สสจ.บุรีรัมย์ แจงสาเหตุไม่ล้างท้อง ชายเมาค้างเผลอซดน้ำยาล้างห้องน้ำ ชี้น้ำยามีฤทธิ์กัดสนิม

จากกรณี นายนัฐวุฒิ อายุ 44 ปี ดื่มน้ำยาล้างห้องน้ำที่ญาติแบ่งใส่ขวดน้ำอัดลมไว้ เพราะคิดว่าเป็นน้ำหวาน หลังจากมีอาการแฮงค์เหล้าที่ดื่มมาตั้งแต่กลางคืน โดยหลังจากดื่มไปแล้ว และรู้ว่าเป็นน้ำยาล้างห้องน้ำ ญาติได้พาไปรักษาที่โรงพยาบาลในอ.สตึก ทันที ด้วยอาการอาเจียน เวียนศีรษะ พร้อมกับนำตัวอย่างน้ำยาล้างห้องน้ำไปให้หมอตรวจสอบและรักษาได้อย่างถูกต้อง แต่หมอกลับฉีดยาให้ 1 เข็ม สั่งจ่ายยาแล้วอนุญาตให้กลับบ้าน เพียง 5 ชั่วโมงหลังจากนั้น นายนัฐวุฒิ เกิดอาการช็อกและเสียชีวิต

เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ญาติต่างตั้งข้อสงสัยถึงวิธีการรักษาของหมอ ว่าดำเนินการไปอย่างถูกต้องหรือไม่ ทำไมไม่มีการล้างท้องคนไข้ ทั้งที่รู้สาเหตุและมีตัวอย่างชัดเจน แต่กลับปล่อยให้คนไข้กลับไปดูอาการที่บ้านจนเสียชีวิต

ล่าสุด นายแพทย์พิเชษฐ พืดขุนทด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ออกมาระบุถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า การพลั้งเผลอดื่มน้ำยาล้างห้องน้ำที่ยังมีคุณสมบัติกัดสนิมได้ ซึ่งน้ำยาตัวนี้มีฤทธิ์เป็นกรด ฤทธิ์ตัวนี้จะมีข้อห้ามของเรื่องการล้างท้อง เพราะการล้างท้องจะต้องใส่สายไปทางจมูก ส่งไปที่กะเพาะอาหาร การทำแบบนี้จะทำให้สารเคมีซึ่งเป็นกรดเป็นด่างที่อยู่ในช่องท้องไหลย้อนกลับคืนมาได้อีก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดแผลของหลอดอาหาร และอาจจะทำให้หลอดอาหารทะลุได้ และยังมีโอกาสกระจายไปที่ปอด ทำให้ติดเชื้อเกิดอาการรุนแรง กรณีนี้จึงไม่สามารถล้างท้องได้

นายแพทย์พิเชษฐ กล่าวด้วยว่า กรณีที่มีการอาเจียนเกิดขึ้น ผู้ตายได้ดื่มสุรามาด้วย สาเหตุที่หมอให้กลับบ้าน เพราะคนไข้มีอาการดีขึ้น และได้ย้ำให้ญาติดูอาการ หากรุนแรงก็ให้กลับมารักษาต่อ

อย่างไรก็ตาม กรณีที่เกิดความสูญเสียขึ้นแล้ว ทางสาธารณสุขจะต้องมีการเยียวยาและดูแลญาติต่อไป ทั้งนี้ต้องขอฝากเตือนประชาชนทั่วไปในเรื่องของการใช้ภาชนะใส่วัตถุอันตรายให้ควรระวัง ซึ่งได้สั่งการให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน (รพ.สต.)ในพื้นที่ เร่งตรวจสอบ และตามหาว่าขวดน้ำยาล้างห้องน้ำที่มีการแบ่งกันไปใช้ เก็บอย่างมิดชิดดีหรือไม่ เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการซ้ำซ้อนอีก