สังคม

อุกอาจ! 8 คนร้าย ควงอาวุธครบมือบุกปล้นทองหนัก 400 บาท ในห้างดังสุไหงโกลก

6 ต.ค. 2568

285 views

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 5 ต.ค.68 พ.ต.อ.เจษฎาวิทย์ อินทร์ประพันธ์ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้าย 8 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ บุกปล้นร้านทองรูปพรรณ ภายในห้างแห่งหนึ่ง บน ถ.ประชาวิวัฒน์ ต.สุไหงโก-ลก โดยคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ รปภ.ของห้าง พร้อมตรวจยึดวิทยุสื่อสาร ก่อนกวาดทองรูปพรรณที่อยู่ในตู้โชว์ภายในร้านไปเกือบหมดทั้งร้าน น้ำหนักประมาณ 400 บาท

นอกจากนี้คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิง ส.อ.บุริศวร์ ชป.รพศ.408 ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย โดยถูกกระสุนเข้าที่บริเวณไหล่ขวา ขาซ้ายและเฉี่ยวแก้ม รวม 3 นัด ขณะเดินซื้อสิ่งของ ส่วนคนร้ายหลบหนีโดยขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็ก ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน หลบหนีไปมุ่งหน้าไปเส้นทาง อ.สุไหงปาดี โดยมีการวางวัตถุต้องสงสัยเป็นถังแก๊สหุ้งต้ม พร้อมโปรยตะปูเรือใบบนถนน ทำให้มีรถของประชาชนที่สัญจรไปมาถูกตะปูเรือใบได้รับความเสียหายไปหลายคัน

ด้าน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ว่าในวันที่ 5 ต.ค.68เวลา 18.29 น. เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ของหน่วยเฉพาะกิจสันติสุข ที่อยู่ระหว่างซื้อของภายในห้าง จนได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ทราบชื่อคือ สิบเอกบุริศวร์ ซึ่งปัจจุบันได้นำส่งโรงพยาบาล เพื่อรับการรักษาจากทีมแพทย์จนมีอาการปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อย

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ปัจจุบันกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกส่วน เร่งติดตามเส้นทางการหลบหนีของกลุ่มผู้ก่อเหตุเพื่อนำมาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากพบว่าผู้ก่อเหตุได้มีการกระทำในลักษณะการวางแผนมาล่วงหน้า ทั้งการโจรกรรมรถยนต์ของชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งเป็นรถที่ใช้ในการก่อเหตุ ได้แก่ รถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแม๊กซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กค 6521 นราธิวาส และรถยนต์กระบะ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บท 7187 ปัตตานี รวมทั้งการตรวจพบวัตถุต้องสงสัยเพิ่มเติมในเส้นทางการหลบหนีของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ทั้งระเบิดแสวงเครื่อง บริเวณยูเทิร์นหน้าห้างบิ๊กซี พร้อมกับการวางตะปูเรือใบ บนถนนบ้านโต๊ะลือเบ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ซึ่งคาดว่าเพื่อเป็นการสกัดกั้นการติดตามของเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในการประกอบกิจกรรมต่างๆ ซึ่งหากพบเบาะแสของกลุ่มผู้เหตุสามารถแจ้งผ่านทางสายด่วนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าได้ในทันที

คุณอาจสนใจ

Related News