สังคม
ช่วย 11 คนไทยเกือบถูกพาข้ามแดน ยอมรับโดนชวนทำงานผ่านเพจ อ้างรับงานกลับไปทำบ้านได้
14 ต.ค. 2568
77 views
ช่วย 11 คนไทย ถูกชวนทำงานผ่านเพจ อ้างรายได้ 2 หมื่นบาท มีคอมฯ-มือถือให้ เอามาทำที่บ้าน แต่กลับโดนนำตัวรอส่งข้ามไปปอยเปต ตร.ดำเนินคดี 2 ราย คดีเสพยาเสพติด-บัญชีม้า ที่เหลือปล่อยกลับบ้าน
เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2568 สภ.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ภายหลังเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน นำโดยคุณเบิร์ด พร้อมด้วยคนไทยทั้ง 11 คน ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากชุดเฉพาะกิจกองกำลังบูรพา หลังถูกหลอกลวง เตรียมพาข้ามแดนไปทำงานในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยอ้างว่า รายได้สูงกว่า 2 หมื่นบาท หลังผู้ปกครองของในจำนวนนั้น 2 ราย ร้องขอความช่วยเหลือจากศูนย์ช่วยเหลือคนไทยฯ และได้รับแจ้งข้อมูลและเบาะแสจากพลเมืองดี จนนำไปสู่การบุกช่วยเหลือ เมื่อช่วงค่ำวานนี้
พ.ต.อ.ชูชาติ คงเมือง ผกก.สภ.อรัญประเทศ เปิดเผยว่า เหยื่อทั้ง 11 ราย ได้กระจายให้พนักงานสอบสวนเร่งสอบปากคำและทำบันทึกไว้ทั้งหมด ซึ่งในจำนวน 11 ราย ถูกดำเนินคดี 2 ราย คดีเสพยาเสพติดและมีหมายจับบัญชีม้า หลังจากนี้จะเร่งเอาผิดกับเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลของพนักงานสอบสวน รายชื่อของเหยื่อทั้ง 11 คน ประกอบด้วย 1. น.ส.วิภาสิริ อายุ 27 ปี 2.น.ส.รุ่งทิวา อายุ 19 ปี 3.นายธวัฒชัย อายุ 19 ปี 4.นายอาตา อายุ 22 ปี 5.นายสามารถ อายุ 31 ปี 6.นายกิตติศักดิ์ อายุ 21 ปี 7.นายณัฐรินทร์ อายุ 31 ปี 8.น.ส.ปริญญา อายุ 24 ปี 9.นายธนพล อายุ 26 ปี 10.นายจีระศักดิ์ อายุ 25 ปี และ 11.เยาวชนหญิง อายุ 18 ปี
การสอบปากคำ เหยื่อทุกรายให้การว่า ค้นหางานผ่านเฟซบุ๊กและเพจชื่อ “ทำงานที่บ้าน” โดยมีข้อมูลระบุว่า มีงานในประเทศกัมพูชา รายได้เดือนละ 20,000-25,000 บาท พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ให้ติดต่อ เมื่อผู้เสียหายติดต่อไปยังเบอร์ดังกล่าว ก็มีการนัดหมายให้เดินทางมาที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งทั้งหมดเดินทางมาจุดนัดหมายถึงช่วยเย็นที่ บขส.อรัญฯ และสถานีรถไฟอรัญประเทศ จึงให้พักที่โรงแรมใกล้กับ บขส.อรัญฯ 1 คืน จากนั้นก็พาไปอยู่ที่เซฟเฮ้าส์ดังกล่าว เพื่อรอเวลาพาข้ามแดนในช่วงค่ำของวันเกิดเหตุ
ผู้เสียหายรายหนึ่ง พร้อมแฟนเดินทางมาจาก จ.เชียงใหม่ เพื่อทำงานดังกล่าว บอกว่า ระหว่างอยู่ที่บ้านเซฟเฮ้าส์จุดเกิดเหตุ เพื่อรอข้ามแดนไปทำงานในฝั่งกัมพูชา รู้สึกว่าน่าจะถูกหลอกลวงไปทำงานคอลเซ็นเตอร์จึงแจ้งให้ญาติทราบ เพื่อขอความช่วยเหลือ กระทั่งศูนย์ช่วยเหลือคนไทยฯ ได้ประสานเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ ซึ่งตอนที่อยู่ที่บ้านหลังนั้น ไม่ได้ถูกทำร้ายแต่ไม่ให้ออกไปไหน มีคนดูแลควบคุมไว้ โดยคนผู้ดูแลได้หายตัวไปก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้าช่วยเหลือไม่นาน
