สังคม

เปิดใจอดีตเมีย "กำนันลี" บอกแทบใจสลายบ้านถูกรื้อ ยันไม่เคยรู้เป็นที่ของใคร หากรู้คงไม่บ้าไปสร้าง

22 ต.ค. 2568

736 views

กรณีที่เมื่อวานนี้ (21 ต.ค.2568) กองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ทำลายบ้านพักพ่วงเพิงพัก 1 หลัง เครือข่าย "กำนันลี" เพื่อจัดระเบียบพื้นที่ "บ้านหนองจาน" ส่วน บ้านกำนันลี ยังไม่ทำลาย คาดเป็นภารกิจในอนาคต ซึ่งนี่เป็นสัญญาณเริ่มต้นการจัดระเบียบในพื้นที่บ้านหนองจาน ส่งผลให้ชาวกัมพูชามีปฏิกิริยาทันที ได้ประกาศเสียงตามสายเรียกรวมผลให้มาสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวฝั่งไทย ยืนด้อมๆมองแต่ทำอะไรไม่ได้ ก่อนแยกย้ายกลับในที่สุด

ล่าสุดวันนี้ (22 ต.ค.2568) ที่บ้านหนองจาน ใกล้กับจุดสแลนดำ คลิปวงจรปิดของหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ พบว่า ทหารเขมร พาสื่อมวลชนและชาวบ้านรวม 20 คน ลงพื้นที่ทำข่าว หลังฝ่ายไทยปฏิบัติการจัดระเบียบบ้านหนองจาน รื้อสิ่งปลูกสร้างเครือข่ายกำนันลี พบว่าทั้งหมดมายืนจ้องมองสังเกตฝั่งไทย และมีการหยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายคลิปวิดีโอบันทึกภาพ เพื่อไปนำเสนอ

ส่วนความเคลื่อนไหวบ้านหนองหญ้าแก้ว ยังเป็นไปด้วยความปกติ ไม่มีชาวกัมพูชาออกมารวมพลจนผิดสังเกตแต่อย่างใด

ล่าสุด สำหรับประเด็นการรื้อบ้านพ่วงเพิงพัก 1 หลัง ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ได้รับการยืนยันแล้วว่า บ้านที่พ่วงด้วยเพิงพัก 1 หลัง ที่ถูกรื้อเป็นหนึ่งในทรัพย์สินของ "เจ๊รัตน์" อดีตภรรยาของ "กำนันลี"

ทีมข่าวได้เจอกับ "เจ๊รัตน์" เธอเล่าด้วยความอัดอั้นใจหลังถูกรื้อบ้าน ว่า ความรู้สึกแรกคือใจหาย แทบจะร้องได้ มันโหดร้าย เพราะเราสร้างมาทั้งชีวิต สร้างมามากกว่า 25 ปี ไม่ได้สร้างวันเดียวเสร็จ ซึ่งบ้านตรงนั้นเป็นเราสร้างให้ลูกน้องนอนพัก แต่หลังจากที่รัฐบาลตัดสินใจรื้อแล้วก็ไม่เป็นไร ส่วนตัวก็ไม่ได้อะไรมาก มีเพียงความรู้สึกน้อยใจแค่ว่า เราก็เป็นคนไทย มีสิทธิ์อะไรให้บ้างหรือไม่

เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรกับคำว่า "รื้อบ้านเครือข่ายกำนันลี" เจ๊รัตน์ กล่าวว่า จริงๆแล้วก็เป็นเครือข่ายกำนันลี เพราะเราเป็นเมียกำนัน แต่เราเลิกกันไปแล้ว  ซึ่งเขาไม่ได้เอาอะไรทิ้งไว้ให้ เราอยู่กับลูก  ส่วนกำนันลี ก็ไปมีเมียใหม่แล้ว

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าอีกหนึ่งหลัง ซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่ "หลังค้าสีฟ้า" ที่หลายคนเรียกว่าเป็น "บ้านกำนันลี" ซึ่งนับเป็นบ้านลูกสาวด้วย จะถูกรื้ออีก  เจ๊รัตน์ ตอบด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ยอมรับว่ากังวล แต่เขาคงไม่เห็นค่าแม่หรอก ใครก็รู้ว่าเราคือคนไทย และอยู่ตรงนั้น ถ้าเห็นค่าคงมาถามว่า "จะรื้อเอาบ้านไหม เอาไม้สัก 2-3 ตัวไหม เขาจะตีทิ้ง ยึดพื้นที่แล้วนะ แต่ก็ไม่มี" บางครั้งจะขอเข้าไปเอาข้าวเปลือกออกมากิน ก็ไม่ได้เข้าไปด้วยซ้ำ

