ชายพิการนอนหน้าแบงก์ข้ามคืน รอลงทะเบียนคนละครึ่งพลัส แต่ทำไม่ได้ ซ้ำไร้บัตรคนจน เพราะชื่อตกหล่น

เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายชาลี อายุ 54 ปี ชายพิการ ชาวบ้านไผ่ล้อม ต.อ้อมกอ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี หลังเดินทางมาจากบ้าน นอนค้างหน้าธนาคารข้ามคืน เพื่อลงทะเบียนคนละครึ่งพลัส แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะเจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่มีโทรศัพท์มือถือ

ล่าสุด นายสุรยนต์ ดอนสมจิตร นายอำเภอบ้านดุง ได้สั่งการให้ นายนิติกร ปะจะนัง ปลัดอำเภอบ้านดุง พร้อมด้วย นายวีระพล รักเสมอวงศ์ นายกเทศบาลเมืองบ้านดุง ,นางอัจฉรา สมบัติกำไร นายกอบต.อ้อมกอ,กำนันต.อ้อมกอ เดินทางไปที่บ้านนายชาลี ที่อยู่สวนยางพาราท้ายหมู่บ้านบ้านอ้อมกอ พบว่านายชาลี อยู่กระต๊อบหลังเก่าๆ สร้างอยู่บนที่ดินของพี่ชาย ส่วนห้องน้ำเป็นสังกะสีเก่ากั้นเอาไว้ไม่มีหลังคา น้ำที่ใช้ ต่อท่อมาจากบ้านของพี่ชายอีกคน

นายชาลี บอกว่า พี่ชายใจดีให้อยู่ตรงนี้ โดยสร้างกระต๊อบอยู่กับภรรยา เฝ้าสวนยางพารามา 5 ปีแล้ว ตนพิการขา เนื่องจากถูกรถเหยียบที่กรุงเทพฯ จนเส้นเอ็นขาขาด และภรรยาป่วยเป็นนิ่วก็ทำงานทุกอย่างที่ชาวบ้านจ้าง พอมีเงินได้ประทังชีวิต และปลูกผักสวนครัวเอาไว้รอบบ้าน ตนไม่มีบัตรคนจน เคยไปทำแต่ไม่ได้ เพราะรายชื่อตกหล่น มีเพียงเงินคนพิการเดือนละ 800 บาท ส่วนที่นายวีระพล จะให้เงิน 2,000 บาท หรือซื้อโทรศัพท์มือถือ เพื่อเอาไว้ลงทะเบียนคนละครึ่งครั้งต่อไป ตนไม่อยากได้แล้ว ตอนนี้อยากได้บัตรคนจนก็ดีใจแล้ว

ด้าน นายเกียรติศักดิ์ พี่ชายนายชาลี บอกว่า น้องชายเคยไปทำงานที่กรุงเทพฯ แล้วถูกอุบัติเหตุรถทับขาจนเป็นคนพิการ พอกลับมาบ้านไม่มีที่อยู่ เลยสงสารน้อง บอกน้องให้อดทน ไม่มีข้าวพี่น้องก็เอามาให้ แต่เรื่องเงินใช้จ่าย ก็ให้น้องชายและภรรยา ทำงานเอา

นางอัจฉรา สมบัติกำไร นายก อบต.อ้อมกอ เปิดเผยว่า จากการเดินทางลงพื้นที่ดูสภาพความเป็นอยู่ก็น่าสงสาร ตอนนี้ทราบว่า นายชาลี ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน ตนจึงจะให้เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนของอบต.มาตรวจสอบเอกสารและดำเนินการให้ นอกจากนี้จะหาทางช่วยเหลือเรื่องซ่อมแซมห้องน้ำ และสร้างบ้านให้ โดยจะเสนอไปยัง พมจ.อุดรธานี และกาชาดจ.อุดรธานี เพื่อของบประมาณในการสร้างบ้านใหม่และห้องน้ำเพิ่มเติม แต่ปีนี้ไม่ทัน น่าจะช่วยได้ในปีหน้า อันดับแรกจะดำเนินการเรื่องบัตรคนจนให้นายชาลีก่อน