ขณะที่คุณเบิร์ด จากศูนย์ช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน กล่าวว่า ทั้ง 11 คน ได้กลับบ้านไปก่อนแล้ว 2 รายซึ่งร้องขอความช่วยเหลือ เพราะมีญาติมารับ ส่วนอีก 9 คน พบว่า ถูกดำเนินคดี 2 ราย คดีเสพยาเสพติดและมีหมายจับบัญชีม้าอีก 1 ราย ที่เหลืออีก 7 คน จะส่งตัวไปที่ศูนย์ฯ เพื่อแจ้งข้อมูลแล้วส่งกลับบ้าน เนื่องจากยังไม่พบว่า กระทำความผิดหรือข้ามฝั่งไปยังประเทศกัมพูชา จึงอยากเตือนเยาวชนและผู้ปกครองว่า การหางานผ่านเพจที่อ้างว่า มาฝึกงาน มาอบรม พื้นที่อรัญประเทศ 4-5 วัน มีโน๊ตบุ๊ก มีโทรศัพท์มือถือ สามารถรับงานกลับไปทำที่บ้านได้ พวกนี้คือหลอกทั้งหมด ลักษณะการหลอกว่า มีงานเช็กสต็อก ลงโกดังของ ขับรถ เป็นแม่บ้าน ตามแนวชายแดน แล้วให้เปิดบัญชีมาเยอะๆ ดูไว้เลยว่า นี่คือการหลอกลวงแน่นอน และก็ไม่มีงานไหนที่ไม่ต้องลงทุนอะไร มีทุกอย่างให้หมด รับคนถึงบ้าน มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ไม่มีแน่นอน พวกนี้คือหลอกมาทำบัญชีม้าทั้งหมด สำหรับคนที่ประสบเหตุและชัดเจนว่า เป็นการหลอกลงให้ข้ามแดน ถ้ารู้ตัวว่า ประสบเหตุแล้ว หรือว่าถูกหลอกแน่ๆ ให้โทรแจ้ง 191 ไว้ก่อน และถ้ามีเวลาก็ประสานไปที่ศูนย์ประสานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน ภาคตะวันออก (IMF) ได้ มีเบอร์โทรศัพท์ 0987106491
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามผู้เสียหายเบื้องต้น พบว่า ผู้เสียหายทั้งหมดให้การตรงกันว่า
1.ได้สมัครงานผ่านเพจหางานในสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีการโฆษณาชักชวนให้ไปทำงานในประเทศกัมพูชา ระบุรายได้เดือนละประมาณ 20,000-25,000 บาท
2.ความอยากมีงานทำจึงโทรติดต่อไปยังเบอร์ที่ปรากฏแล้วนัดหมายจุดนัดพบ โดยทั้งหมดเดินทางไปถึง อ.อรัญประเทศ ในช่วงบ่ายถึงค่ำ
3.จากนั้นได้มีชายไทยไม่ทราบชื่อ ขับรถกระบะมารับจากจุดนัดหมายต่างๆ เช่น สถานีขนส่งผู้โดยสารอรัญประเทศ และสถานีรถไฟอรัญประเทศ ก่อนพามาพักรวมกันที่บ้านหลังดังกล่าว
4.อ้างว่ารอเดินทางข้ามไปทำงานที่ฝั่งกัมพูชา ซึ่งในระหว่างรอได้มีผู้เสียหายคนหนึ่งเกิดความสงสัยว่าเมื่อไปถึงกัมพูชาแล้วจะได้ทำงานจริงหรือไม่ และเกรงว่าจะถูกหลอกไปทำงานผิดกฎหมาย
5.คาดว่าจะถูกหลอกไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงโทรศัพท์ติดต่อญาติให้แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานกับทหารกองกำลังบูรพาเข้าให้การช่วยเหลือได้ทัน ก่อนทั้งหมดจะถูกพาออกนอกพื้นที่
6.ส่วนเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวไหวตัวหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะถึงจุดเกิดเหตุ
7.สอบถามปากคำผู้เสียหายทั้งหมดไว้เป็นพยาน เพื่อรวบรวมข้อมูลประกอบการสืบสวนและติดตามหาตัวผู้กระทำผิด รวมถึงผู้ร่วมขบวนการ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
แท็กที่เกี่ยวข้อง ช่วยคนไทย ,หลอกทำงานกัมพูชา ,สระแก้ว