมาก เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุจริง รปภ.ตรงหน้าบริษัทใกล้ ๆ ที่น้องเสียชีวิตจะต้องเห็น แล้วจุดที่พบน้องนั้นไม่ใช่ป่ารกเลย ผู้คนใช้ถนนเส้นนั้นช่วงเช้าบ่อยก็ต้องมีคนเห็นอย่างแน่นอน


ตอนนี้ตนอยากรู้มาก ๆ ว่าลูกชายของตนเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร ใจก็ไม่อยากคิดฟุ้งซ่าน ไปต่าง ๆ นานาแต่มันก็อดคิดไม่ได้ และเบื้องต้นคาดว่าหากคดีเสร็จเรียบร้อยแล้วตนจะนำร่างของลูกชายไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดจันทบุรีซึ่งเป็นบ้านเกิดของตน และถ้าหากใครทำลูกชายของตนเสียชีวิต ขอให้เขาได้รับผลกรรมนั้นตามทัน