ปชน.ลุยขอตรวจสอบการใช้งบของเทศบาลนครเชียงใหม่ในงานประเพณี

พรรค ปชน.เดินหน้าขอตรวจสอบการใช้งบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างบริษัทออแกไนซ์รายเดียวในการจัดงานประเพณีของเทศบาลนครเชียงใหม่ หลังพบใช้งบเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ถึง 2 เท่า ส่วนใหญ่ไม่ใช้วิธีการ e-bidding

จากกรณีที่โซเชียลดรามาเรื่องดอกไม้ประดับตกแต่งเชิงสะพานนวรัฐช่วงเตรียมงานประเพณียี่เป็ง ที่เทศบาลนครเชียงใหม่ใช้สีสเปรย์สีดำพ่นทับสีอันเดิมจนกลายเป็นกระแสไวรัลชั่วข้ามคืน ชาวเชียงใหม่ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องดังกล่าว รวมถึงการทาสีขาวทับเส้นจราจรสีขาวแดงตรงเกาะกลางถนนดังกล่าว จนเทศบาลนครเชียงใหม่ต้องออกมาชี้แจ้งและรื้อถอนดอกไม้สีดำไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (28 ต.ค. 2568) สส.พรรคประชาชน (ปชน.) และรวมทั้ง ส.ท.และ สจ.ของ ปชน.ได้ออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการใช้งบประมาณของทางเทศบาลนครเชียงใหม่และองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอสัมภาษณ์นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ แต่ทางผู้บริหารปฏิเสธให้สัมภาษณ์บอกขอประชุมแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ก่อน หลังจากนี้เมื่อได้ข้อสรุปจะทำแถลงการณ์ทีเดียว

ทางผู้สื่อข่าวจึงได้สัมภาษณ์ นางสาวนันท์นภัสร์ ปฐมเดชภัทรคุณ ส.ท.ปชน. โดยกล่าวว่า ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่นั้น ก็ติดใจเรื่องนี้ตั้งแต่การแถลงงบประมาณมาแล้ว เพราะงบประมาณของอีเวนต์ตลอดทั้งปีของจังหวัดเชียงใหม่ มีมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งก็แบ่งเป็นงานยี่เป็ง งานสงกรานต์ และงานอื่นๆ เรามองว่ามูลค่ามันมากมายมหาศาลขนาดนี้ แล้วจะนำงบประมาณตรงนี้มาทำอะไรบ้าง เหตุการณ์เมื่อวานพอได้เห็นก็คือดอกไม้สีดำ ทำให้ต้องการทราบว่าทำไมใช้งบประมาณมากขนาดนี้ ก็มีการตั้งคำถามเกิดขึ้นมาในพรรคประชาชน ซึ่งในส่วนของเธอนั้นมองว่างบประมาณยี่เป็งทั้งหมดโดยรวม 27 ล้าน รวมตกแต่งซุ้มไฟรวมเวที รวมการประชาสัมพันธ์ต่างๆ ซึ่งมองว่ามีมูลค่ามหาศาล ซึ่งทาง ส.ท.ก็เคยเขียนจดหมายขอรายละเอียด ขอ TOR ตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค. 2568 จนกระทั่งถึงวันนี้ยังไม่มีการตอบกลับมา ดังนั้นเธอจึงต้องการทราบรายละเอียดก่อน ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่อย่างไร

การแก้ปัญหาที่มีการพ่นสเปรย์สีดำทับดอกไม้นั้น เธอมองว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรึกตรองให้ถี่ถ้วนก่อนซึ่งจากดอกไม้ที่เป็นสีๆ พอมีเหตุการณ์นี้ขึ้นมาก็มาพ่นเป็นสีดำ ฟุตบาทลายขาวแดงก็มาพ่นเป็นสีขาว โคมแขวนล้านนาที่ติดที่เป็นการติดคว่ำลง โดยไม่แน่ใจว่าเขามีคิดไว้ก่อนหรือไม่ว่าไม่ถูกต้อง หลังเกิดเหตุการณ์นี้ในฐานะสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ฝ่ายตรวจสอบ เธอก็ได้ทำตารางเปรียบเทียบพบว่ามีการใช้งบประมาณมากกว่าปี 2566 ถึง 2 เท่าตัว การจัดซื้อจัดจ้างก็เป็นการคัดเลือกไม่ได้มีการ e-bidding ชื่อบริษัทก็จะเป็นชื่อบริษัทซ้ำๆ จึงนำมาเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบและช่วยกันวิเคราะห์ถึงความเป็นจริงและความเหมาะสม

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทางทั้ง ส.ท.และ สจ. ปชน.จะช่วยกันเดินหน้าตรวจสอบเรื่องนี้กันต่อไปเพื่อความโปร่งใสเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับชาวเชียงใหม่ ขณะเดียวกันมองว่าอุปกรณ์ที่จัดงานก็ยังใช้อันเดิม ซึ่งถ้าหากเป็นไปได้ต้องการให้แบ่งงบอีเวนต์ตรงนี้มาทำถนนที่ผุพังดีกว่าไหม และพัฒนาเมืองเชียงใหม่ให้ยั่งยืนดีกว่า

ขณะที่นางสาวจิตจีรัง ปิ่นทรายมูล สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า พรรคประชาชนได้ติดตามเรื่องนี้มาก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่การทำงบประมาณเมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2568 ได้ประกาศว่ามีผู้ชนะการคัดเลือกโครงการที่ใหญ่ที่สุดของ อบจ. คือโครงการชาร์มมิ่งฟลาวเวอร์เฟสติวัล ซึ่งเรากำลังติดตามดูเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างกันอยู่ เห็นโพสต์ของนางสาวนันท์นภัสร์ พอดีว่าได้จัดจ้างบริษัทนี้ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกันที่รับงานจาก อบจ.เช่นเดียวกัน ดังนั้นเราจึงดำเนินการขอดูเอกสาร ถือหลักการและเหตุผลในการจ้างเลือกเจ้านี้เข้ามาทำงาน จากการที่ตรวจสอบพบว่าบริษัทที่รับงานดังกล่าวนี้

พบว่ามีการรับงานย่อยของเทศบาลนครเชียงใหม่หลายงาน และรับงานชามมิ่งฟาวเวอร์เฟสติวัล นี้มาสามปีซ้อนแล้วรวมไปถึงงานปรับปรุงภูมิทัศน์งานเกี่ยวกับต้นไม้ดอกไม้จะเป็นบริษัทนี้ตลอด

จากการตรวจสอบพบว่าเป็นการจัดสถานที่ให้สวยงามลักษณะเดิมๆ ซึ่งการคัดเลือกก็ไม่ผ่านการ e-bidding ดังนั้นหลังจากนี้ก็จะยกระดับการตรวจสอบสืบลึกลงไปถึงที่ตั้งบริษัท เป็นการเสาะหาข้อมูลว่าที่ตั้งบริษัทเดียวกันมีการจดบริษัทอื่นอีกหรือเปล่า แล้วชื่อผู้ถือหุ้นมีการเป็นบุคคลเดิมในหลายบริษัทไหม เพื่อแก้ไขปัญหานี้ได้ ให้มันโปร่งใส เพื่อให้ประชาชนใช้เงินภาษีของเขาได้อย่างคุ้มค่าที่สุด