ช่วงแรกที่นักข่าวถามว่า หากเจ้าหน้าที่จะเข้าไปรื้อบ้านอีก เราอยากอ้อนวอนเพื่อเข้าไปรื้อด้วยตัวเองหรือไม่ ตอนแรก เจ๊รัตน์ ก็บอกว่า หากมีการแจ้งก็จะเข้าไปรื้อเอง ก่อนสุดท้ายจะบอกว่า "แม่ตัดสินใจแล้ว ไม่รื้อแล้ว ให้เขาทุบไปเลย มันไร้ค่าแล้ว ไม่มีค่า ไม่มีราคาแล้ว รัฐบาลจะทุบทิ้งไปเลย ชีวิตคนไทยของแม่มันไร้ค่าแล้ว เหมือนอยู่คนเดียวบนโลก" แต่ถ้าสงสารก็เหลือไว้ให้อยู่บ้าง เพราะตอนนี้ก็มาอยู่บ้านลูก ไม่ใช่บ้านตัวเอง ถ้าบ้านเมืองสงบ จะได้พอมีที่อยู่บ้าง แต่ถ้าไม่สงสารก็แล้วแต่รัฐบาล อยากทุบก็ทุบเลย

เจ๊รัตน์ ยังชี้แจงกรณีที่มีคนกล่าวหาว่า ไปสร้างบ้านในที่ของคนอื่นนั้น ยืนยันว่าตอนที่ทำไม่รู้ว่าเป็นที่ของใคร ไม่เคยมีใครเข้ามาบอกว่า "คุณมาสร้างบ้านในที่ของฉันนะ ไม่เคยมี ไม่เคยมีใครมาบอกว่าคุณกู้ระเบิดในบ้านฉันนะ หากมีคนมาบอก เราเองคงไม่ไปผู้รับระเบิดให้บ้านคนอื่น จำชัดว่าเราไม่รู้แต่พออยู่มา 40 -50 ปีกลับมีคนมาบอกว่าเป็นเจ้าของ ก็งง! ในเรื่องนี้ก็ต้องตรวจสอบกันไป"

เจ๊รัตน์ ยังถามกลับด้วยว่า ตนเองทำอะไรผิด ขายที่ให้จีนเทาหรือไม่ คำตอบคือก็ไม่! ส่วนฮุบที่ใครหรือไม่ คำตอบคือก็ไม่ได้ฮุบ!

"ถ้าบอกว่าเป็นที่ของคุณก็มาแจ้งสิ ฉันจะได้ไม่เข้าไปทำ ไม่ใช่คนบ้าที่จะไปทำที่คนอื่นเขาทำไม แม่มีความผิดอะไร หากเราขายที่ให้จีนเทา ทำกาสิโน แบบที่คนอื่นเค้าอ้างจริง จะไม่ว่าเลย แล้วนี่เราผิดอะไร?"

ขณะเดียวกันทีมข่าวได้ข้อมูลว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของครอบครัวป้าผิน ชาวบ้านบ้านหนองจาน ซึ่งประเด็นนี้ เจ๊รัตน์ ย้ำชัดว่า ไม่เคยรู้ว่าเป็นที่ดินของครอบครัวป้าผิน ส่วนป้าผิน ก็ไม่เคยมาบอกมากล่าวกันด้วย

นอกจากนี้ เจ๊รัตน์ ยังกล่าวถึงเรื่องการแบ่งเขตแดนด้วย ว่า เรื่องการแบ่งเขตแดน เรายินดี แต่จะมาแบ่งแค่หลัก 46 ยังรับไม่ได้ คุณต้องแบ่งตลอดแนว เพื่อความยุติธรรมสำหรับทุกฝ่าย ต้องเท่าเทียมกันทุกหลักเขตตั้งแต่ 42-51

ขณะเดียวกันทีมข่าวได้คุยกับ ป้าผิน  ชาวบ้านบ้านหนองจาน เจ้าของที่ดินที่ เจ๊รัตน์ ไปปลูกบ้านก่อนถูกรื้อ ว่า ไม่ต้องบอกเขาก็รู้อยู่แก่ใจ มันเป็นที่ของคนไทย อยู่ที่ไหน ทำไมถึงจะไม่รู้ อยากจะพูดอะไรก็พูดไป

