อดีตพนักงานเทศบาล วัย 62 ทิ้งเมียไปอยู่กับกิ๊ก 52 คน อยากกลับมาตายรัง แต่เมียไม่เอาแล้ว ฉุนถือปืนขู่

อดีตพนักงานเทศบาล วัย 62 ทิ้งเมียไปอยู่กับกิ๊ก 4 ปี สุดท้ายเลิกกับกิ๊กทั้งหมด 52 คน อยากกลับมาตายรัง แต่เมียไม่เอาแล้ว ฉุนถือปืนมาข่มขู่หน้าบ้าน

เพื่อนบ้านคนถ่ายคลิปเหตุการณ์ไว้เป็นหลักฐาน เป็นเหตุการณ์ที่นายประยงค์ อายุ 62 ปี อดีตพนักงานเทศบาลอุดรธานี เมามาที่บ้านของนางพิมัย อายุ 59 ปี ภรรยาที่แยกทางกันแล้วเมื่อ 4 ปีก่อน พร้อมกับถือปืนมาข่มขู่ เพราะเมียไม่ยอมคืนดีด้วย ขณะที่นางพิสมัย เก็บตัวเงียบอยู่ภายในบ้าน พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาระงับเหตุ

หลังรับแจ้ง นายศรนรินทร์ วงศ์อนุ สจ.อุดรธานี เขต 6 ได้มาเจรจากับนายประยงค์ เบื้องต้นนายประยงค์ อ้างว่าปืนที่ถือมาขู่นั้น เป็นปืนปลอม แต่จากการตรวจสอบพบว่าเป็นปืนจริง แต่เก่าแล้ว ซึ่งขณะที่เจรจาอยู่นั้น นายประยงค์ ก็บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองกลับมาหาเมียที่เลิกกันไปหลายปีแล้ว โดยยอมรับว่าตนเองเป็นคนเจ้าชู้ แต่ไม่ได้มีเมียน้อย มีแค่กิ๊ก ซึ่งตนเองทำงานขับรถให้เทศบาล เทศบาลมี 52 ชุมชน ตนเองก็มีกิ๊กทั้งหมด 52 คน ถ้ามี 100 ชุมชน ก็จะมีกิ๊กเป็นร้อย แต่ตอนนี้เลิกไปหมดแล้ว

และวันนี้ไปดื่มเหล้าในงานบุญ ที่วัดบ้านดอนภู่ จึงมีอาการมึนเมา เลยจะขอกลับมาอยู่กับครอบครัว อยู่กับลูกกับเมีย แต่เมียไม่ยอมคืนดี เขาให้ไปนอนอยู่ริมถนน บอกว่าจะเอากลับคืนมาทำไม เขาพูดเหมือนตนเองเป็นหมา จะเอามาทำไมคนชั่ว ตนเองเห็นปืนวางอยู่ไม่รู้ว่าปืนใคร จึงถือปืนมาขู่เมียเท่านั้น ไม่ได้ยิงหรือตั้งใจจะทำร้าย

ต่อมานางพิสมัย เจ้าของบ้าน ได้ยอมออกมาจากบ้าน แต่ไม่ยอมให้นายประยงค์เข้าบ้าน ก็ให้การว่านายประยงค์ อดีตสามี มีลูกด้วยกัน 3 คน แต่แยกทางกันนานแล้ว โดยยังไม่ได้จดทะเบียนหย่า ซึ่งนายบีเป็นคนเจ้าชู้ มีเมียน้อยหลายคน และมีบ้านอีก 2 หลังในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ส่วนเธออยู่บ้านหลังนี้กับลูก วันนี้นายประยงค์ เมามาแล้วถือปืนมาข่มขู่จะขอคืนดี บอกจะกลับมาอยู่ที่บ้านด้วย แต่เธอไม่ยอม ไม่ขอคืนดี นายประยงค์จึงได้เอาปืนมาขู่ เธอจึงแจ้งตำรวจ

พร้อมบอกด้วยว่า ตอนนายประยงค์ ออกไปอยู่กับเมียใหม่ 4 ปี บอกว่าเกษียณแล้วจะกลับมาขออยู่ด้วย แล้วก็กลับมาจริงๆ เธอก็เลยให้โอกาสทดลองอยู่ก่อน 3 เดือน แต่มีเงื่อนไขว่าต่างคนต่างอยู่ และมีข้อแม้ว่า ตนเองจะไม่ทำอาหารให้กิน ถ้าหิวก็ให้หากินเอง เพราะบ้านเปิดเป็นร้านขายของชำ และเธอจะไม่ซักเสื้อผ้าให้

ปรากฎว่านายประยงค์ อยู่ได้แค่ 3 วัน แล้วก็หนีไป พอผ่านไป 3-4 วัน ก็กลับมาเมาอาละวาด อ้างว่าบ้านกู แล้วเวลากลับมาไม่เห็นเธออยู่บ้าน ก็กล่าวหาว่าไปมีชู้ ไปอยู่กับผู้ชาย ทั้งๆ ที่เธอออกไปดูหมอลำกับลูกหลาน

พอกลับมาบ้านก็โดนด่าว่า ถ้าไม่อยากอยู่บ้านก็จะจุดไฟเผาทิ้ง เมื่อทำตามข้อตกลงไม่ได้ก็ต่างคนต่างอยู่ หรือหากจะหย่า ก็พร้อมที่จะหย่า ที่ผ่านมาตอนเขาทิ้งไปมีเมียใหม่ เธอก็ไม่เคยโวยวาย หรือเรียกร้องอะไร แต่เขาจะแบ่งครึ่งบ้าน 2 หลังนี้ไม่ได้ เธอไม่ให้ เธอจะอยู่กับลูก ส่วนเขาก็มีบ้าน 2 หลังในเมืองก็ควรไปอยู่ตรงนั้น จึงทำให้ตกลงกันไม่ได้

จากนั้นตำรวจ สภ.เมือง ได้ควบคุมตัวนายประยงค์ ขึ้นรถไปที่ สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมกับแจ้งข้อหา เมาเหล้าประพฤติตนวุ่นวาย ควบคุมตัวและอาวุธปืนสั้นไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก

ส่วนอาวุธปืนสั้นตำรวจจะไปตรวจสอบว่า ยังใช้การได้หรือไม่ เพื่อให้พนักงานสอบสวนพิจารณาดำเนินการต่อไป ซึ่งนายประยงค์ ได้ยกมือไหว้นางพิสมัย ขอบคุณที่แจ้งตำรวจมาจับ