ประชาชนทยอยเข้าถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระพันปีหลวง เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากสำนักพระราชวัง เปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เบื้องหน้า พระฉายาลักษณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง บรรยากาศเช้านี้ นางชูศรี อายุ 74 ปี อดีตข้าราชการบำนาญ เดินทางมาจากจังหวัดนนทบุรี ออกจากบ้านมาตั้งแต่ตี 2 เพื่อที่จะรอเฝ้าสักการะพระบรมศพ ทราบข่าวตั้งแต่เมื่อวันเสาร์แล้ว รู้สึกเศร้าแล้วเสียใจ เพราะพระองค์ท่านมีแต่ความดีที่มอบให้กับประชาชน พระองค์ท่านเคยตรัสว่าถึงพระองค์ท่านจะขาดทุน แต่ประชาชนจะได้ ซึ่งตนก็จะน้อมนำไปปฏิบัติใช้ และอยากให้ประชาชนมีความสามัคคีรักกันกลมเกลียวสมกับเป็นชาติไทย

ด้าน น.ส.ณัฐรานี และ น.ส.พิมมาดา ทั้งสองเดินทางมาด้วยกันจากจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยตั้งใจที่จะมาสักการะพระบรมศพพระราชชนนีพันปีหลวง เหมือนเมื่อครั้งในหลวงรัชกาลที่ 9 ทั้งสองพระองค์นั้นสร้างคุณงามความดีให้กับประเทศชาติและประชาชนชาวไทยเป็นอย่างสูง การสูญเสียครั้งนี้ก็เปรียบเสมือนการสูญเสียทั้งพ่อและแม่ โดยตนเองจะน้อมนำคำสั่งสอนไปใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นครูที่ดี และจะนำคำสอนเกี่ยวกับผ้าไหมได้ไปแนะนำให้กับชาวบ้านเมื่อครั้งพระองค์ท่านยังมีชีวิต

สำหรับวันนี้ จะมีการเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.00 น. ของทุกวัน ณ ศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง คาดว่าจะมีพสกนิกรทยอยเดินทางเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า ทางกรุงเทพมหานครมีความพร้อมในการรองรับประชาชนได้จำนวนกว่าหมื่นคน ที่จะเดินทางเข้าถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ โดยประชาชนสามารถเดินทางมาได้ทั้งทางเรือ ทางรถโดยสารสาธารณะ พร้อมแนะนำให้ประชาชนเดินทางด้วยรถสาธารณะ แม้ว่าจะมีการจัดเตรียมที่จอดรถส่วนบุคคลไว้ให้ก็ตามแต่ก็ไม่เพียงพอ เพราะเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีประชาชนทยอยเดินทางเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ทางกรุงเทพมหานคร มีการจัดเตรียมอาหารพระราชทาน ประชาชนผ่านจุดคัดกรองตามขั้นตอนก่อนเข้าไปด้านในพระบรมมหาราชวัง