ป้าผิน กล่าวว่า สมัยที่ กำนันลี และเจ๊รัตน์ ยังเป็นสามีภรรยากันอยู่ ตนเคยไปบอกกับกำนันลี ว่า จุดที่สร้างบ้าน คือที่ของป้าเองนะ สมัยนั้นตอนที่บอกกำนันลี ยังไม่ได้เป็นกำนัน ยังเป็นทหารอยู่ ซึ่งกำนันลี ก็ตอบกลับว่า "หากเขามาแบ่ง หรือมาจัดสรรให้วันไหน ป้าก็มาเอา" คำๆนี้หวังว่า กำนันลี คงจำได้

ส่วนได้บอกกับเจ๊รัตน์ เองหรือไม่นั้น ป้าผิน กล่าวทำนองว่า ทั้ง 2 คน เป็นสามีภรรยากันอยู่ ขณะนั้นคงแจ้งกันให้ทราบ

เมื่อถามย้ำ ถึงประโยคที่เจ๊รัตน์ บอกว่า "หากมาบอกสักนิดว่าเป็นที่ของใคร คงไม่บ้าไปสร้างบ้านในที่ของคนอื่น" ป้าผิน สวนกลับว่า กล้าสาบานมั้ยล่ะ? ถึงป้าจะไม่ได้พูด แต่พี่สาวของป้าก็เป็นคนแจ้งให้ทราบว่าเป็นที่ของครอบครัวป้า


"คนเราโตแล้วไม่ต้องไปบอก รู้อยู่แก่ใจว่าเป็นของของเขา จะอยากได้ไปทำไม ทำมาตั้ง 30-40 ปีแล้ว คงจะพอแล้ว คนเราต้องรู้จักพอซะบ้าง ตายไปก็เอาไปไม่ได้"

ป้าผิน ยังเล่าด้วยได้ว่า เจ๊รัตน์ เคยมาว่าตนเป็นคนไม่มีศีลธรรม แต่อยากขอบอกว่า พูดอะไรเข้าตัวเองหมด

เมื่อถามอีกถึงประเด็นที่ เจ๊รัตน์ ย้ำชัด ไม่เคยฮุบที่ดินของใคร ฟังแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง ป้าผิน ถึงกับอุทานแล้วบอกว่า "อื้อหือ พี่น้องคนไทยก็ดูเอาเถอะ ฟ้ามีตา เทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็มี"

ป้าผิน กล่าวว่า รู้สึกดีใจหลังเจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติการรื้อบ้านในที่ของตน จะได้เอาที่ดินของไทยกลับขึ้นมา ยืนยันไม่มีความรู้สึกสงสาร อยากให้เจ้าหน้าที่กวาดให้เกลี้ยง ป้าไม่ให้อยู่เป็นที่ไม่ดีกับที่ของป้า และจากนี้หากสามารถกลับเข้าไปที่ของตัวเองได้จากทำกลับให้เป็นที่นา เป็นที่ทำกินเหมือนที่พ่อแม่เคยทำมา

ส่วนที่เจ๊รัตน์ อยากให้เจ้าหน้าที่สงสาร เหลือที่ไว้ให้อยู่บ้าง ป้าผินบอกว่า เขาให้เวลามาตั้ง 2-3 เดือน ไปแกะเอาสิฝาบ้าน ก่อนจะบอกว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้รื้อบ้านในที่ของตัวเองแล้ว ตัวเองก็อโหสิกรรมให้กับเจ๊รัตน์ ไม่ผูกพยาบาทใคร ใครทำอะไรก็ได้แบบนั้น และคงไม่มีการไปแจ้งความบุกรุกแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามสำหรับการรื้อบ้านเพื่อจัดระเบียบพื้นที่บ้านหนองจาน จุดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นหลักแรง ที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยสามารถยึดบ้านคืนได้ ซึ่งมีทั้งหมด 6 หลัง รวมถึงบ้านกำนันลีด้วย โดยคาดว่าจะทยอยดำเนินการอย่างต่อเนื่องในอนาคต รวมถึงอาจต้องรอผลการประชุม JBC ล่าสุด ที่ จ.จันทบุรี ซึ่งมีวาระการพูดคุยประเด็นพื้นที่บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้วด้วย ว่าผลเจรจาจะออกมาเป็นอย่างไร

คุณอาจสนใจ

Related News